“ธนาธร” มองปัญหาการเมืองทำประเทศอึมครึม แนะทางรอดต้องแก้ รธน.

“ธนาธร” มองปัญหาการเมืองทำประเทศอึมครึม แนะทางรอดต้องแก้ รธน.

“ธนาธร” มองปัญหาการเมืองทำประเทศอึมครึม แนะทางรอดต้องแก้ รธน.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ธนาธร" ชี้ปัญหาการเมืองทำประเทศอึมครึมมองไม่เห็นอนาคต ทางรอดคือต้องมีรัฐธรรมนูญใหม่ ที่เป็นประชาธิปไตย นำพาเศรษฐกิจ-สังคมที่ดี

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ระบุข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Thanathorn juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ในหัวข้อ ก่อนจะสายเกินไป ซึ่งมีเนื้อหาใจความว่า ไม่ถึงหนึ่งเดือนเต็มของรัฐบาลนี้ ประเทศไทยตกอยู่ในความอึมครึม ไม่มีใครมองเห็นอนาคตที่สดใส ผิดกับบรรยากาศและความคาดหวังของประชาชนทั่วประเทศก่อนการเลือกตั้งโดยสิ้นเชิง ซึ่งในระหว่างความอึมครึมที่มองไม่เห็นอนาคต รัฐบาลพยายามทำให้ประชาชนเชื่อว่า อย่าเพิ่งสนใจปัญหาการเมือง เพราะต้อง “แก้ปัญหาปากท้อง” ก่อน

ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากปัญหาการเมือง มาจากรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2560 ตามที่หลายฝ่ายได้เคยตั้งข้อสังเกตเอาไว้ ภายใต้ภาวะการณ์ การเมืองเช่นนี้ การแก้ปัญหาปากท้องก่อนแก้ปัญหาการเมือง จึงเป็นไปไม่ได้ และเป็นแค่คำลวง เพราะการพัฒนาเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง, มีคุณภาพ, และยั่งยืน ไม่สามารถเกิดได้เลยใต้สภาพการเมืองปัจจุบัน

พรรคอนาคตใหม่ มีข้อเสนอว่าจำเป็นต้องเริ่มต้นปรึกษาหารือกันเพื่อสร้างกฎกติกาการเมืองใหม่ ที่ทุกฝ่าย ทุกทัศนคติทางการเมือง สามารถอยู่ร่วมกันได้และตอบสนองความต้องการร่วมของสังคมได้ จำเป็นต้องร่วมกันแสวงหาระบบสังคมการเมืองที่มีฐานความชอบธรรมทางประชาธิปไตย, สะท้อนอำนาจและเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง, ก่อให้เกิดรัฐบาลและรัฐสภาที่มีประสิทธิภาพ, พร้อมกับมีระบบการตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจตามหลักนิติรัฐ ถ้าสังคมไทยมีระบบสังคมการเมืองที่เป็นที่ยอมรับร่วมกันแล้ว จะเปิดทางให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างจริงจังและอย่างสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และเชื่อว่าระบบการเมืองที่ดี จะนำมาซึ่งการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมที่ดี ด้วยการสร้างกฎกติกาการเมืองใหม่เท่านั้นที่จะสร้างพื้นฐานให้สังคมไทยก้าวเดินไปข้างหน้าได้

อย่างไรก็ตาม การมี รัฐธรรมนูญใหม่ ที่ทุกฝ่ายยอมรับคือการปลดล็อกประเทศให้เดินไปข้างหน้าได้ และนี่ไม่ใช่ “ทางเลือก” แต่เป็น “ทางรอด” ทางเดียวที่เหลืออยู่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook