กระทรวงทรัพยากรฯ จ่อสตาฟซากพะยูน "มาเรียม" เอาไว้เพื่อศึกษา
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เตรียมนำซาก "มาเรียม" สตาฟเอไว้ เพื่อศึกษา หลังจากไปอย่างสงบด้วยสาเหตุการช็อก และพบเศษพลาสติกขวางลำไส้
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ได้ร่วมกันแถลงข่าว ชี้แจงถึงสาเหตุการเสียชีวิตของพะยูนน้อยมาเรียม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวง เป็นหน่วยงานที่ดูแลรักษาพะยูนมาเรียม ที่พลัดหลงจากแม่และว่ายน้ำตามเรือเข้ามาในจังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา
โดยที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้ความพยายามผลักดันให้มาเรียนกลับสู่ทะเลถึง 3 ครั้ง แต่ทุกครั้งมาเรียม ยังว่ายวนเวียนในจุดเดิม เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจหาที่อยู่ที่เหมาะสม เป็นแหล่งที่มีหญ้าทะเล มีกลุ่มพะยูนอาศัยอยู่มาก และชุมชนในพื้นที่ต้องมีความพร้อมที่จะช่วยดูแล จึงนำตัวมาดูแลเพื่ออนุบาลสภาพแบบธรรมชาติบริเวณจุดชมพะยูน เกาะลิบง จังหวัดตรัง
กระทั่งเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ทีมสัตวแพทย์ ได้ให้มาเรียมออกไปท่องทะเล จนมาเรียมพบเจอพะยูนโตเต็มวัยไล่คุกคามจงหนีกลับอ่าวและมีภาวะเครียด แม้จะกินสารอาหารวิตามินและน้ำหญ้าปั่นแทน แต่มาเรียมกลับไม่ค่อยดื่มนมรวมถึงมีอาการอ่อนเพลีย อัตราการเต้นของหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติเนื่องจากติดเชื้อในกระแสเลือด ทางเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงเพราะอาการน่าเป็นห่วง
ต่อมาในวันนี้ 17 สิงหาคม เมื่อเวลา 00.09 น. มาเรียมเกิดอาการช็อกและจากไปอย่างสงบ ซึ่งจากการตรวจพิสูจน์พบเศษพลาสติกเล็กๆ จำนวน 8 ชิ้น มีความยาว ประมาณ 8-10 เซนติเมตร ในลักษณะเสื่อมสภาพ ขวางลำไส้ส่งผลให้มีอาการอุดตันที่บริเวณปลายลำไส้เล็ก-ต้นลำไส้ใหญ่ ทำให้เกิดแก๊สสะสมอยู่เต็มทางเดินอาหาร มีการติดเชื้อในกระแสเลือด ปอดมีหนองทำให้ขาดน้ำอย่างหนัก
ประกอบกับมีรอยช้ำกล้ามเนื้อ บริเวณช่องทางและพนังช่องท้องด้านในที่คาดว่าเกิดจากการกระแทกจากพูนตัวผู้ ตับมีสีเหลืองเนื่องจากไม่ได้รับอาหารเป็นเวลานาน หัวใจพบเลือดเล็กน้อยและบีบตัวแข็งจากการเกิดภาวะช็อก
นอกจากนี้ จากการพบพิสูจน์พบเศษพลาสติกนั้น ทางทีมแพทย์คาดว่าน่าจะมาจากเศษพลาสติกที่ติดค้างอยู่บริเวณหญ้าทะเล ซึ่งเป็นอาหารที่มาเรียนกินเข้าไป ซึ่งในกรณีนี้ถือว่าเป็นเรื่องยากที่พะยูนจะแยกระหว่างหญ้าทะเลและพลาสติก โดยทีมแพทย์ยอมรับว่าเศษพลาสติกเป็นจุดเริ่มเติมในการทำให้ร่างกายของมาเรียมทรุดลง
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นำร่างมาเรียมไปสตาฟเพื่อเป็นประโยชน์ด้านการศึกษาและการอนุรักษ์ต่อไป