สารวัตรยิงสยบคลั่ง ผัวบุกบ้านแทงเมีย-ควงมีดตามถึงห้องฉุกเฉิน ถามเศร้า "ทำไมไม่ยิงหัว"

สารวัตรยิงสยบคลั่ง ผัวบุกบ้านแทงเมีย-ควงมีดตามถึงห้องฉุกเฉิน ถามเศร้า "ทำไมไม่ยิงหัว"

สารวัตรยิงสยบคลั่ง ผัวบุกบ้านแทงเมีย-ควงมีดตามถึงห้องฉุกเฉิน ถามเศร้า "ทำไมไม่ยิงหัว"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผัวเมาคลั่งอาละวาดกระหน่ำแทงภรรยาเสียชีวิต และคว้ามีดพร้าบุกโรงพยาบาลจะตามซ้ำภรรยา และไล่ฟันตำรวจที่เข้าระงับเหตุ ถูกยิงสวนเข้าที่ขาหยุดความบ้าคลั่ง

(18 ส.ค.62) เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยยอด รับแจ้งขอความช่วยเหลือเกิดเหตุผัวเมาคลั่งกระหน่ำแทงภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัสที่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 6 ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ของนางยุพิน สมบูรณ์ จึงรีบเดินทางไปช่วย พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลสถานตรัง สาขาห้วยยอด เมื่อไปถึงพบ นายราเชน อายุ 39 ปี ผู้เป็นสามีวิ่งหนีตำรวจออกจากบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านของแม่ยาย เพื่อกลับไปเอารถยนต์กระบะที่จอดไว้ที่บ้านของภรรยา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แบ่งกำลังขับรถไล่สกัดจับ แต่เจ้าตัวได้ขับรถยนต์กระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีบรอนซ์ ป้ายทะเบียน กจ.4870 ตรัง หลบหนีการติดตาม และมุ่งหน้า รพ.ห้วยยอด 

ขณะเดียวกันที่บ้านเกิดเหตุเมื่อผัวคลั่งวิ่งหนีตำรวจออกจากบ้าน เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง สาขาห้วยยอด พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกส่วนหนึ่ง และญาติได้รีบนำร่างของ นางวันดี อายุ 45 ปี ซึ่งอยู่ในสภาพเลือดท่วมตัวนอนหมดสติอยู่ภายในบ้านรีบขึ้นรถกู้ภัย เพื่อรีบนำตัวส่ง รพ.ห้วยยอด โดยระหว่างทางรถกู้ภัยฉุกเฉินของ รพ.ห้วยยอด ซึ่งมีเครื่องมืออุปกรณ์กู้ชีพที่ทันสมัยกว่า ได้วิ่งไปรับคนเจ็บระหว่างทาง เพื่อเร่งช่วยเหลือชีวิตและรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วนที่สุด

ต่อมา ปรากฏว่านายราเชน ผัวเมาคลั่งได้ขับรถยนต์มุ่งหน้ามา รพ.ห้วยยอด โดยที่ตำรวจได้ขับรถไล่ตามมาติดๆ เมื่อนายราเชนมาถึงโรงพยาบาลรีบจอดรถยนต์ และรีบคว้ามีดพร้าบุกเข้าไปบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาล พร้อมกับถามหาภรรยาว่าอยู่ห้องไหน และพยายามจะถือมีดพร้าผลักประตูห้องฉุกเฉินเข้าไปหาภรรยาด้านใน เพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่จะต้องนำตัวภรรยาถึงโรงพยาบาลแล้ว เพื่อจะตามเข้าไปทำร้ายภรรยาภายในห้องฉุกเฉิน แต่ความจริงมีการส่งต่อคนเจ็บระหว่างทาง ขึ้นรถกู้ชีพฉุกเฉินของโรงพยาบาล ทำให้คนเจ็บถึงโรงพยาบาลช้ากว่า ทำเอาชาวบ้านรวมทั้งหมอพยาบาลตกใจวิ่งหนีกระเจิง 

รปภ. เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย และตำรวจที่ไล่ติดตามมาทัน พยายามเกลี้ยกล่อม แต่เจ้าตัวไม่ยอมสงบพยายามจะตามหาภรรยาให้ได้ พร้อมกับใช้มีดพร้าจะฟันเจ้าหน้าที่ศูนย์เปลที่เข้ามาขัดขวาง โดยฟันถูกเคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่ศูนย์เปล จนเป็นรอยมีดพร้าไปหลายครั้ง จนเจ้าหน้าต้องใช้ไม้ง่ามสำหรับล็อกคอเพื่อจะหยุด แต่เจ้าตัวดิ้นหนีได้ และพยายามใช้มีดพร้าไล่ฟัน พ.ต.ต.วีระชัย หนูชู สารวัตรปราบปราม สภ.ห้วยยอด ที่นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไประงับเหตุ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กลัวคนร้ายจะจับชาวบ้านหรือพยาบาล หรือเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเป็นตัวประกัน จนเหตุการณ์จะบานปลาย สารวัตรปราบปรามจึงตัดสินใจใช้อาวุธปืน ขนาด 11 มม. ซึ่งเป็นอาวุธปืนประจำกาย เลือกยิงจุดซึ่งไม่อันตรายของร่างกายโดยยิงไปที่ขาขวาจนทรุดลง เพื่อป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย และสมควรแก่เหตุ จึงสามารถหยุดความบ้าคลั่งและจับกุมตัวไว้ได้ไม่ให้คนร้ายใช้อาวุธมีดไล่ฟันแทงคนอื่นๆ ในโรงพยาบาลอีก ทั้งนี้ หลังจากจับผัวคลั่งไว้ได้ รถของโรงพยาบาลก็สามารถเข้าจอด และนำตัวภรรยาเข้าไปในห้องฉุกเฉินได้ แต่พบว่าเสียชีวิตแล้ว เนื่องจากพบถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลมเข้าบริเวณสำคัญของร่างกายโดยเข้าที่หน้าอก 3 แผล และขาขวาอีก 1 แผล ท่ามกลางความเสียใจของลูกๆ และญาติพี่น้องที่เดินทางไปที่โรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ หลังเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผัวคลั่งพร้อมอาวุธมีดปลายแหลม และมีดพร้าไว้ได้ ก็นำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่เจ้าหน้าที่ตำรวจป้องกันตัวและระงับเหตุยิงที่ขา พร้อมตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ และพยายามจะเจาะเลือดตรวจหาสารเสพติด แต่เจ้าตัวยังไม่ยอมสงบสติอารมณ์ ปฏิเสธการตรวจและการรักษาทุกอย่าง ต่อมาเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บพยานหลักฐาน ไว้ประกอบดำเนินคดีนายราเชนตามกฎหมายต่อไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวนายราเชนไปรักษาต่อที่ รพ.ห้วยยอด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งคุมตัวไปด้วย

ทางด้าน นางสาววิยดา อายุ 31 ปี ญาติผู้ตายกล่าวว่า นายราเชนมีอาชีพรับจ้างเดินสายไฟ เลิกรากับนางวันดีมาประมาณ 1-2 ปี แล้ว โดยมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 10 ปี ช่วงเกิดเหตุได้เมาเข้าไปหาน้องสาวคือนางวันดี ที่บ้านแม่ยาย ซึ่งอยู่กันประมาณ 4 คน เพื่อจะขอคืนดี เนื่องจากในระยะ 3-4 วันนี้ นายราเชนเมาเข้าไปหาและทำร้ายร่างกายน้องสาวคือนางวันดีทุกครั้ง จนญาติๆ ให้น้องสาว พร้อมลูกสาวที่เกิดกับนายราเชนไปนอนบ้านแม่ เพราะกลัวนายราเชนจะเข้าไปทำร้ายอีก และก็เมาเข้าไปจริงและหาเรื่องทะเลาะ จนใช้มีดจ้วงแทงน้องสาวล้มลง โดยแม่ตะโกนเรียกให้ญาติที่บ้านอยู่ใกล้กันมาช่วย ตนเองก็รีบวิ่งไปดู พบนายราเชนแทงน้องสาวนอนนิ่งกับพื้น และขึ้นนั่งคร่อมบีบคอน้องสาว ตนเองจึงยกมือไหว้ขอร้องให้เห็นแก่ลูก และญาติโทรแจ้งตำรวจ นายราเชนจึงได้วิ่งหนีไป และพบว่าตามมาอาละวาดจะทำร้ายน้องสาวที่โรงพยาบาลอีก จนตำรวจจับได้

ด้าน พ.ต.อ.ประดิษฐ์ ชัยพล ผู้กำกับการตำรวจภูธรห้วยยอด กล่าวว่า จากการซักถามผู้ต้องหา ได้พูดมีสติดีทุกอย่าง ผู้ต้องหาก็ยอมรับว่า ได้ถือมีพร้ามาที่โรงพยาบาลห้วยยอดจริง เพื่อจะมีดูอาการของภรรยา แต่พอมาถึงที่โรงพยาบาลก็ได้เจอกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาระงับเหตุ ผู้ต้องหาก็เชื่อว่าภรรยาเจ็บหนักและเสียชีวิต ผู้ต้องก็หาจงใจถืออาวุธมีพร้าที่ถือมา จงใจที่จะฟันตำรวจเพื่อต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยิง เพื่อจะตายตาม เพราะผู้ต้องหาถามตำรวจว่า ทำไมไม่ยิงให้ถูกหัวจะได้ตาย แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ระงับเหตุยิงไปแค่ยับยั้งไปที่ต้นขา

ซึ่งขณะนี้ทางผู้ต้องหาได้ปฏิเสธการรักษาทุกอย่าง ปฏิเสธให้น้ำเกลือ และอยู่ระหว่างการตรวจเลือด เป็นเหตุผลส่วนตัวของผู้ต้องหา อาจจะอยากตายตามภรรยา ส่วนข้อหาเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำบันทึกจับกุม โดยเตรียมตั้ง 3 ข้อ ประกอบด้วย ฆ่าผู้อื่น คือฆ่าภรรยา และพยามฆ่าเจ้าพนักงาน ขณะทำหน้าที่เข้าระงับเหตุ คือ สวป.ที่เข้ามาระงับเหตุ และข้อหาบุกรุกที่บ้านขณะเข้าไปทำร้ายภรรยา และในส่วนของโรงพยาบาลว่าจะถูกตั้งข้อหาบุกรุกด้วยหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างสอบสวน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นพื้นที่เปิด จะต้องดูว่าทางโรงพยาบาลจะว่าอย่างไร ส่วนการควบตัวผู้ต้องหาได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิดเนื่องจากช่วงนี้สภาพจิตไม่เหมือนคนปกติ เชื่อว่าผู้ต้องหากำลังจะทำร้ายตัวเอง และโดยปกติก็มีการจัดกำลังไปเฝ้าไปควบคุมที่ รพ.ตรัง อยู่แล้ว ตั้งแต่เกิดเหตุ 22.00 ถึง 02.00 น กว่าเหตุการณ์ที่โรงพยาบาลจะสงบ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook