ตำรวจจับคนร้ายย่องเข้ารีสอร์ต ปล้นทำร้ายสาวเมืองกรุง พบยังเป็นแค่เยาวชน
ตำรวจรวบตัว เยาวชนวัย 17 บุกปล้นทำร้ายสาวคารีสอร์ต เจ้าของยืนยันไม่ได้ปัดความรับผิดชอบ แต่เจรจาค่าเสียหายไม่ได้ ด้านผู้เสียหายเปิดใจสภาพจิตใจแย่ ยังหวาดระแวงไปหมด
จากกรณีที่หญิงสาววัย 26 ปี ได้โพสต์ภาพและเรื่องราวเหตุคนร้ายบุกงัดเข้าห้องพัก และทำร้ายร่างกาย ก่อนจะปล้นชิงทรัพย์สินเป็นเงินสด 1,000 บาท และรองเท้าแตะ 1 คู่หลบหนีไป ภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 4 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าของรีสอร์ตเสนอจ่ายเงินหมื่น เพื่อต้องการให้จบเรื่อง ตามข่าวที่รายงานไปแล้วนั้น
ล่าสุดในวันนี้ (9 ส.ค.) พันตำรวจเอก ต่อศักดิ์ ธรรมมิ่งมงคล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบัวใหญ่ เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว พบว่าเป็นเยาวชนชายอายุ 17 ปี อาศัยอยู่ในละแวกรีสอร์ตที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายโอม (นามสมมติ) ได้ให้การสารภาพว่าเข้าไปในห้องพักของผู้เสียหายจริง เนื่องจากประสงค์ต่อทรัพย์สิน ทั้งนี้มีรายงานว่านายโอมมีอาการผิดปกติทางประสาท ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้ประสานเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพเข้าร่วมสอบปากคำผู้ต้องหารายนี้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> สาวเล่านาทีชีวิตคนร้ายบุกห้องทำร้ายร่างกาย เจ้าของรีสอร์ตขอจ่าย 1 หมื่น จบเรื่อง
ขณะที่ นางสาวสรินหทัย ผู้ดูแลรีสอร์ตที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุทางรีสอร์ตก็ได้วางมาตรการดูแลห้องพักเข้มงวดมากกว่าเดิม โดยไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิดในวันที่เกิดนั้น กล้องวงจรปิดของทางรีสอร์ตเกิดระบบเซฟเวอร์พังพอดี ขณะนี้ได้ให้ช่างมาติดตั้งปรับปรุงแก้ไขระบบกล้องวงจรปิดใหม่ทั้งหมดแล้ว
ทั้งนี้ทางรีสอร์ตพร้อมจะรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าไม่ได้ปัดความรับผิดชอบ และไม่ได้รู้จักกับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุแต่อย่างใด แต่เนื่องจากทางผู้เสียหายเรียกร้องค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินที่สูงเกินไป จึงทำให้ยังไม่สามารถตกลงเรื่องค่าเสียหายกันได้
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับผู้เสียหายผ่านทางโทรศัพท์ โดยเจ้าตัวได้ทราบเรื่องแล้วว่า สามารถจับกุมตัวคนร้ายเอาไว้ได้แล้ว โดยในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปที่จังหวัดนครราชสีมาอีกครั้ง เพื่อชี้ตัวผู้ต้องหา ส่วนกรณีที่เจ้าของรีสอร์ตระบุว่าทางตนเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินจำนวนนับแสนบาทนั้น ตนมองว่าจำนวนเงินนั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่ตนอยากจะให้ทางรีสอร์ตแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้ เพราะเหตุร้ายเกิดขึ้นในพื้นที่ที่ดูแล
โดยหลังเกิดเหตุตนเจอเจ้าของรีสอร์ตเพียงแค่ครั้งเดียว ก็คือในวันที่เกิดเหตุ และจากวันนั้นจนถึงวันนี้ตนก็ยังไม่เคยได้รับการติดต่อจากทางรีสอร์ตมาอีกเลยสักครั้งเดียว ซึ่งสภาพบาดเจ็บทางร่างกายของตนอาจจะเจ็บไม่มากนัก แต่สภาพทางจิตใจยังย่ำแย่ เพราะตนกลายเป็นคนไม่สามารถอยู่เพียงลำพังได้เลย หวาดระแวงไปหมด