ปาดน้ำตา 8 เดือนไม่คืบหน้า คดีตำรวจเมาแล้วขับ ชนพี่น้องตาย 2 ศพ

ครอบครัวร้องผ่านสื่อ หลังลูกพี่ลูกน้องถูกตำรวจเมาแล้วขับรถชน เสียชีวิต 2 ศพ ผ่านไป 8 เดือนเต็ม คดียังไม่มีอะไรคืบหน้า ไม่เคยได้รับการเยียวยา หวั่นตำรวจช่วยพวกพ้องกันเอง

ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากครอบครัวของ นายจิตชนัย และ น.ส.มาลินี ลูกพี่ลูกน้องที่เสียชีวิตลงจากอุบัติเหตุน่าเศร้า เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา เนื่องจากถูกรถยนต์โตโยค้า วีออส สีบรอนซ์เงิน ของ ร.ต.อ.เกรียงศักดิ์ ได้ขับขี่เฉี่ยวชนบริเวณสี่แยกบ้านแลง จ.ระยอง เหตุดังกล่าวทำให้ นายจิตชนัย เสียชีวิตในที่สุด ก่อนที่ น.ส.มาลินี จะเสียชีวิตตามไปอีกราย ขณะที่ ร.ต.อ.เกรียงศักดิ์ ถูกแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ

ล่าสุดเหตุดังกล่าวผ่านไปถึง 8 เดือนเต็ม แต่ปรากฏว่าคดีดังกล่าวยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ โดยยังไม่สามารถนำตัว ร.ต.อ.เกรียงศักดิ์ มาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ ทั้งที่ให้การยอมรับสารภาพแล้วก็ตาม จึงได้ตัดสินใจนำเรื่องเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน หวังให้สำนักงานตำรวแห่งชาติช่วยจัดการและรับผิดชอบกับกรณีที่เกิดขึ้น เนื่องจากเริ่มไม่ไว้วางใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เพราะผู้ก่อเหตุต่างก็เป็นเจ้าหน้าที่้ด้วยกัน

ทั้งนี้ จากการสอบถามและติดตามสำนวนคดีกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับคำตอบเพียงว่า สำนวนคดีอยู่ที่อัยการเพียงอย่างเดียว โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็ได้รับการเยียวยาค่าทำศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เป็นจำนวนเงินเพียง 10,000 บาทเท่านั้น

ส่วนการเรียกร้องถึงค่าเสียหายในการเสียชีวิตของทั้ง 2 รายนั้น ได้เรียกค่าชดเชยไปรายละ 2 ล้านบาท แต่ก็ถูกต่อรองเหลือรายละ 2 แสนบาท ซึ่งทุกคนในครอบครัวไม่สามารถยอมรับวงเงินดังกล่าวได้ และที่สำคัญเงินเยียวยาจากบริษัทประกันภัยของรถยนต์คันที่เกิดเหตุได้ปิดกิจการไปแล้ว ทำให้ปัจจุบันทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตยังไม่ได้รับเงินเยียวยาที่จะชดใช้ใดๆ จากคู่กรณี

ทางครอบครัวต้องดำเนินการเรียกร้องเองตามขั้นตอนของกระบวนการของกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับประกันภัยเอง ความเดือดร้อนที่ตามของการเสียชีวิตของบุคคลทั้ง 2 ราย ก็คือทำให้สูญเสียรายได้จากการรับจ้างจัดโต๊ะจีน จากอดีตที่เคยมีรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 30,000 บาท ทำให้ปัจจุบันมีเพียงหนี้สินจำนวนมาก บ้านก็กำลังจะถูกยึด

ทางครอบครัวผู้เสียหายจึงอยากจะร้องขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติออกมารับผิดชอบในกรณีที่เกิดขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นผู้ก่อเหตุ ทำให้ครอบครัวหนึ่งต้องเสียบุคคลที่เป็นเสาหลักไปถึง 2 คนพร้อมกัน และทำให้คนที่อยู่ข้างหลัง ต้องได้รับความเดือดร้อน