ตำรวจล่อจับ "พ่อค้าขาด้วน" ขายหวยเกินราคา สังคมซัดกลั่นแกล้งผู้พิการ
ตำรวจเชียงใหม่ล่อซื้อ "พ่อค้าขาด้วน" เหตุขายสลากฯ เกินราคา เจ้าตัวยอมรับผิด แต่สังคมดราม่าซัดกลับ เข้าข่ายกลั่นแกล้งคนพิการ ทำไมไม่จับคนสมประกอบก่อน
(16 ส.ค.) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ขณะนี้ในกลุ่มผู้พิการที่ประกอบอาชีพขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในจังหวัดเชียงใหม่ ได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากที่เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ผู้พิการที่ประกอบอาชีพขายสลากกินแบ่งรัฐบาลรายหนึ่งถูกจับกุม หลังถูกล่อซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ขายเกินราคา
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมพร้อมนำไปเสียค่าปรับเป็นเงิน 5,000 บาท โดยส่วนใหญ่ต่างแสดงความเห็นใจผู้พิการที่โดนจับและมองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่เหมือนรังแกผู้พิการมากกว่าพิทักษ์สันติราษฎร์ เพราะยังคงผู้ค้าสลากฯ ที่ร่างกายสมประกอบ แต่ขายเกินราคาอยู่เต็มท้องตลอด แต่เลือกมาจับคนพิการแทน
ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูล ทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ช่วงบ่ายวานนี้ (15 ส.ค.) บริเวณห้างจำหน่ายวัสดุก่อสร้างรายใหญ่แห่งหนึ่งในอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีการจัดพื้นที่ส่วนหนึ่งให้ผู้พิการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล
โดยผู้พิการที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการล่อซื้อจับกุมและเสียค่าปรับ คือ นายวรเชตุ อายุ 41 ปี เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้พิการขาข้างซ้ายขาดจากการทำงานที่โรงงาน เมื่อสิบกว่าปีก่อน และเพิ่งมาเริ่มขายสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ประมาณ 3 เดือน เนื่องจากไม่สามารถทำงานรับจ้างได้ จึงตัดสินใจรวบรวมเงินเก็บที่มีทั้งหมดในชีวิตมาลงทุน ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจากยี่ปั๊วมาขายงวดละ 500 ใบ
ตนมาขออาศัยอยู่กับญาติที่อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ แล้วให้ภรรยาขี่รถจักรยานยนต์พ่วงพาไปส่งตั้งแผง และช่วยกันขายสลากกินแบ่งที่หน้าห้างดังกล่าว ในแต่ละงวดจะได้กำไรประมาณ 5,000-8,000 บาท ใช้จ่ายเลี้ยงดูครอบครัวและส่งเสียลูกชายอีก 2 คน ที่ฝากยายเลี้ยงที่จังหวัดอุตรดิตถ์
ช่วงก่อนเกิดเหตุ ตนก็นั่งวิลแชร์ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่ที่บริเวณดังกล่าวตามปกติ ต่อมามีผู้ชายคนหนึ่งมาซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข 977434 แบบชุด 2 ใบ ในราคาใบละ 100 บาท หลังจากนั้นสักพักนึงได้มีชายฉกรรจ์เข้ามาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการจับกุมตัวเองโดยอ้างว่าได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าตัวเอง ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาที่กฎหมายกำหนด แล้วนำตัวเองไปที่สถานีตำรวจภูธรสารภี
ทั้งนี้ ตนให้ยอมรับสารภาพผิด และจ่ายค่าปรับจำนวน 5,000 บาท ก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัวมา ก็ยอมรับว่าตัวเองขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาจริง แต่เป็นเพราะว่าต้นทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลที่รับมานั้นอยู่ที่ใบละ 82 บาทแล้ว เนื่องจากยังไม่มีโควตาสลากเป็นของตัวเอง จึงต้องไปรับซื้อมาจากยี่ปั้ว จำเป็นต้องขายเกินราคาเช่นนี้
อย่างไรก็ตามตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมาเลือกจับตน ที่เป็นคนพิการ ในขณะที่มีคนสมประกอบอีกเยอะแยะในอาชีพเดียวกัน แต่ขายเกินราคากลับไม่ถูกจับ ทำให้รู้สึกน้อยใจและเสียใจที่ถูกกระทำเช่นนี้ เพราะเหมือนถูกเลือกปฏิบัติ
เหตุดังกล่าวยังทำให้ตนได้รับความเดือดร้อน เพราะค่าปรับที่เสียไปนั้น เท่าๆ กับกำไรที่จะได้จากการขายสลากหมดในแต่ละงวด แต่งวดนี้น่าจะขาดทุนแน่นอน เพราะต้องเสียเงินไปกับค่าปรับแล้วโดยที่ยังเหลือสลากกินแบ่งรัฐบาล อีกกว่า 200 ใบที่ยังขายไม่หมด และไม่รู้ว่าเดือนนี้จะมีเงิน พอเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัวและส่งไปเลี้ยงดูลูกที่ต่างจังหวัดหรือไม่
ขณะเดียวกัน นายชาตรี ขุนอินทร์ นายกสมาคมเพื่อนผู้พิการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกมากล่าวถึงประเด็นดังกล่าว มองว่าเรื่องนี้เป็นความเหลื่อมล้ำในทางปฏิบัติหรือไม่ เจ้าหน้าที่เลือกจับกุมคนพิการที่ไม่ทางขัดขืนหรือต่อสู้ได้ คล้ายกับเป็นการกลั่นแกล้งรังแกกัน และก็ยอมรับว่าปัญหาขายสลากฯ เกินราคายังคงพบเห็นอยู่ทั่วไปในท้องตลาด เพราะความเป็นจริงการเรื่องต้นทุนที่รับมาขายในราคาสูง