"บิ๊กตู่" โวลั่น 1 ปี ช่วยคนรายได้น้อย หนีพ้นความยากจน 1 ล้านคน
“นายกรัฐมนตรี” ย้ำบัตรสวัสดิการ ต้องเป็นมาตรการแก้ปัญหาความยากจนให้ได้อย่างยั่งยืน เผยผู้มีรายได้น้อยเข้ารับการพัฒนาอาชีพ 3.2 ล้านคน ช่วยให้คนพ้นเส้นความยากจนที่ระดับ 30,000 บาทต่อปี ได้ถึง 1 ล้านคน
วันนี้ (16 ส.ค.) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้กำชับให้มีการประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และนำผลการประเมินมาปรับปรุงการแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ที่ผ่านมา ประเทศไทยไม่เคยมีฐานข้อมูลผู้มีรายได้ จนเมื่อมีการลงทะเบียนผู้ต้องการมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เราจึงเริ่มมี Big data ของผู้มีรายได้น้อย ซึ่งนายกฯ ย้ำว่า Big data ผู้มีรายได้น้อยนี้ จะต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นอีกต่อไป และต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลผู้มีรายได้น้อยอย่างถี่ถ้วน เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาความยากจนให้ครบทั้ง 4 มิติ คือ
1. ช่วยให้เข้าถึงสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐาน
2. พัฒนาทักษะทางอาชีพและการศึกษาให้กับ
3. ช่วยหางานให้ทำ
4. ช่วยแก้ปัญหาหนี้สิน เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ
สำหรับปีที่ผ่านมา ผู้มีรายได้น้อยเข้ารับการพัฒนาอาชีพจำนวน 3.2 ล้านคน ช่วยให้คนพ้นเส้นความยากจนที่ระดับ 30,000 บาทต่อปี ได้ถึง 1 ล้านคน โดยคนกลุ่มนี้มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1,713 บาทต่อเดือน ทั้งปีมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 20,000 บาท และช่วยให้คนพ้นเพดานรายได้ที่ 100,000 บาท ได้ 1 แสนคน โดยคนกลุ่มนี้มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3,861 บาทต่อเดือน ทั้งปีมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 46,000 บาท
นอกจากนี้นายกฯ ยังฝากไปยังผู้มีรายได้น้อย ว่ารัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนในทุกมิติ แต่ขอทุกคนให้ความร่วมมือในการพัฒนาและ อยากขอภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมกับภาครัฐในการพัฒนาทักษะอาชีพ พร้อมทั้งจ้างงานผู้มีรายได้น้อย การรวมพลังกันเป็นหนึ่งเดียวของคนไทย จะร่วมกันแก้ปัญหาหาความยากจนได้อย่างยั่งยืน