ตะครุบแก๊งปาหินมอเตอร์เวย์ ตะลึง หัวหน้าแก๊งอายุแค่ 12 ขวบ อ้างไม่ตั้งใจทำร้ายใคร

เมื่อเวลา 15.00 น. (12 ส.ค.62)  พ.ต.ท.ภาคสุวัฒน์ ชมถนอม รอง ผกก.สส.สภ.บางพลีน้อย สมุทรปราการ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาแก๊งปาหิน ได้ผู้ต้องหาเป็นเยาวชนอายุระหว่าง 12 -17 ปี รวม 5 คน

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 10 สิงหาคม ที่ผ่านมา ในระหว่างที่ นายก้องเพชร อายุ 42 ปี กำลังขับรถบรรทุก อยู่บนถนนมอเตอร์เวย์ขาออกมุ่งหน้าชลบุรี หลักกิโลเมตรที่ 37 หมู่ 3 ต.คลองนิยมญาตา อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ได้ถูกกลุ่มคนร้ายใช้ก้อนหินขนาดใหญ่น้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม ใส่กระจกหน้ารถจนแตก ก้อนหินดังกล่าวกระแทกใส่นิ้วกลางและนิ้วนางข้างซ้ายที่กำพวงมาลัยอยู่จนเนื้อแตก ก่อนที่จะบังคับรถเข้าจอดข้างซ้าย ได้พบเห็นกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นวัยรุ่นประมาณ 4-5 คนอยู่บนสะพานข้ามถนนมอเตอร์เวย์ จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.บางพลีน้อย สมุทรปราการ กระทั่งช่วงบ่ายของวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งหมดได้ยกแก๊ง

จากการสอบสวนทราบว่าแก๊งผู้ก่อเหตุมีเด็กชายวัย 12 ปี เป็นหัวหน้าแก๊ง ชักชวนเพื่อนรุ่นพี่มาก่อเหตุ และในระหว่างเจ้าหน้าอยู่ระหว่างสอบสวนผู้ก่อเหตุได้มี นายสุรศักดิ์ อายุ 37 ปี ผู้เสียหายอีกรายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ,บางพลีน้อย สมุทรปราการ ว่าระหว่างที่ตนและพวกรวม 4 คน กำลังขับรถยนต์กระบะแบบแค็ป เพื่อเดินทางไปติดตั้งพระฉายาลักษณ์ที่จังหวัดระยอง ขณะที่ตนขับรถยนต์กระบะผ่านที่เกิดเหตุได้ถูกปาก้อนหินขนาดเล็กใส่กระจกหน้ารถจนแตกและทะลุเป็นรู ก้อนหินเข้าไปตกอยู่ในรถ โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่ความรีบที่ตนต้องไปทำงาน ตนจึงได้ขับรถต่อไปทั้งๆ ที่กระจกหน้าแตก พอเสร็จงานจึงได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว เหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 5 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา

ด้านเด็กชายวัย 12 ปี หัวหน้าแก๊งได้ยอมรับ ว่าตนเองคือหัวหน้าแก๊งโดยมีลูกน้องที่เป็นรุ่นพี่ในหมู่บ้านรวมตัวกันทั้งหมด 5 คน ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง โดยตนจะชักชวนและพากันขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปจอดบนกลางสะพานข้ามมอเตอร์เวย์ ก่อนจะใช้ก้อนหินที่เตรียมมาโยนลงถนนโดยหวังเพียงให้ถูกหลังคาตู้รถบรรทุกเท่านั้นเพื่อให้เกิดเสียงดัง แต่มารอบล่าสุดเกิดพลาดตกใส่กระจกหน้ารถหลังก่อเหตุจึงพากันหลบหนีกลับมาบ้านพักและอาศัยอยู่บ้านตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตามจับกุม

ส่วนสาเหตุที่ทำไปอ้างว่า เกิดจากความคึกคะนองและความสนุกสนานเท่านั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ตั้งข้อหาใดต้องรอสอบปากคำพร้อมกับทีมสหวิชาชีพ อีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป