คลื่นมรสุมขนาดใหญ่ ซัดกัดเซาะชายหาดเขาหลัก โรงแรมเสียหาย

ภาพมุมสูงเผยให้เห็นสภาพความเสียหายคลื่นขนาดใหญ่กัดเซาะชายหาด ต้นสน โรงแรม รีสอร์ท ริมชายหาดบางเนียง ชายหาดเขาหลัก อ.ตะกั่วป่า

สภาพความเสียหายที่ถูกคลื่นขนาดใหญ่พัดเข้าหาฝั่งชายหาดบางเนียง หมู่ที่ 5 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งพบว่าคลื่นได้เข้ากัดเซาะชายหาดได้รับความเสียหายเป็นแนวยาวระยะทางยาวหลายกิโลเมตร

ซึ่งความแรงของกระแสคลื่นได้กัดเซาะจนทำให้ต้นมะพร้าวขนาดใหญ่ ต้นสนต้านทานไม่ไหวทยอยล้มลงในทะเล ขณะเดียวกัน บริเวณหาดนางทอง ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก มีที่พักหรูระดับ 5 ดาว กว่า 10,000 ห้อง ได้รับผลกระทบจากคลื่นลมแรง กัดเซาะชายหาดอย่างต่อเนื่อง ด้วยความลึกประมาณ 1-2 เมตร กัดเซาะเข้ามาในพื้นที่เอกชน 20-30 เมตร ตลอดแนวชายหาดหลายกิโลเมตร ต้นไม้ขนาดใหญ่เริ่มเอนเอียง เนื่องจากรากของต้นไม้ไม่มีหน้าดินสำหรับยึดเกาะ อาคาร ร้านค้า ริมชายหาดโดนกัดเซาะจนฐานรากเริ่มโผล่ลอยอยู่บนอากาศ บางส่วนต้องหยุดกิจการชั่วคราวเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับนักท่องเที่ยว บางส่วนต้องนำกระสอบทรายมาวางเพื่อเป็นแนวป้องกันการกัดเซาะ

ทั้งนี้คาดว่าเมื่อพายุสงบทะเลจะนำพาทรายกลับคืนสู่ชายหาดอีกครั้ง แม้ว่าขณะนี้ทางผู้ประกอบการต่างเร่งนำไม้สนมาปักเป็นแนวกันคลื่นพร้อมนำกระสอบทรายมาวางอีกชั้นเพื่อเป็นพนังกันคลื่นที่ถาโถมเข้าใส่ชายหาดแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก เนื่องจากคลื่นมีความแรงมากประกอบกับน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งปัญหานี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างเร่งหาแนวทางแก้ไขช่วยผู้ประกอบการ ร้านค้า รีสอร์ท บังกะโลที่อยู่ตลอดแนวชายหาดที่ได้รับความเดือดร้อนจากกระแสคลื่นกัดเซาะจนได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ หลังจากธรณีพิบัติภัยสึนามิเมื่อปี 2547 ได้ซัดเข้าถล่มชายหาดเขาหลัก ทำให้ลักษณะสันทรายใต้ทะเลเปลี่ยนแปลงไป รวมถึงมีการกัดเซาะชายหาดนางทองจนถึงแหลมปะการัง รวมระยะกว่า 10 กิโลเมตร เกิดการกัดเซาะชายฝั่งเพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้ผู้ประกอบการ รีสอร์ท ร้านค้า ที่ตั้งอยู่บริเวณชายหาด ต่างทำการสร้างกำแพงริมตลิ่งป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง แต่กลับพบว่ายิ่งก่อสร้างกำแพง ยิ่งเกิดกัดเซาะทวีความรุนแรงมากขึ้น ทางภาคเอกชนจึงอยากให้มีการศึกษา ก่อนที่ชายหาดแห่งนี้จะได้รับผลกระทบขยายวงกว้างเพิ่มขึ้น

นายสมชาติ เมืองศรี ผู้ประกอบการร้านอาหารริมชายหาดนางทอง ต.คึกคัก กล่าวว่า จากปัญหาคลื่นลมแรงได้กัดเซาะริมชายหาด ต้นสน บังกะโล รุนแรงขึ้นทุกปีทำให้น้ำทะเลเข้ามากัดเซาะบริเวณชายหาดได้รับความเสียหายเป็นแนวยาวซึ่งถ้าทางผู้ประกอบการจะสร้างเขื่อนขึ้นมาป้องกันทรัพย์สินก็จะทำให้เกิดผลกระทบขึ้นมากอีก จึงอยากจะฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รีบลงมาดำเนินการแก้ปัญหาการกัดเซาะชายหาดที่เกิดขึ้นทุกปี