ชะตาพลิกแค่ข้ามคืน สาวโดนลูกหลงยิงพิการตลอดชีวิต กระสุนฝังมา 15 ปี

สาวชัยนาทน้ำตาซึม ย้อนเล่าชีวิตพลิกผันยิ่งกว่าละคร โดนลูกหลงแก๊งวัยรุ่นยิงกัน กระสุนฝังในเอาออกไม่ได้ กลายเป็นคนพิการมา 15 ปีเต็ม ทุกวันยังอยู่ด้วยความยากลำบาก

(9 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางได้ยังบ้านหลังหนึ่งใน ต.ท่าชัย อ.เมือง จ.ชัยนาท มีสาวพิการ จากการถูกกระสุนปืนลูกหลงของวัยรุ่นที่ก่อเหตุยิงคู่อริ และไม่สามารถจับคนร้ายได้ ทำให้อนาคตวูบดับลง ในวัยกำลังเริ่มต้นทำงาน ปัจจุบันเวลาผ่านไป 15 ปี พบว่ากระสุนปืนยังฝังใน ในช่วงแรกมีแม่คอยดูแลแต่ไม่นานแม่ป่วยจนเดินไม่ได้อีกคน น้องสาวต้องรับภาระหาเลี้ยงทั้งแม่ พี่สาวและลูกตัวน้อยวัย 10 เดือน กับภาระที่ต้องหาเงินซื้อทางเข้า-ออกจากบ้านร่วมกับเพื่อนบ้าน 5 หลัง รวมเป็นเงินประมาณ 5 แสนบาท

น.ส.คนึง หรือ ตูน อายุ 40 ปี เปิดเผยว่า หลังเรียนจบ ปวส. ได้ไปทำงานโรงงานแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยนาท เงินเดือนไม่พอใช้จึงลาออก และเดินทางไปหางานทำที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำได้ประมาณ 2 ปี ก็กลับบ้านมาทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวที่ศูนย์วิจัยพืชไร่ชัยนาท พอหมดงบฯ เขาก็เลิกจ้าง จึงต้องเดินทางกลับไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยาหางานทำอีกครั้ง โดยไปหาเพื่อนเก่าที่เคยทำงานด้วยกัน

ในวันที่เกิดเหตุการณ์ขณะที่เดินทางไปหาเพื่อน ขณะกำลังจะออกไปหาของกินที่ตลาดขับรถจักรยานยนต์ไปกัน พอดีมีวัยรุ่นขับรถแข่งกัน ไม่รู้ว่าเป็นคู่อริกันหรืออย่างไร ก่อนจะเกิดการยิงกันเราผ่านไปพอดีโดนลูกหลง กระสุนปืนเข้าที่สะบักข้างซ้าย ทะลุปอด 2 ข้าง เข้ากระดูกสันหลัง และซี่โครงหัก 1 ซี่ กระสุนมาฝังอยู่ไหล่ขวา อาการสาหัสนอนไอซียู และรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นเดือน แต่ปรากฏว่าไม่มีโอกาสหายเป็นปกติ เพราะกระสุนปืนไปโดนเส้นประสาทไขสันหลัง ทำให้เดินไม่ได้อีก

น.ส.คนึง กล่าวว่า ทุกวันนี้ต้องเป็นคนพิการอยู่บนวีลแชร์มาเป็นเวลา 15 ปี กระสุนปืนยังฝังอยู่ เพราะไม่สามารถผ่าตัดออกได้ ประกอบกับแม่ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ทำให้ขาอ่อนแรงไม่สามารถเดินได้ ต้องนั่งวีลแชร์เช่นเดียวกัน และต้องเลี้ยงหลานวัน 10 เดือน ซึ่งเป็นลูกของน้องสาวที่ต้องออกไปทำงาน เป็นกำลังหลักของบ้าน ส่วนสามีของน้องสาวก็แยกย้ายไปมีครอบครัวใหม่ ทำให้รายได้มาจากน้องสาวเดือนละ 8,000 บาท และรายได้เสริมจากทำขนมบ้าง ทำริบบิ้นพวงมาลัยบ้างแต่ก็ไม่ค่อยพอใช้

สำหรับภาระในตอนนี้ ต้องจ่ายค่าที่ดินปีละ 10,000 บาท เพราะเจ้าของที่ดินตรงทางออกได้ขายที่ดินไปแล้ว โดย 5 หลังคาเรือนที่ต้องใช้ทางออกดังกล่าวต้องช่วยกันจ่าย ทำสัญญา 5 ปี ในปีสุดท้ายต้องจ่ายทั้งหมดตามเนื้อที่ ประมาณ 2 งาน รวมเป็นเงินทั้งหมดประมาณ 5 แสนบาท

หากครบ 5 ปี บ้านใดบ้านหนึ่งไม่จ่ายเงินให้เขาจะเป็นโมฆะ คือเงินที่จ่ายไปทั้งหมดถือเป็นโมฆะ ตอนนี้จ่ายไปแล้ว 3 ปี เหลืออีก 2 ปี ต้องเตรียมเงินไว้ประมาณ 50,000 บาท เพื่อจ่ายงวดสุดท้ายรวมกับบ้านที่เหลือด้วย

ทั้งนี้ ผู้มีจิตเป็นกุศลต้องการช่วยเหลือ สามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) บัญชีออมทรัพย์ สาขานางลือ เลขที่ 020154710966 ชื่อบัญชี นางสาวคะนึง ฟักทอง โดย น.ส.สุกัญญา ฟักทอง