10 ปีแห่งความทรมาน เปิดใจเหยื่อ "ซานติก้าผับ" คดีสิ้นสุดแล้ว แต่ไม่ได้รับเงินเยียวยาสักบาท

10 ปีแห่งความทรมาน เปิดใจเหยื่อ "ซานติก้าผับ" คดีสิ้นสุดแล้ว แต่ไม่ได้รับเงินเยียวยาสักบาท

10 ปีแห่งความทรมาน เปิดใจเหยื่อ "ซานติก้าผับ" คดีสิ้นสุดแล้ว แต่ไม่ได้รับเงินเยียวยาสักบาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีคดีดังซานติก้าผับ ซึ่งเกิดไฟไหม้ และกลายเป็นโศกนาฎกรรมที่สะเทือนหัวใจคนไทยทั้งประเทศ โดยผู้เสียหายได้ต่อสู้กันมา 3 ศาล ฎีกาเสร็จเมื่อปี 2559 หนึ่งในจำเลย จาก 33 ราย คือ "เสี่ยขาว วิสุข เสร็จสวัสดิ์" ติดคุก หลังจากนั้นเสี่ยข่าวออกมามีการพิสูจน์ทรัพย์ สุดท้ายถูกให้เป็นบุคคลล้มละลาย ผู้เสียหายประมาณ 46 รายยังไม่ได้รับการเยียวยาแม้แต่บาทเดียว

ล่าสุดรายการโหนกระแส วันที่ 16 ส.ค. โดย "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.45 น. - 14.25 น. ทางช่อง 28 ได้เปิดใจสัมภาษณ์เหยื่อซานติก้า ทั้ง คุณจิ๊บ รัตนา , คุณสนทยา, คุณอวยชัย , คุณมาลี , คุณมัทริน มาพร้อม "ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์" ทนายคลายทุกข์

เหตุการณ์ครั้งนั้นเสียชีวิต 67 คน ไม่รวมคนที่พิสูจน์อัตลักษณ์ได้?
สนธยา : "เหมือนเศษขยะ เป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุด"

แต่มีผู้บาดเจ็บสาหัสอีกหลายราย หนึ่งในนั้นคือคุณรัตนา?
รัตนา : "มีอีกคนที่เป็นเยอะ รูปลักษณ์ภายนอกเหมือนปกติ แต่เขาโดนตัดมือเหมือนกัน คืนนั้นเป็นคืนวันที่ 31 ธ.ค. ปี 51 เข้าปี 52 อยู่ประมาณเกือบห้าทุ่ม เพื่อนของเพื่อนจองโต๊ะไว้แล้วอยู่โซนเดียวกับฝั่งเวที พอเกิดเหตุการณ์เราคิดว่าจะออกประตูใหญ่ให้ได้ ทีแรกจะเคาท์ดาวน์ เขาก็จุดไฟเย็น ตอนแรกไม่มีอะไรเกิดขึ้น จิ๊บก็ออกมานอกร้านมาดูพลุ พอกลับเข้าไปไม่เกิน 5 นาที กำลังกดโทรศัพท์ คนที่ไปด้วยก็จับมือเราขวาเพื่อพาเราออก เราก็อ้าว เพิ่งเข้ามา จะออกแล้วเหรอ แล้วก็มีคนเดินตัดผ่าไปเลยมือเลยหลุดจากกัน จิ๊บก็หันหน้าไปทางหน้าเวที เห็นไฟที่ลุกอยู่บนเวที ซึ่งมันเร็วมาก แล้วไฟมันก็ดับ เราก็ได้ยินเสียงคนร้อง เราก็คิดว่าจะทำยังไง เพราะโซนที่เราอยู่กับประตูมันไกลกันมาก ตอนนั้นได้ยินแต่เสียงร้อง เหมือนเราอยู่ตัวคนเดียว แต่จิ๊บลงไปนั่ง เราคิดว่าเราไม่ไหวแล้ว นาทีนั้นยอมแพ้ว่าฉันตายแล้ว มันหายใจไม่ไหวแล้ว มันทั้งมืดและมีแต่เปลวไฟ เราคิดว่าหายใจไม่ไหวแล้ว เรายอมดีกว่า เราคงไม่ได้ออกไปแล้ว คงต้องตาย แต่ก็คิดขึ้นมาได้ว่าถ้าตายแล้วแม่กับลูกจะอยู่ยังไง จิ๊บก็ลุกขึ้นยืนและก้าวออกไปตรงที่เขาทุบเขาพังมาแล้ว ออกไปก็สลบ แล้วไปฟื้นอีกทีอยู่รพ.แถวทองหล่อ"

"ทีแรกไม่รู้อะไรเลย รู้อย่างเดียวว่ารอดตาย ไม่เห็นว่าเป็นเยอะ ทุกคนที่มาหาเรามาพูดกับเราเรา เราได้ยินเสียง คนมาหา มาพบเรา เราจำได้หมด เราคิดในใจว่าเรารอดตายเพราะไฟไหม้ แต่จะมาตายเพราะรถที่เขาไปส่ง เพราะขับรถเร็วมาก จะพาเราไปไหน"

รู้สึกปวดแสบปวดร้อนมั้ย?
รัตนา : "ไม่ค่ะ เราคิดว่าเราไม่ตาย เรารอด เดือนแรกที่ไปรพ.ก็ไม่รู้สึก เพราะเขาให้มอร์ฟีนตลอด แต่เดือนที่สองก็เริ่มรู้ เพราะจิ๊บเป็นเยอะ เขาพันไว้เป็นมัมมี่ เราไม่รู้ว่าเราเป็นเยอะ เห็นตัวเองอีกทีช่วงเดือนเม.ย. ช่วงสงกรานต์ถึงเห็นตัวเอง"

เห็นได้ยังไง?
รัตนา : "พี่พยาบาล พาไปห้องอาบน้ำสำหรับคนไข้โดยเฉพาะ ไปอาบน้ำปุ๊บจะเป็นอ่างสแตนเลทที่เงามาก เขาก็บอกว่าลุกได้มั้ย เขาจะถูหลัง จิ๊บลุกไปนั่งแล้วเห็นตัวเอง"

สี่เดือนไม่เคยเห็น ?
รัตนา : "ผ้าพันตลอด หน้าก็ไม่เห็น เหมือนเขาปิด เขาปะตลอด"

พอเห็นในอ่างสแตนเลททำความสะอาด เห็นตัวเอง ครั้งแรกเป็นยังไง?
รัตนา : "โห บอกแม่ว่าไม่รักษาต่อได้มั้ย ไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ยังไง จะใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ยังไง เราเป็นขนาดนี้ ทีแรกเขาพูดว่าต้องตัดมือนะ เพราะเขาไม่สามารถรักษาไว้ได้ นิ้วมันติดเชื้อแล้วลามกลัวมีปัญหาเราจะเป็นอะไร ตอนนั้นก็คิดว่าต้องเป็นคนพิการถ้าหาย แต่แค่ไม่รู้ว่าคนพิการที่ต้องเป็น มันต้องเป็นแบบนี้ด้วย"

สุดท้ายตัดมือไปข้างนึง?
รัตนา : "ใช่ เห็นตัวเองปุ๊บไม่อยากรักษาเลย บอกแม่ว่ากลับบ้านเถอะ อย่างน้อยติดเชื้อก็ให้อยู่ที่บ้าน ถ้ามันเข้ากระแสเลือดเดี๋ยวหนูก็ตาย แม่บอกว่าไม่เป็นไร รักษาเถอะ ทำได้ ศัลยกรรม ทีแรกทุกคนบอกว่าทำได้ ทำเพื่อรักษาได้แต่เพื่อความสวยงามไม่ได้อยู่แล้ว อยู่ 11 เดือนเต็ม"

คุณมีลูก?
รัตนา : "มีคนนึง ตอนนั้นลูก 6 ขวบ ทีแรกน้องเห็นเขาบอกว่าไม่ใช่แม่เขา ตอนแรกที่เขาไปเยี่ยม แต่พอปิดเทอมใหญ่ ก็ขอนุญาตให้น้องมาอยู่ด้วยที่รพ. เพราะแม่ไม่ได้กลับบ้านเลยก็จำเป็นต้องเอาลูกไปนอนด้วย เราอยู่ห้องแยกนะ ขอหมอให้ลูกมาอยู่ด้วยเป็นกำลังใจ"

หลังจากนั้นทำยังไงต่อ?
รัตนา : "ช่วงแรกๆ คิดตลอดว่าอยากฆ่าตัวตาย แต่ ณ ขนาดนั้น เราเจ็บมากจนเราไม่กล้า จนเรารู้สึกว่าไม่กล้าฆ่าตัวตายนะ ถ้าทำไปแล้วไม่ตาย มันทรมานมาก เพราะสิ่งที่เราเป็นอยู่ ร้องจนเลือดมันพุ่ง พยาบาลเอาไม่อยู่"

ตอนนี้ลูกยอมรับได้?
รัตนา : "ลูกภูมิใจที่มีแม่อยู่ ภูมิใจที่ไปไหนด้วย เขาไม่สนว่าใครจะมอง เขาอยากให้เราไปด้วยตลอด บอกว่าไปโรงเรียนเขาไหม แต่เรากลัวคนมองเขาไม่ดีหรือเปล่า ไม่อยากให้ลูกมีปมด้อย แต่ไปไหนลูกกอดคอเดินตลอด"

มือก็ยังเจ็บอยู่แม้จะผ่าไปแล้ว?
รัตนา : "ถ้ากระแทกหรือโดนอะไรก็เจ็บกระดูกข้างในอยู่ เลยไม่อยากไปทำอะไร"

สตางค์ในการรักษาตัว?
รัตนา : "ฟรีหมดค่ะ"

เรื่องการเยียวยากับทางจำเลย เคยได้มั้ย?
รัตนา : "เคยได้ช่วงแรกๆ ไม่เกิน 5 หมื่นบาท จากทางคนของเสี่ยขาว ที่เขาให้คนมาดูแล เขาเป็นเจ้าของ"

ตอนนั้นคุณเรียกร้องค่าเสียหาย?
รัตนา : "จริงๆ ทีแรกก็คุยกับแม่ว่าถ้าเขาให้สองสามแสนก็โอเค แต่พอเห็นตัวเองปุ๊บ ทนายบอกว่าไม่ได้นะ เราเป็นขนาดนี้ เดี๋ยวทนายจะจัดการให้ ก็น่าจะเรียกไป 8 ล้าน แต่ศาลตัดสินมาได้ 6 ล้าน"

อันนี้คือที่สิ้นสุด ฎีกาปี 59 แล้วคุณได้กี่ล้าน?
รัตนา : "ไม่ได้สักบาทเดียวค่ะ เคยโทรไปเจรจาว่าถ้าคุณช่วยเราครึ่งนึงก็ยังดี แต่เขาบอกว่าให้ที่ 1 แสน ไม่เอาก็คือไม่ได้อะไรเลย"

เสี่ยขาวบอกงี้เหรอ?
รัตนา : "ทนายเสี่ยขาวค่ะ อันนั้นช่วงก่อนตัดสินด้วยซ้ำที่โทรไป เพราะเรารู้ตั้งแต่ศาลชั้นต้นแล้วว่าเราได้ 6 ล้าน แม่ก็บอกว่าเดี๋ยวลองโทรไปเจรจา เผื่อเขาเห็นใจเรา เพราะเราเป็นขนาดนี้ ถ้าชีวิตปกติเราไม่อยากได้หรอก เพราะเราทำงานได้ เราอยากได้ชีวิตที่มันปกติกลับมา"

น้องมัทริน วันนั้นคนที่ไปมีใครบ้าง?
มัทริน : "แม่กับพ่อไปเที่ยวเคาท์ดาวน์กันสองคน คุณแม่โทรมาหาว่าตอนนี้ซานติก้าไฟไหม้ แต่ตามพ่อไม่เจอ เราเข้าใจว่าไฟไหม้อาจไม่ได้หนักหนา แต่พอมาเห็นข่าวมันหนักหนามาก แม่บอกว่าติดต่อพ่อไม่ได้เลย เราก็โอเค เราขับรถกลับจากเขาใหญ่มากรุงเทพฯ ไปก็เจอแต่ศพที่เป็นห่อเล็กๆ เราก็ภาวนาขอให้พ่อเรา ที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือถ้ายังอยู่ก็ขอให้เป็นเป็นรูปร่างได้บ้าง ให้พอกราบไหว้ได้บ้าง"

ตอนนั้นใจคิดว่ายังไง?
มัทริน : "ใจหวังให้พ่ออยู่ แต่ไปถึงรพ. ซึ่งย้ายไปรพ.จุฬา เขาบอกว่าถ้ามีชื่อหน้าตึกจะเป็นผู้ป่วย แต่ท้ายตึกเป็นชื่อผู้เสียชีวิต หน้าตึกไม่มีชื่อพ่อเรา เราก็ย้อนกลับไปหลังตึก ซึ่งเราเห็นศพพ่อเรานอนอยู่ศพแรกเลย"

สภาพพ่อเป็นยังไงบ้าง?
มัทริน : "พ่อไม่ได้ไหม้เกรียมค่ะ แต่ขาผิดรูป อาจจะเหยียบกัน หรือศพทับกัน ทำให้ขาผิดรูป"

สาเหตุการเสียชีวีต?
มัทริน : "สูดควันพิษเข้าไป ทำให้พ่อเสียชีวิต หลังเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นแม่ก็เป็นโรคลมชักตามมาด้วยจนทุกวันนี้ ต้องรักษาตัว"

ในแง่ค่าเสียหายที่ศาลตัดสินมาให้?
มัทริน : "1 ล้าน 6 แสนบาทค่ะ"

จำเลยทั้งหมด 33 ราย บางคนก็จ่าย บางคนก็ไม่ต้องจ่าย 7 รายต้องรับผิดชอบ หนึ่งในนั้นคือเสี่ยขาว คุณได้เท่าไหร่?
มัทริน : "ไม่ได้ค่ะ มีแค่ค่าโลงศพ ค่าเยียวยาที่เขาให้คือ 5 หมื่นบาทเท่านั้น ทุกวันนี้ไม่ได้อะไรเลย"

สู้จนศาลสุดท้ายแล้ว?
มัทริน : "ใช่ค่ะ"



พี่มาลี พี่สูญเสียใคร?
มาลี : "น้องสาวค่ะ พอทราบข่าวจากเพื่อนว่าน้องสาวอยู่ในซานติก้าเราก็คิดว่าคงไม่เป็นอะไร แต่พอได้เห็นข่าว ไฟลุกแบบไม่น่าเชื่อว่าจะลุกรุนแรงขนาดนั้น เลยรีบตามหาตามรพ. ปรากฎว่าไม่เจอ จนประมาณตีสามก็กลับกัน ปรากฎว่าเจ็ดโมงเช้า รพ.โทรมา บอกว่าเป็นญาติน้องหรือเปล่า ตอนนี้น้องอยู่ที่นี่นะ มาดูน้องหน่อย"

ตอนนั้นคิดว่าน้องไม่เป็นอะไร คงปลอดภัย?
มาลี : "ใช่ แต่พอไปถึงรพ. พยาบาลหยิบเสื้อมา ก็ไหม้เกรียมเลย ก็คิดว่าน้องคงเป็นเยอะ ตอนนี้ให้ยาอยู่ พอไปเห็นสภาพ ตาข้างขวาถลกขึ้น อาจจะโดนเหยียบกัน แต่ไม่เสียชีวิต ปากคอไหม้ แขนยังไม่ไหม้ เหมือนเขาโดนเบิร์น 90 เปอร์เซ็นต์ คุณหมอบอกว่าระหว่างไก่อบกับไก่ย่างมันต่างกัน ไก่อบคือสุกจากข้างใน กว่าข้างนอกไหม้ ข้างในมันสุกแล้ว แต่ถ้าไก่ย่างคือไหม้จากขางนอก รักษาได้"

แต่ของน้อง?
มาลี : "เป็นไก่อบ ข้างในสุกหมดแล้ว ก็เหลือ 10 เปอร์เซ็นต์"

น้องเสียชีวิตมั้ย?
มาลี : "เสียชีวิตหลังจากนั้น 2 วัน"

ทางคุณมารีเป็นหนึ่งใน 46 โจทก์ ศาลสั่งยังไง?
มาลี : "ศาลสั่งให้เสี่ยขาว และพวกอีก 6 คนชดใช้เงิน ตอนนั้นไปช้า ทนายก็ฟังสรุป เราเลยไม่รู้สรุปได้เท่าไหร่ แต่ถ้าดูจากศาลชั้นต้นน่าจะประมาณ 2 ล้านกว่าบาท ก็ยังไม่ได้สักบาท ไม่เคยได้"

เขาเคยติดต่อมา?
มาลี : "มีตอนครั้งแรกช่วงเริ่มเกิดเหตุ เขาให้มาหมื่นนึง แต่เราต้องทำสัญญากันไว้ ว่าให้ในกรณีที่ไม่ใช่ชดใช้ ให้เป็นค่าเยียวยาด้านมนุษยธรรม"

ทางคุณพ่ออวยชัย สูญเสียใคร?
อวยชัย : "ลุกสาวคนโต ตอนนั้นลูกอายุ 31 ตอนนั้นเขามีแฟน ไปอยู่กับแฟน คืนนั้นเขานัดกับเพื่อนไปเคาท์ดาวน์ที่ซานติก้า แล้วเขาบอกให้แฟนเขาไปรับตอนกลับ ตอนจะกลับแล้ว แฟนเขาเข้าไปรับ แต่เกิดไฟไหม้ขึ้นมา กำลังจะออกจากประตูแล้ว แต่ไม่พ้น ลูกสาวถูกควันก็ล้มลง ก่อนออกจากประตู แต่แฟนเขาหนีออกมาได้ พอรุ่งเช้าวันที่ 1 ม.ค. แฟนเข้ามาหาที่บ้าน บอกว่าลูกสาวกลับมาหาหรือยัง ก็บอกว่าไม่มี ไม่ได้กลับมา แฟนเขาก็หาไม่เจอ ทีนี้ก็ตามหาตามรพ. ทุกที่ที่บอกว่ามีส่งคนเจ็บไป สุดท้ายไปเจอที่รพ. ตำรวจ ร่างกายไม่โดนไหม้ แต่สำลักควันเสียชีวิต"

คุณพ่ออวยชัยก็เป็นหนึ่งใน 46 โจทก์ฟ้อง ศาลสั่งเท่าไหร่?
อวยชัย : "1 ล้าน 3 แสน 7 หมื่นบาท ก็ไม่ได้สักบาท"

ในมุมมนุษยธรรม ที่จำเลยช่วยเท่าไหร่?
อวยชัย : "3 หมื่นเท่านั้น เขายังบอกว่าก่อนที่จะศาลจะตัดสินล้านกว่า ทนายเข้ามาคุยว่าจะให้ 6 หมื่นแล้วจบ เอามั้ย ผมก็คุยกับทนายเขาบอกว่าเอาแบบนี้ดีกว่า ขอแค่คำเดียว ขอไป 5 แสน เขาบอกว่าเขาให้ไม่ได้ ถ้าเอาก็เอา ถ้าไม่เอาก็ไม่ได้สักบาทเดียว ผมก็บอกว่าไม่เป็นไร ไม่ได้ก็ไม่เอา วันนี้ยังไม่ได้สักสลึง เงียบเลย"

คุณพ่อสน สูญเสียลูกชาย?
สนทยา : "วันเกิดเหตุผมอยู่ลำปาง ไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ ตอนแรกลูกเขาอยากไปด้วยปีใหม่ แต่แฟนเขาทำงานที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนึงเขาไม่หยุดก็บอกให้ลูกเฝ้าบ้าน มารู้ข่าวอีกที ลูกสะใภ้โทรไปบอกว่าพ่อ ตอนนี้ซานติก้าผับไฟไหม้ที่เอกมัย แล้วนิวไปเที่ยวที่นั่นด้วย ตอนนี้ยังหาไม่เจอเลย เขาตามทุกรพ. คำพูดคำนั้นยังฝังหัวผมอยู่ทุกวันนี้ ว่าพ่อหนูเจอแล้ว ทำใจดีๆ นะ แค่นั้นมือไม้ผมอ่อน เขาบอกว่านิวผมเสียแล้ว (น้ำตาไหล) ตอนที่เขาเสียอายุ 20 วันที่ 12 ส.ค. ที่เพิ่งผ่านไป เป็นวันเกิดเขา เหตุไม่เกิดกับใครไม่รู้นะ หัวอกพ่อแม่ ผมรู้เลยว่าพ่อแม่รักลูกขนาดไหน"

เป็นหนึ่งในโจทก์ที่ฟ้อง ทางฝั่งศาลสั่งให้เยียวยาเท่าไหร่?
สนทยา : "1 ล้าน 2 แสนกว่า พร้อมดอกเบี้ย 7.5 ตั้งแต่วันฟ้อง ไม่ได้แม้แต่สลึงเดียว ได้แค่ค่าเยียวยาเบื้องต้น 3 หมื่นบาทตอนเกิดเหตุใหม่ๆ"

เดชา : "เป็นถ้อยคำที่เลี่ยงกฎหมาย อยากจ่ายเงิน แต่ไม่อยากรับผิด ยังสู้คดีต่อ เหมือนลูกเล่นทางกฎหมาย ตามคำพิพากษาก็ไม่ได้จ่าย"

พี่เดชามองยังไง เพราะเสี่ยขาว ณ ตอนนี้เขาเหมือนเป็นไทแล้ว?
เดชา : "ถ้าล้มละลายก็จบแล้ว มีทางเดียวให้เขาสำนึก เขาจะมีสำนึกหรือเปล่าแค่นั้นเอง"

แล้วผู้เสียหายล่ะ?
เดชา : "ต้องไปดำเนินคดีกับคนอื่น ซึ่งยังมีอีก 6 คน ก็ไปไล่สืบทรัพย์ บังคับคดีเอาเงินมาชำระหนี้"

อีก 6 คน มีใครล้มละลาย?
เดชา : "ไม่มี ถ้ามีต้องอยู่ในสำนวน ต้องไปสืบทรัพย์ตามตัวเขา หนึ่งเจรจา ถ้าพบทรัพย์สินก็ดี ถ้าพบว่าโอนย้ายก็ดำเนินคดีอาญาไป"

ศาลสั่งมาปี 59 ?
เดชา : "10 ปี นับจากวันอ่านคำพิพากษา"


ใครว่าความให้ก่อนหน้านี้?
เดชา : "สภาทนายความ เขาว่าความฟรี"

เขาว่าจนถึงที่สิ้นสุด?
เดชา : "แค่มีการพิพากษา หลังจากนั้นต้องไปทำเรื่อง"

ถ้าทั้ง 46 คนไม่ได้สักบาท ถ้าร่วมกันตั้งทนายเอง ลงขัน แล้วจ้างทนาย ตามให้ได้มั้ย?
เดชา : "ต้องไปสืบทรัพย์ก่อน ทำได้ ไปสืบว่ามีอะไรบ้าง หลังจากนั้นค่อยไปยึด ถ้าเจอตัวก็เจรจา ถ้าสืบแล้วมีการยักย้ายถ่ายเท ก็ดำเนินคดีอาญา โกงเจ้าหนี้ อาจรวมถึงเสี่ยขาวด้วย แม้จะล้มละลายแต่คดีอาญาคนละส่วนกัน ถ้าสืบได้นะ มีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน"

วันนี้ก็ไม่ได้หมดหวังซะเลยทีเดียว?
เดชา : "ยังมีหวัง มาโหนกระแสมีหวังทุกราย ดูคดีแพรวาสิ มาที่นี่ยิ่งกว่าแสงสว่างอีก"

ตอนนี้เริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่ สิ่งที่จะเกิดขึ้นนับต่อไปนี้ ต้องตั้งทนาย ไปรวมกันมา?
เดชา : "อันนี้สำนวนมันแยก ไม่ได้รวมเหมือนแพรวา เลขคดีก็แยกหมด ของแพรวามันง่าย ต้องไปรวบรวมมา คุณหนุ่มที่พึ่งสุดท้าย มาได้เลย มันยุ่งตรงแยกกันหมดเลย ต้องไปเอาคำพิพากษา เอาคดีอะไรต่างๆ มา เอามารวมให้เร็วที่สุด ทนายก็ไม่เป็นไร มาที่ผมก็ได้ เดี๋ยวผมดูก่อนว่าจะเป็นยังไง ไปเอาเอกสารมาก่อน"

ตั้งแต่ปี 59 ถามพี่มาลี ยอดล่าสุดที่ศาลฏีกาสั่งมาเท่าไหร่ แกบอกว่ายังไม่รู้ ยังไม่ได้ไปคัดเอกสารเลย?
เดชา : "ทนายต้องไปคัด"

มาลี : "วันนั้นไปช้า ทนายบอกว่าเดี๋ยวจะคัดมาให้"

ผ่านมาสามปีแล้ว แล้วจะคัดเมื่อไหร่?
มาลี : "เขาไม่ได้บอกค่ะ"

ฝากสภาทนายความถ้าจะช่วยต้องสุดทาง?
เดชา : "ต้องไปดูว่าเขาออกคำบังคับและหมายบังคับหรือยัง ถ้ายังไม่ทำอะไรเลยก็จะทำอะไรไม่ได้ มีขั้นตอนเยอะแยะในการบังคับคดี"

แต่ยังมีแสงสว่าง?
เดชา : "แน่นอน มาที่นี่สว่างทุกคน"

>> ศาลฎีกาแก้สั่งคุก 7 เดือน “เสี่ยขาว ซานติก้าผับ” เลี่ยงภาษี 85 ล้าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook