ผบ.ตร.แถลงความคืบหน้าคดีระเบิดป่วนกรุง โยงการเมือง 80% แต่ยังไม่รู้ผู้บงการ

ผบ.ตร.แถลงความคืบหน้าคดีระเบิดป่วนกรุง โยงการเมือง 80% แต่ยังไม่รู้ผู้บงการ

ผบ.ตร.แถลงความคืบหน้าคดีระเบิดป่วนกรุง โยงการเมือง 80% แต่ยังไม่รู้ผู้บงการ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผบ.ตร.นำทีมแถลงระเบิดป่วนกรุง จับแล้ว 2 ราย วางบึ้มป้าย สตช. คาด มีผู้ร่วมก่อเหตุกว่า 15 ราย

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาตินำทีมสืบสวนสอบสวนคดีระเบิดหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แถลงความคืบหน้าภาพรวมของคดีระเบิดป่วนกรุง ซึ่งหลังเกิดเหตุไม่ถึง 10 ชั่วโมง สามารถจับผู้ต้องหาได้ทันที 2 คน คือ นายลูไอ อายุ 22 ปี ทำหน้าที่วางระเบิด และนายวิลดัน อายุ 29 ปี เป็นมือวางระเบิดและดูต้นทาง โดยจับได้ที่จุดตรวจปฐมพร จังหวัดชุมพร เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา อั้งยี่ซ่องโจร, มีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครอง และข้อหาพยายามฆ่า

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 รายให้การเป็นประโยชน์ แต่ระบุได้เพียงว่าอยู่ในระดับปฏิบัติการและมีการเตรียมการมาเป็นอย่างดี จากการเตรียมชุดมาเปลี่ยนถึง 5 ชุด ประกอบด้วยหมวก 5 ใบ เสื้อ 5 ตัว กางเกง 5 ตัว รองเท้า 5 คู่ หมวก 5 ใบ แว่นตา 5 อัน ขณะที่แผนประทุษกรรมและความเชื่อมโยงของระเบิดแต่ละจุด มองว่าไม่ประสงค์ถึงแก่ชีวิต อีกทั้งจากการตรวจสอบพบเคยมีประวัติร่วมก่อเหตุโจมตีฐานนาวิกโยธิน ที่จังหวัดนราธิวาส เมื่อปี 2556

นอกจากนี้ ส่วนตัวมองว่าจากเหตุการณ์ระเบิดที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยและจากประสบการณ์ เชื่อว่าร้อยละ 80 มีความเกี่ยวข้องกับการเมือง และที่ผ่านมาการก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่เคยมีกลุ่มไหนออกมายอมรับหรือประกาศว่าเป็นผู้ลงมือ

ด้าน พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เชื่อว่าขบวนการที่ก่อเหตุนี้ แบ่งเป็น 4 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มคนกำหนดยุทธศาสตร์, กลุ่มคนวางแผน สั่งการ กำหนดขั้นตอน วิธีการปฏิบัติ การสรรหาคน, กลุ่มคนช่วยเหลือสนับสนุน ทั้งก่อน ขณะ หลังเกิดเหตุ และกลุ่มผู้ลงมือปฏิบัติ แต่จากการสืบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ที่จับกุมได้ พบว่าเป็นกลุ่มผู้ปฏิบัติ และเชื่อว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุมากกว่า 15 คน

ขณะที่บางรายยอมรับว่าเคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนแรงจูงใจยังเปิดเผยไม่ได้ เพียงรับฟังจากมุมมองของระดับปฏิบัติเท่านั้น ซึ่งอาจไม่เข้าถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของคนกำหนดยุทธศาสตร์ แต่ยืนยันได้ว่าตำรวจมีพยานหลักฐานหลายอย่างประกอบเพื่อยืนยันตัวผู้กระทำผิด

อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจยอมรับว่ามีผู้ต้องหาบางส่วนเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ซึ่งจะต้องประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนสอบสวนต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook