สาวปินส์สุดช้ำ! เพิ่งรู้ตัวว่ามาทีหลัง แถมคนรักตัวจริงของแฟนหนุ่ม สาดน้ำกรดใส่จนตาบอด
นางสาวกลอเรีย (สงวนนามสกุล) ชาวฟิลิปปินส์ อายุ 27 ปี ต้องสูญเสียการมองเห็นไปตลอดชีวิต เพราะโดนชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนรักตัวจริงของแฟนหนุ่มของตน สาดน้ำกรดใส่ใบหน้า
เพิ่งรู้เป็นแฟนน้อย
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อนางสาวกลอเรีย เริ่มคบหากับนายจอห์น (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี โดยที่ไม่ทราบว่านายจอห์น ยังคงคบกับชายอีกคน ซึ่งก็คือ นายเรมอน (สงวนนามสกุล)
วันหนึ่งเมื่อนางสาวกลอเรียทราบเรื่องเข้า นายจอห์นกลับบอกตนว่าเลิกกับนายเรมอนไปแล้ว แต่ทั้งนายจอห์นและนายเรมอนก็ยังแอบไปมาหาสู่กันเรื่อยๆ
แฟนหลวงบุกแก้แค้นถึงที่ทำงาน
จุดพลิกผันของเรื่องเกิดขึ้นเมื่อนายเรมอนรู้เรื่องที่นายจอห์นคบซ้อนกับนางสาวกลอเรีย ทำให้ชายคนนี้บุกไปหาทั้ง 2 คนถึงศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง ในเมืองปาไซซิตี ที่ทั้งคู่ทำงานอยู่ เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา และสาดน้ำกรดใส่ใบหน้านางสาวกลอเรีย จนทำให้ใบหน้ามีแผลเหวอะหวะและเสียโฉม ทั้งยังสูญเสียการมองเห็นไปด้วย
นางสาวกลอเรีย บอกว่า ตนเพิ่งเคยเจอนายเรมอนเป็นครั้งแรกตอนที่เกิดเหตุ จากนั้นก็มีปากเสียง นายเรมอนบอกตนอีกว่า ตนเป็นสาเหตุให้ต้องเลิกกัน
สาดน้ำกรดจนผิวดวงตาละลาย
สาวเคราะห์ร้ายคนนี้ พูดต่อไปว่า นายเรมอนร้องไห้กับตนและบอกว่ารักนายจอห์นมาก แถมยังอยู่ด้วยกันตลอดเวลาที่ตนคบกับนายจอห์น พอนายเรมอนพูดเสร็จ ก็ชวนให้ตนไปที่ประตูทางออกด้านหลังของศูนย์การค้า เพราะอีกฝ่ายบอกว่า เอาของของนายจอห์นมาคืนให้ แต่พอนายเรมอนเปิดกระเป๋า ตนก็ถูกของเหลวบางอย่างสาดเข้าที่ใบหน้า และปวดแสบปวดร้อนเข้าไปถึงดวงตา
ด้าน ดร.โดมิงกา ปาดียา ประธานมูลนิธิธนาคารดวงตา ฟิลิปปินส์ เผยว่า ดวงตาของนางสาวกลอเรียอยุ่ในภาพที่ไม่อาจจะมองเห็นได้อีกตลอดชีวิต เพราะแผลที่เกิดจากน้ำกรดเป็นแผลชนิดที่รุนแรงที่สุด จนทำให้ผิวนอกของดวงตาละลาย แต่ถ้าได้รับการดูแลอย่างดี ก็ยังมีโอกาสกลับมามองเห็นได้
ส่วนนายเรมอน ถูกจับได้ที่บ้านเกิดใน จ.บีกอล และให้การกับตำรวจว่าตนเสียใจต่อสิงที่ตนทำ