ไมเคิล ทิ้งหนี้กองโต 1.7 หมื่นล.ก่อนหัวใจวาย! เชื่อกินยาเกินขนาด

พี่ชาย"แจ๊กสัน"เผยน้องชายหมดสติ หัวใจวายเฉียบพลัน ทนายความเชื่อกินยาเกินขนาด ทิ้งหนี้กองโต 1.7 หมื่นล้านบาท สื่อประโคมข่าวทั่วโลก "มาดอนน่า"หลั่งน้ำตาสุดอาลัยชูผลงานอมตะตลอดกาล อดีตโปรดิวเซอร์แจ็คสันซัดหมอประจำตัวคืออาชญากร การเสียชีวิตทำยอดขายอัลบั้มพุ่ง

ราชาเพลงป๊อปหัวใจวายเสียชีวิต

เมื่อวันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นและสำนักข่าวต่างประเทศทั่วโลก รายงานข่าวสุดช็อคโลกของวงการมายา เมื่อ 2 ศิลปินดังระดับโลก เสียชีวิตในเวลาไล่ๆ กัน รายแรกได้แก่ ฟาร์ร่าห์ ฟอว์เซ็ตต์ อดีตนางฟ้าชาร์ลียุคแรก จากซีรีส์ดังทางทีวีของอเมริกาในยุค 70 ที่เสียชีวิตในวัย 62 ปี ด้วยโรคมะเร็งลำไส้ที่โรงพยาบาลในเมืองซานตา มอนิกา เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายนตามเวลาในประเทศไทย จากนั้น ไมเคิล แจ๊กสัน ราชาเพลงป๊อป ก็หัวใจวายเสียชีวิตที่บ้านพักในนครลอสแองเจลิส เมื่อเช้ามืดวันเดียวกัน ท่ามกลางความเศร้าสลด และตกตะลึงของแฟนเพลงทั่วโลก ที่ต่างช็อคต่อการจากไปอย่างกะทันหันของ ไมเคิล แจ๊กสัน ในวัยเพียง 50 ปี

นายเจอร์เมน แจ๊กสัน พี่ชายของไมเคิล ซึ่งรับหน้าที่เป็นโฆษกอย่างเป็นทางการของครอบครัวแจ๊กสัน แถลงต่อผู้สื่อข่าวด้วยอาการสะเทือนใจว่า แจ๊กสัน หมดสติ มีอาการหัวใจวายเฉียบพลันที่บ้านพัก ซึ่งเป็นบ้านเช่าในย่านหรูของโฮล์มบี้ ฮิลส์ ในนครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ทีมแพทย์ประจำตัวได้พยายามช่วยชีวิตอยู่เกือบ 1 ชั่วโมง แต่ไม่สามารถช่วยได้ จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ยูซีแอลเอ เมื่อเวลา 13.14 น. โดยทีมแพทย์พยายามช่วยชีวิตอยู่กว่า 1 ชั่วโมง ก่อนจะประกาศการเสียชีวิตของศิลปินดังผู้มีชีวิตลึกลับ และสร้างสีสันให้โลกบันเทิงมาตลอดเวลากว่า 40 ปีเมื่อเวลา 14.26 น. ตามเวลาท้องถิ่นในนครลอสแองเจลิส ตรงกับเวลา 04.26 น. ของวันที่ 26 มิถุนายน ของประเทศไทย จากนั้นศพของแจ๊กสัน ได้ถูกนำขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังสำนักงานชันสูตรศพนครลอสแองเจลิส เพื่อสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป ท่ามกลางแฟนเพลง และผู้สื่อข่าวหลายร้อยคนเฝ้าติดตามข่าวอยู่หน้าโรงพยาบาล

รอผลพิสูจน์สาเหตุที่แท้จริง

"ขณะนี้ เชื่อกันว่า เขามีอาการหัวใจวายที่บ้าน แต่อย่างไรก็ตาม เรายังไม่รู้ว่า อะไรคือสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิต จนกว่าจะมีผลชันสูตรศพออกมา" เจอร์เมนบอก ทั้งเล่าว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า ทางตำรวจจะทำการสอบสวนตามขั้นตอนการปฏิบัติงาน ที่ใช้ในกรณีผู้เสียชีวิตเป็นคนดัง มีชื่อเสียง พร้อมทั้งวอนสื่อมวลชน ขอให้เคารพความเป็นส่วนตัวต่อครอบครัวในช่วงเวลาที่ทำใจได้ยากลำบากเช่นนี้

ด้านนายเฟรด คอร์รอล เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพเขตนครลอสแองเจลิส บอกกับผู้สื่อข่าวว่า การชันสูตรศพคาดว่าจะมีขึ้นในวันเดียวกันนี้แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะใช้เวลายาวนานแค่ไหนจึงจะสรุปสาเหตุอย่างเป็นทางการได้

ทั้งนี้จากข่าวว่า ประมาณ 1 เดือนก่อนเสียชีวิต แจ๊กสัน ได้ออกมาแถลงเลื่อนเปิดการแสดงทัวร์คอนเสิร์ต 50 รอบในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่กำหนดมีขึ้นต้นเดือนกรกฎาคม ไปเป็นวันที่ 13 กรกฎาคม และจะแสดงไปจนถึงเดือนมีนาคม ปี 2553 ท่ามกลางกระแสข่าวว่า แจ๊กสัน ป่วยเป็นมะเร็งผิวหนัง และมีข่าวเดินเข้าออกโรงพยาบาลในลอสแองเจลิส เพื่อรักษาอาการป่วยอยู่หลายครั้ง ขณะที่ระหว่างป่วยก็มีข่าวว่า ศิลปินดัง ซึ่งโด่งดังเข้าสู่วงการเพลงตั้งแต่อายุ 6 ขวบกับพี่น้อง 5 คนในนามวงแจ๊กสัน ไฟว์ พยายามฝึกซ้อมอย่างหนักตลอดเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา เพื่อเตรียมตัวขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งนี้ ซึ่งหลายคนเชื่อว่า จะสามารถมีเงินมาช่วยปลดภาระหนี้สินให้บรรเทาลง แม้แต่เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ก็ยังขึ้นเวทีซ้อมที่สเตเพิล เซนเตอร์ อารีนา

ทนายความเชื่อกินยาเกินขนาด

นายไบรอัน อ๊อกซ์แมน ทนายความของครอบครัวแจ๊กสัน ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นว่า ศิลปินเพลง เจ้าของฉายา"คิง ออฟ ป๊อป" เจ้าของท่าเต้นมูนวอล์ก อันเป็นต้นตำรับของท่าเต้นเบรก แดนซ์ ในยุคต่อมา และเจ้าของท่าเต้นลูบเป้า ที่กลายเป็นเอกลักษณ์ และกลายเป็นที่รู้จักทั่วโลก ได้รับประทานยาหลายชนิดตลอดหลายปีที่ผ่านมานับแต่อยู่ในวงการเพลง อีกทั้งเมื่อได้รับบาดเจ็บตกจากเวที จนกระดูกสันหลัง และกระดูกขาข้างหนึ่งหักระหว่างซ้อม ก็รับประทานยาหลายตัว เพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง พร้อมที่จะขึ้นคอนเสิร์ต ซึ่งเขาเอง ก็คิดกลัวอยู่ว่า อาจจะเกิดอันตรายกับแจ๊กสันขึ้นสักวัน

"นี่เป็นสิ่งที่ผมไม่รู้สึกประหลาดใจเลย...เพราะว่า ด้วยบรรดายาต่างๆ ที่ไมเคิลรับประทานอยู่" อ๊อกซ์แมนให้สัมภาษณ์จากโรงพยาบาลที่ครอบครัวแจ๊กสันอยู่กันที่นั่น ทั้งยังเปรียบการเสียชีวิตของแจ๊กสัน เหมือนกรณีการเสียชีวิตของ แอนนา นิโคล สมิธ อดีตสาวเพลย์บอย ที่เสียชีวิตเพราะกินยาเกินขนาด

"ผมไม่รู้ว่า ไมเคิลรับประทานยาอะไรบ้าง แต่จากรายงานการรักษาที่ครอบครัวไมเคิลได้รับ เรารู้ว่า มันเยอะมาก"อ๊อกซ์แมน ยังตำหนิคนรอบตัวแจ๊กสันว่า ไม่มีใครตักเตือน ห้ามแจ๊กสันเรื่องรับประทานยา แม้ว่า จะสามารถบอกเตือนกันได้

เป็นหนี้กว่า1.7หมื่นล้านบาท

รายงานข่าวว่า ไมเคิล แจ๊กสัน จากไปขณะยังมีภาระหนี้สินกองโตอยู่เบื้องหลังกว่า 400-500 ล้านดอลลาร์ (ราว 13,680-17,100 ล้านบาท) แล้วยังทัวร์คอนเสิร์ตในอังกฤษ 50 รอบ ที่บัตรขายหมดเกลี้ยงตั้งแต่ผู้จัดเปิดให้จองบัตรเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะจบลงอย่างไร เมื่อศิลปินดังมาเสียชีวิตกะทันหัน ทำให้เกิดคำถามว่า จะคืนเงินให้ผู้ชมกันอย่างไร อีกทั้งยังมีข่าวว่า แจ๊กสันได้รับเงินค่าตัวล่วงหน้าไปแล้ว 10 ล้านดอลลาร์ (ราว 342 ล้านบาท) ส่วนคฤหาสน์เนฟเวอร์แลนด์ ซึ่งเป็นบ้านที่แจ๊กสันรักมาก แจ๊กสันก็ไม่มีสิทธิเข้าพักหลังจากถูกยึด เมื่อแจ๊กสันประสบปัญหาการเงิน ไม่มีผลงานเพลง หลังจากตกเป็นจำเลยในคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายวัย 13 ปี ซึ่งคดีจบลงด้วยการยอมความนอกศาล โดยแจ๊กสัน จ่ายเงินให้ครอบครัวเด็กชาย จากนั้นก็ออกจากอเมริกา หลบหน้าไปพำนักอยู่ที่ บาห์เรน และต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่

เอพีรายงานว่า หลังข่าวการเสียชีวิตของแจ๊กสันแพร่ออกไป สำนักข่าวหลายแห่งต่างเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง ตลอดทั้งวัน ช่องเอ็มทีวี ได้ตัดข่าวจากรายการประจำ เสนอข่าวและเพลงของแจ๊กสัน ดีเจหลายคลื่นวิทยุต่างเปิดเพลงของแจ๊กสันในรายการเป็นการอาลัย รำลึกถึง ขณะที่ มาดอนน่า นักร้องซุปเปอร์สตาร์วัย 51 ถึงกับหลั่งน้ำตาเมื่อทราบข่าว "ฉันกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ... ฉันชื่นชม ยกย่องไมเคิล แจ๊กสัน มาตลอด โลกได้สูญเสียศิลปินผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง แต่ผลงานเพลงของเขาจะอยู่เป็นอมตะ ตลอดกาล"

อดีตโปรดิวเซอร์แจ๊กสันซัดหมอประจำตัวคืออาชญากร

ทารัค เบน อัมมาร์ อดีตโปรดิวเซอร์และเพื่อนของไมเคิล แจ๊กสัน ชาวตูนีเซียให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุยุโรป 1 ของฝรั่งเศส ว่า เห็นได้ชัดว่าอาชญากรคือพวกหมอประจำตัวของแจ๊กสัน ที่ผ่าตัดทำลายใบหน้า และให้ยาแก้ปวดกับเขามาตลอด ไมเคิล แจ๊กสัน มักอุปทานว่าตัวเองป่วยอยู่เสมอ ไม่มีใครทราบเรื่องการป่วยของเขา เนื่องจากแจ๊กสันมักถูกห้อมล้อมไปด้วยพวกหมอสิบแปดมงกุฎที่มักจ่ายยาและวิตามินราคาแพงให้โดยตลอด

อดีตโปรดิวเซอร์ของแจ๊กสัน เชื่อว่าแจ๊กสัน กินยานอนหลับเป็นประจำ เสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลว เพราะรับประทานยาหลายขนานมาตลอด แต่ไม่เคยใช้ยาเสพติด แจ๊กสันไม่ได้กินดีอยู่ดี คุณภาพชีวิตแย่ และไม่ได้ออกกำลังกาย

การเสียชีวิตของ"ไมเคิล แจ๊กสัน"ทำยอดขายอัลบั้มพุ่ง

รายงานข่าวแจ้งว่าการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของ ไมเคิล แจ๊กสัน ราชาเพลงป็อปชาวอเมริกันได้กระตุ้นให้ยอดขายอัลบั้มเพลงของเขาให้สูงขึ้น โดยเพลงของไมเคิล แจ๊กสัน ครองอันดับ 1 ใน 15 อัลบัมเพลงขายดีที่สุดของเว็บไซต์ค้าปลีกออนไลน์ Amazon.com ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง และไม่น่าประหลาดใจที่ซีดีอัลบัมขายดีอันดับ 1 คือ ครบรอบ 25 ปีอัลบัม "Thriller" ที่นำกลับมาทำใหม่

โดยเพลงชุดดังกล่าวเคยครองตำแหน่งขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์วงการเพลง คาดว่ามียอดจำหน่ายทั่วโลกเกือบ 50 ล้านชุด อัลบัมที่มียอดสั่งซื้อออนไลน์มากเป็นอันดับ 2 คือ "Off the Wall" ที่ออกจำหน่ายครั้งแรกในปี 2522 ตามด้วยอัลบัม "Bad" ออกจำหน่ายครั้งแรกในปี 2530 ทั้งสองอัลบัมล้วนทำยอดขายถล่มทลายเมื่อออกจำหน่ายครั้งแรก

ขณะที่อัลบัม "Invincible" ที่เป็นชุดสุดท้ายของไมเคิล ในปี 2544 มียอดขายมากพอควรโดยครองอันดับ 10 และอัลบัมอื่นที่ติดอันดับขายดี เช่น รวมผลงานเดี่ยวและรวมเพลงยอดฮิตของแจ๊กสันในช่วงที่อยู่กับวงแจ็คสัน 5

เซอร์ ฮาเวิร์ด สตริงเกอร์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารโซนี่ คอร์ป กล่าวว่า ความเป็นศิลปินที่ดึงดูดของไมเคิล ได้เปลี่ยนแปลงวงการเพลงตลอดกาล

ทั้งนี้บริษัทโซนี่ มิวสิก เลเบิล ในเครือของโซนี่ คอร์ป เผยว่า ยอดขายอัลบัมเพลงทุกชุดของไมเคิล แจ๊กสัน สูงถึง 750 ล้านแผ่นทั่วโลก และมีเพลงที่ครองอันดับ 1 ถึง 13 เพลง

สื่อมะกันเปรียบชีวิตไมเคิลแจ๊กสันเหมือนเพรสลีย์

สื่อสหรัฐเปรียบชีวิตของ ไมเคิล แจ๊กสัน ว่า มีส่วนคล้าย เอลวิส เพรสลีย์ ในหลายแง่มุม โดยทั้งคู่ไม่ได้เป็นแค่ซูเปอร์สตาร์แต่เป็นถึงราชาแห่งวงการเพลง ทั้งยังประสบชะตากรรมเดียวกัน นั่นก็คือ การลาโลกไปก่อนวัยอันควร

เอลวิส เพรสลีย์ ได้ชื่อว่า เป็นราชาเพลงร็อกแอนด์โรล ในขณะที่ไมเคิล แจ๊กสันเป็นราชาเพลงป็อบ และครั้งหนึ่ง ไมเคิล ยังมีสถานภาพเป็นลูกเขยของเอลวิส เพราะได้แต่งงานกับ ลิซา มารี เพรสลีย์ บุตรสาวของเอลวิส ก่อนที่จะหย่าขาดจากกันในเวลาต่อมา

เอลวิส เพรสลีย์ เสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาด ขณะที่มีอายุได้เพียง 42 ปี วาระสุดท้ายของชีวิต เขากลายเป็นคนอ้วนฉุ ไม่เหลือเค้าเดิมของนักร้องหนุ่มรูปหล่อ เช่นเดียวกับ ไมเคิล แจ๊กสัน ที่ใบหน้าดูผิดแปลกไปจากที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังเมื่อหลายปีก่อน ไมเคิลเสียชีวิตด้วยวัย 50 ปี จากการอาการหัวใจวายเมื่อวาน ที่บ้านพักในนครลอสแองเจลิส

บทเพลงของเอลวิส และไมเคิล ต่างเข้าถึงใจชาวโลกทุกเชื้อชาติและสีผิว ทั้งคู่ต่างเป็นนักร้องชื่อดัง มีเอกลักษณ์ของตนเอง เชื่อมั่นในตัวเองสูง เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ และในขณะที่เอลวิส เป็นเจ้าของคฤหาสน์เกรซแลนด์ ไมเคิล แจ็คสัน ก็มีคฤหาสน์เนเวอร์แลนด์อันลือชื่อ

แต่ในหนังสือ "มูน วอล์ก" ซึ่งเป็นบันทึกความทรงจำของไมเคิล ตีพิมพ์เมื่อปี 2531 กลับระบุว่า เอลวิส ไม่ได้มีอิทธิพลใดใดต่อไมเคิล และเขาก็ไม่พอใจนักที่รู้ว่าเพลง "Heartbreak Hote" ซึ่งเขาบันทึกเสียงร่วมกับพี่ ๆ ในตระกูลแจ๊กสัน เป็นเพลงที่มีชื่อซ้ำกับเพลงหนึ่งในอัลบั้มของเอลวิส
ไมเคิล ยังเล่าถึงมุมมองของคนทั่วไป ที่เห็นว่าถ้าเขายังคงใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวเช่นนี้ สักวันหนึ่งเขาก็จะต้องเสียชีวิตในรูปแบบเดียวกับเอลวิส แต่ถึงกระนั้น ไมเคิล ยอมรับว่า จุดจบของเอลวิส เป็นสิ่งที่เขาควรเรียนรู้ เพราะเขาไม่ต้องการเดินตามรอยเอลวิส จนต้องจบชีวิตในสภาพนั้น แต่ท้ายสุด ไมเคิล แจ๊กสัน ก็มีชะตากรรมในบั้นปลายไม่ต่างจากเอลวิส เพรสลีย์

ตั้งวงกับ5พี่น้องก่อนโด่งดัง

ด้านแฟนเพลงเมื่อรู้ข่าว ต่างเดินทางไปวางดอกไม้ ของเล่นต่างๆ เป็นการไว้อาลัยตามสถานที่ต่างๆ กันเนืองแน่น ทั้งที่บ้านเกิดของแจ๊กสันในเมืองแกรี หน้าโรงพยาบาลยูซีแอลเอฯในลอสแองเจลิส, หน้าสำนักงานชันสูตรศพ ส่วนที่นิวยอร์ก ด้านหน้าโรงละครอพอลโล เธียเตอร์ ในย่านฮาร์เล็ม ก็มีแฟนเพลงไปรวมตัวกันร้องเพลงของไมเคิล แจ๊กสัน และเต้นเป็นการไว้อาลัย

ไมเคิล แจ๊กสัน เป็นลูกคนที่ 7 ในจำนวนพี่น้อง 9 คนของตระกูลแจ๊กสัน เกิดเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ปี 2501 ที่เมืองแกรี รัฐอินเดียนา สหรัฐอเมริกา พออายุ 11 ครอบครัวก็ย้ายจากเมืองแกรี หลังจากที่พี่น้อง 5 คนได้รวมตัวกันตั้งวง แจ๊กสัน ไฟว์ อัดอัลบั้มแรกเมื่อปี 2512 หลังเซ็นสัญญากับบริษัท สตีลทาวน์ เรคคอร์ด ของ กอร์ดอน คีธ เมื่อปี 2510

ตลอดชีวิตในวงการ แจ๊กสันมีอัลบั้มเดี่ยว และอัลบั้มในนามแจ๊กสัน ไฟว์ กว่า 20 ชุด มีเพลงฮิตมากมาย อาทิ บีท อิท, บิลลี่ จีน, แบล๊ค ออร์ ไวท์, วี อาร์ เดอะ เวิลด์ ฯลฯ และอัลบั้มธิลเลอร์ ที่หนังสือกินเนสส์ บุ๊ก เวิลด์ ออฟ เรคคอร์ด บันทึกว่า เป็นอัลบั้มเพลงที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในโลก

จากข่าวมีการประมาณคร่าวๆ ว่าแจ๊กสัน น่าจะมียอดขายอัลบั้มรวมแล้วราว 750 ล้านแผ่น เคยได้รางวัลแกรมมี่ รางวัลสูงสุดในวงการเพลง 13 ตัว และมีผลงานมิวสิควิดีโอเป็นที่ชื่นชอบในความริเริ่มแปลกใหม่และได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในศิลปินที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในโลก

เคยแต่งงาน2ครั้งมีลูก3คน

ด้านชีวิตส่วนตัว แจ๊กสัน ก็ตกเป็นข่าวสีสันที่สร้างความฮือฮามาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตลึกลับ ชอบปรากฏตัวในชุดสีดำ พร้อมหน้ากากปิดจมูก ปิดหน้า สวมถุงมือสีขาว มีข่าวเคยนอนในโลงแก้วมีออกซิเจน เพื่อคงความหนุ่ม และข่าวการทำศัลยกรรมใบหน้ามากมาย แม้แต่สีผิวที่ขาวจั๊วะ ผิดธรรมชาติ ก็เชื่อว่า เกิดจากการทำศัลยกรรมเปลี่ยนสีผิว ที่ทำให้สีผิวโดยธรรมชาติ ที่เป็นคนผิวดำโดยกำเนิด กลายเป็นข่าวซีด แต่เจ้าตัวไม่เคยยอมรับ ได้แต่อ้างว่า เกิดจากอาการป่วยด้วยโรคของเม็ดสี ทำงานผิดปกติ แล้วยังพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ ที่ตกเป็นข่าวล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายมาหลายคดี แต่ท้ายสุดก็สามารถตกลงกับโจทก์ได้ทุกราย โดยจ่ายเงินค่าเสียหายก้อนโตให้

อย่างไรก็ตาม แจ๊กสัน เคยแต่งงานมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกกับ ลิซา มารี เพรสลีย์ ลูกสาวคนเดียวของ เอลวิส เพรสลีย์ ราชาร็อคแอนด์โรล เมื่อปี 2537 แล้วหย่ากันเมื่อปี 2539 จากนั้นแจ๊กสัน ก็มาแต่งงานกับ เด็บบี้ โรว์ หญิงนอกวงการ มีบุตรด้วยกัน 2 คน จากนั้นก็หย่ากันเมื่อปี 2542 หลังจากนั้น แจ๊กสัน ก็ได้ลูกอีกคนจากหญิงที่รับจ้างอุ้มท้องลูกให้

สำหรับลูกทั้งสามคนของแจ๊กสัน ได้แก่ ปริ๊นซ์ ไมเคิล วัน, ปารีส ไมเคิล และ ปริ๊นซ์ ไมเคิล ทู เชื่อว่า น่าจะเกิดจากการผสมเทียมมากกว่าเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ของพ่อแม่

มะเร็งลำไส้คร่า"นางฟ้าชาร์ลี"

ด้านข่าวการเสียชีวิตของ ฟาร์ร่าห์ ฟอว์เซ็ตต์ อดีตนางเอกวัย 62 หนึ่งในนางฟ้าชาร์ลี ของซีรีส์ทางทีวียอดฮิต ชาร์ลี′ส แองเจิลส์ มีข่าวว่า อดีตนางเอกดัง เจ้าของทรงผม "ทรงฟาร์ร่าห์" เสียชีวิตที่โรงพยาบาลเซนต์.จอห์น′ส เฮลธ์ เซนเตอร์ในเมืองซานตา มอนิกา สหรัฐอเมริกา เมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายนตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับคืนวันพฤหัสฯตามเวลาในบ้านเรา ด้วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ตอนปลาย โดยมี ไรอัน โอนีล คู่ชีวิตอยู่เคียงข้างจนลมหายใจสุดท้าย หลังจากอดีตนางเอกดัง ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งมาเกือบ 3 ปี และเพิ่งรับปากแต่งงานกับ โอ นีล ที่ใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน โดยไม่ได้แต่งงานมานานกว่า 10 ปี มีลูกชายด้วยกัน 1 คนชื่อ เรดมอนด์ วัย 24 ซึ่งตอนนี้ติดคุกในคดียาเสพติด แต่ท้ายสุด ทั้งคู่ก็ไม่ได้แต่งงานกัน เมื่อฟาร์ร่าห์ เสียชีวิตไปก่อน