คลิป!!"โย"โวยผู้จัด"ภูเก็ตแฟชั่นวีก"เลิกจ้างกะทันหัน
โย ยศวดี หัสดีวิจิตร มึนถูกผู้จัดงาน ภูเก็ตแฟชั่นวีก เลิกจ้างกะทันหัน แจงไม่อยากฟ้องแต่อยากให้รับผิดชอบบ้าง เพราะช่วง 7 วันที่ถูกยกเลิกเดินแบบทำให้ขาดรายได้ ด้านผู้จัดงานยันไม่ได้ติดต่อประสานงานกับ 7 นางแบบที่ออกมาโวยให้ร่วมงาน
จู่ๆ ถูกยกเลิกเดินแบบในงาน ภูเก็ต อินเตอร์เนชั่นแนล แฟชั่น วีก 2009 กะทันหัน จนต้องแท็กทีมเพื่อนๆ ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม ซึ่ง โย ยศวดี ได้แจงถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า
"โยและเพื่อนๆ ได้รับการติดต่อให้ไปเดินแบบในวันแถลงข่าวงานภูเก็ตแฟชั่นวีก ที่มีนายไตรสรณ์ ไตรบุญ เป็นเจ้าของงาน เมื่อเดือนที่แล้วที่พารากอน ซึ่งหลังแถลงข่าวก็มีการคอนเฟิร์ม ว่าในวันงานพวกเราจะได้ไปเดินแบบด้วย จนวันเสาร์ที่ผ่านมา (20 มิ.ย.) ก็เพิ่งจะรู้ว่าไม่ได้ไป ทำให้ได้รับผลกระทบเพราะโยต้องยกเลิกงานในช่วง 7 วันนั้น เมื่อไม่ได้ไปก็ทำให้ขาดรายได้ พวกเรามาทราบภายหลังว่านางแบบไทยทั้งหมดโดนเลิกจ้าง เท่าที่ทราบตอนนี้มี เข็ม(รุจิรา ช่วยเกื้อ) เดือน (นิวัตรา ขำแก้ว) ออร์แกน (ราศี วัชราพลเมฆ) มาร์ค ฯลฯ ทำให้เราขาดรายได้ ในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้และยิ่งเป็นงานระยะยาวแบบนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะโทรมายกเลิกล่วงหน้าแค่ 2 วัน ต้องยอมรับว่าก่อนหน้านี้เราเชื่อใจ"
โยยังกล่าวถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ว่าเธอเป็นคนโทรไปเจรจาเอง ซึ่งยอมรับว่าได้รับคำตอบที่น่าตกใจ เพราะทางผู้จัดต้องการนางแบบที่เป็นคนต่างชาติทั้งหมด ส่วนถามว่าจะมีการฟ้องร้องหรือเปล่า คงไม่ฟ้อง แต่อยากให้มารับผิดชอบตรงนี้ โดยตอนนี้ทำได้เพียงส่งจดหมายไปที่ททท. (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) เท่านั้น
"ต้องยอมรับว่าเป็นคนเดียวที่ได้โทรไปคุย เขาพูดทำนองว่าไม่รู้เรื่อง ซึ่งถ้าไม่ทราบเรื่อง คนกลางจะมาติดต่อกับเราได้อย่างไร พอมาถึงตอนนี้เขายืนกรานว่าจะใช้แต่นางแบบฝรั่ง มีนางแบบไทยแค่ 1-2 คน แล้วตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่ติดต่อมา แถมยังมีการโทรเรียกนางแบบกลุ่มเรากลับไปเดินแบบด้วยค่าตัวที่ต่ำกว่า เราอยากให้รับผิดชอบค่าเสียเวลาเราบ้าง ขอเพียง 40-50% ก็พอ" สาวโย กล่าว
ทั้งนี้นายไตรสรณ์ ไตรบุญ ประธานกรรมการ Phoenix Agency ให้สัมภาษณ์ก่อนพิธีเปิดงาน Singha Light Presents Phuket International Fashion Week & Music Festival หรือ สีสันแห่งแฟชั่นและมหกรรมคอนเสิร์ตครั้งใหม่ของไทย ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์การค้าจังซีลอน หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ( 24 มิ.ย.) เกี่ยวกับกรณีที่เหล่านางแบบชื่อดังประมาณ 7 คน นำโดย โย ยศวดี และห้องเสื้อชื่อดัง คูนิต้า( KUNITA) ซึ่งออกมาโวยว่า ทางผู้จัดงานได้ยกเลิกงานกะทันหันแล้วเปลี่ยนไปจ้างนายแบบ-นางแบบอินเตอร์แทน ทำให้สูญเสียรายได้ไปมหาศาล เนื่องจากต้องยกเลิกงานอื่นเป็นเวลากว่า 7 วันเพื่อมารับงานนี้ ว่า นับตั้งแต่ครั้งแรกที่มีการแถลงข่าวที่พารากอนกรุงเทพมหานครมีดารา นักแสดง และศิลปินบางส่วนที่มาร่วมงาน ณ วันนั้นยังไม่มีการคอนเฟิร์มศิลปินทั้งหมด แม้แต่ตัวของน้องไข่มุก ซึ่งเป็นมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สให้มาร่วมงาน
ทั้งนี้ หลังจากจบงานดังกล่าวทุกคนก็ทราบว่าทางผู้จัดจะมีการติดต่อประสานไปกับทางนักแสดงและซุปเปอร์โมเดลของไทย โดยเริ่มที่จะตอบนักแสดงและดารา โดยทางผู้จัด และในการทำงานก็น่าจะเข้าใจว่าการที่จะคอนเฟิร์มกับนางแบบได้ก็เฉพาะกับทางผู้จัดเท่านั้นที่ติดต่อเข้าไป และกลุ่มที่มารวมทั้งที่มาอยู่ที่ภูเก็ตแล้ว ซึ่งมีจำนวนเยอะมาก เช่น ลูกหมี โอเด็ต โดม นาวินต้า เป็นต้น ทุกคนได้มีการตอบรับที่จะเดินแบบในแบรนด์เสื้อผ้าที่ตกลงกันไว้
"ส่วนน้องคนอื่นๆ ประมาณ 7-8 คน ที่ถูกบอกยกเลิกการเดินแบบนั้น ไม่ทราบว่ามีการตอบรับมาในส่วนใด เพราะทางผู้จัดไม่เคยทราบรายชื่อดังกล่าวมาก่อน โดยมาทราบข่าวเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา เนื่องจากน้องโยโทรศัพท์ติดต่อเข้ามา ได้มีการคุยกันส่วนหนึ่งในเรื่องนี้ เท่าที่ทราบทางน้องได้สอบถามว่าจะเอาอย่างไร ตอนนั้นก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องอะไร จึงสอบถามความเป็นมา ซึ่งเขาบอกว่ามีคนคอนเฟิร์มเขาเรื่องการเดินแบบในงานนี้ ซึ่งก็พึ่งทราบในวันที่น้องเขาติดต่อมา แต่ก่อนหน้านั้นก็มีคนติดต่อประสานงานมาว่ามีเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้น ก็ได้แจ้งไปว่าผ็ที่ติดต่อกับนางแบบนั้นเป็นเพียงช่างแต่งหน้าที่ได้มาร่วมงานกันตั้งแต่การจัดงานที่พารากอน ซึ่งไม่มีสิทธิที่จะไปคอนเฟิร์มนางแบบ จึงบอกทางน้องเขาไปว่าค่าคอมเม้นท์สเตทหรืออะไรก้ตามที่เกิดขึ้นนั้น เนื่องด้วยผู้จัดไม่ได้มีการคอนเฟิร์มไป ซึ่งหากดาราหรือซูเปอร์โมเดลบอกมีคอนเฟิร์มหมดและจำนวนเป็นร้อยคนผู้จัดก็ต้องทำค่าชดเชยที่สูญเสีย คิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง "
นายไตรสรณ์ กล่าวย้ำว่า นางแบบที่ออกมาให้สัมภาษณ์และเป็นข่าวนั้นที่ผ่านมาไม่ได้มีการคอนเฟิร์มแต่อย่างใด รวมถึงในส่วนของแบรนด์สินค้าเองโดยเฉพาะกรณีของคูนิต้าที่ให้ข่าวว่าทางผู้จัดได้คอนเฟิร์มน้องๆไปนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะที่คุยกับเจ้าของแบรนด์นั้นก็ให้เฉพาะเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกัน เพราะแต่ละคนจะมีค่าตัวที่ไม่เท่ากัน โดยก่อนที่จะมีการคอนเฟิร์มก็จะต้องมีการสอบถามเรื่องของค่าตัวก่อน หากมีการตอบตกลงกันไปก่อน เมื่อเสร็จงานแล้วเรียกค่าตัวตามต้องการก็จะต้องจ่ายตามนั้น ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้ และในการตกลงราคาเป็นเรื่องสำคัญที่สุดก่อนที่จะมีการรับงาน
นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่สุดการทำงาน Phuket International Fashion Week เป็นส่วนหนึ่งในโครงการเคเอทีฟไทยแลนด์ กระทรวงพาณิชย์ ฉะนั้นการทำงานใดๆ ก็ตามจะต้องมีการไซด์คอนเท็กก่อนที่จะมีการตกลงรับงาน หากศิลปินหรือดารานักแสดงไม่ได้มาร่วมงาน ซึ่งเมื่อมีการทำสัญญากันไปแล้วก็ย่อมที่จะต้องมีการเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
"ณ จุดนี้ ศิลปินที่มีการตอบตกลงร่วมงาน เช่น แกรมมี่ อาร์เอส โซนี่มิวสิค เป็นต้น เดินทางมาถึงภูเก็ตเรียบร้อยแล้ว โดยมีการทำสัญญากันเรียบร้อย เพราะการทำงานใหญ่ขนาดนี้ การรวมศิลปินจากค่ายต่างๆ เข้ามาด้วยกันได้ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยทางผู้จัดมีความตั้งใจจริงในการสร้างภาพลักษณ์ของเมืองไทยให้ดีขึ้น แต่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็มีความรู้สึกน้อยใจเล็กน้อยว่า แทนที่จะเกิดภาพบวกขึ้น แต่คนไทยกลับมามีปัญหากันเอง ก็จะทำให้ต่างชาติรู้สึกว่าจะมีความเชื่อมั่นได้หรือไม่ "
ส่วนของผลกระทบที่เกิดขึ้นกับงานนั้น นายไตรสรณ์ กล่าวว่า ยังไม่มีผลกระทบเกิดขึ้น เพราะศิลปินที่มีการตอบตกลงไว้แล้วต่างก็ยังมาตามปกติ ส่วนกรณีที่จะมีการฟ้องร้องนั้นก็ไม่ได้กลัว เนื่องจากไม่มีเอกสารและการตอบตกลงอย่างแน่นอน ส่วนของน้องที่ติดต่อมานั้นก็บอกเองว่าช่างแต่งหน้าเป็นผู้คอนเฟิร์ม หากจะให้ทางผู้จัดไปแก้ปัญหาที่ช่างแต่งหน้าท่านหนึ่งไปตอบตกลงทั้งหมดคงเป็นไปได้ เพราะหากมีการเมคข้อมูลว่ามีศิลปินตอบรับเข้ามา 40 คน และต้องทำค่าชดเชยให้ทั้งหมดก็คงเป็นไปไม่ได้ ฉะนั้นยืนยันว่าการตอบตกลงทุกอย่างและการทำงานร่วมกันในอนาคต อยากให้น้องดูแลเรื่องการทำสัญญาซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ เพราะในคราวที่มีการจัดงานที่พารากอนมีการชาร์ทค่าตอบแทนมาราคาหนึ่ง แต่ค่าตอบแทนถึงตัวนางแบบอีกราคาหนึ่งที่ไม่สมเหตุสมผลทำให้มีปัญหากับผู้จัด ซึ่งอยากบอกว่าในการจ่ายค่าตอบแทนในงานนั้นสูงกว่าหลายๆ งาน เพราะต้องการให้งานออกมาดีที่สุด
"ยืนยันว่าเรามีความเป็นมืออาชีพพอ เพราะ ณ จุดนี้การจัดงานแฟชั่นโชว์ผ้าไหมที่จะเกิดขึ้นในงาน Phuket International Fashion Week นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ของ CMC และเครือสหพัฒน์ฯ มาเดินแฟชั่นโชว์ในงานนี้ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และยังร่วมกับทางกระทรวงพาณิชย์ด้วย ซึ่งอยากให้พิจารณาดูว่าเป็นอย่างไร คงไม่ได้บอกว่าโปรมาก แต่ต้องการที่จะพัฒนาตัวบริษัทเองด้วย "
ส่วนที่มีนางแบบบางคนบอกว่า มีการไปข่มขู่เกี่ยวกับการที่นางแบบจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเพราะมีผู้ใหญ่หนุน นายไตรสรณ์ กล่าวว่า ไม่ได้พูดถึงขนาดนั้น แต่ได้บอกน้องคนหนึ่งไปว่างานนี้เป็นของกระทรวงพาณิชย์อยู่ภายใต้โครงการเครเอทีฟไทยแลนด์ และบอกไปด้วยว่ามีทางไหนที่จะคุยกันได้ก็ขอให้คุยกัน ส่วนที่ข่าวออกเป็นเช่นนั้นเพราะได้คุยไปกับน้องนางแบบคนหนึ่งซึ่งค่อนข้างมีอารมณ์เล็กน้อย จึงบอกไปว่าไว้คุยกันภายหลัง แต่น้องคนนั้นบอกว่ามีผู้ใหญ่มาเล่นงาน ดังนั้นหากมีเอกสารอยากให้เข้ามาคุย แต่ก็ยังไม่มีการนำเอกสารมาแสดงแต่อย่างใด
กรณีของน้องพลอย นายไตรสรณ์ กล่าวว่า เข้าใจว่ามีการคอนเฟิร์มโดยทางแบรนด์สินค้า และได้ไปเจอน้องที่งานหนึ่งก็บอกว่าจะลงมา เท่าที่ทราบยังไม่ได้ติดต่อเรื่องราคาและได้ย้ำไปกับทางแบรนด์แล้วในเรื่องของราคา เพราะน้องเป็นดาราในระดับแนวหน้า จึงต้องมีความชัดเจนในเรื่องนี้ป้องกันปัญหาที่ตามมา จึงไม่แน่ใจว่าเกิดปัญหาขึ้นได้อย่างไร
"ยืนยันอีกครั้งว่าในส่วนของนางแบบที่เป็นข่าวนั้น ตนไม่ได้มีการติดต่อประสานงานไป และบางคนอาจจะไม่เคยพูดคุยกับตนด้วยซ้ำไป อาจจะเจอที่พารากอนครั้งหนึ่งยกเว้นน้องลูกหมีซึ่งเจอในวันงานและมีการตกลงกัน เช่นเดียวกับโอเด็ตที่มีการตอบตกลงกันตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่ก็มีบางรายที่ค่อนข้างเร่งรีบก็จะติดต่อโดยการส่งข้อความทางโทรศัพท์ เช่นกรณีของเข้ม มีการติดต่อกันทาง SMS และยังมีข้อมูลอยู่ตลอด สามารถยืนยันได้ว่าเป็นอย่างไร "
ทั้งนี้นายไตรสรณ์ กล่าวเชิญชวนผู้มาร่วมชมงานว่า งานนี้จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐกับเอกชน อันจะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยอีกทางหนึ่ง และในปลายปีนี้วางแผนที่จะจัดงานนี้ขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายปี เพื่อเป็นส่วมหนึ่งในการรณรงค์และป้องกันไม่ให้มีการใช้สินค้าละเมิดหรือปลอมแปลงลิขสิทธิ์ รวมทั้งส่งเสริมยังดีไซน์เนอร์ให้มีเวทีแสดงออก ตลอดจนกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างชาติ
