สื่อสหรัฐจวกยับถนนไทย ยิ่งจนยิ่งมีสิทธิ์ตาย ลั่นเหลื่อมล้ำทุกด้าน ไม่เว้นทางเท้า
นิวยอร์กไทม์ส สื่อชื่อดังจากสหรัฐเผยแพร่บทความเมื่อวานนี้ (19 ส.ค.) ตามเวลาสหรัฐ วิจารณ์ถนนในประเทศไทย ที่ยิ่งจนเท่าใดยิ่งมีสิทธิ์เสียชีวิตมากเท่านั้น
"ความเหลื่อมล้ำ" สาเหตุคนจนยิ่งตายเยอะ
บทความนี้ยกตัวอย่างกรณีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ที่เกิดขึ้นกับนางอรทัย จันทร์หอม ชาว จ.อุบลราชธานี ขณะขับจักรยานยนต์ แล้วถูกตำรวจคนหนึ่งขับรถกระบะชน จนนางอรทัยเสียชีวิต แต่ตำรวจคนดังกล่าว ยังคงทำงานตามปกติ ไม่ถูกยึดใบขับขี่ และไม่ต้องเข้าคุก
นิวยอร์กไทม์ส ระบุอีกว่า ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ที่ภาครัฐไม่แยแสหรือไม่จริงใจที่จะแก้ปัญหานี้ ทำให้คนจนยิ่งจนลงไปอีก จนแม้แต่หมวกกันน็อก ที่กฎหมายบังคับให้สวมใส่ทุกครั้ง กลายเป็น "สินค้าสูงค่า" สำหรับคนไทยจำนวนไม่น้อย
ขนส่งมวลชนแทบไม่มี
ไม่ใช่แค่นั้น ระบบขนส่งมวลชนก็มีแต่ในกรุงเทพมหานครและจังหวัดบริวารเท่านั้น ทำให้คนในต่างจังหวัดต้องควักเงินที่มีไม่มากซื้อพาหนะมาใช้เอง ซึ่งความเหลื่อมล้ำที่ว่ามาทำให้บางคนซื้อได้แค่รถจักรยานยนต์เท่านั้น ส่วนรถยนต์ที่ปลอดภัยกว่า มีวัสดุที่ปกป้องร่างกายผู้ขับขี่ได้มากกว่า แน่นอนว่าเป็นสิ่งของสำหรับผู้ที่มีฐานะสูงขึ้นมา
บทความของนิวยอร์กไทม์ส ยังยกข้อมูลจากรายงานสถานะความปลอดภัยบนท้องถนนทั่วโลกปี 2561 มาประกอบให้เห็นชัดเจนว่ามีความเหลื่อมล้ำจริงๆ เพราะจากผู้เสียชีวิตบนท้องถนนทั้งหมดในไทย มีแค่ 12% เท่านั้นที่ขับรถยนต์ แต่ส่วนใหญ่เป็นคนขับจักรยานยนต์และคนเดินเท้า
แม้ว่ารัฐบาลไทยให้คำมั่นสัญญาต่อนานาชาติเมื่อปี 2558 ว่าจะลดจำนวนผู้เสียชีวิตบนท้องถนนในแต่ละปี ให้เหลือครึ่งหนึ่งในปี 2563 แต่จนถึงขณะนี้ก็ลดลงเพียงนิดเดียว ส่วนเวลาอีกไม่ถึง 1 ปีที่เหลือ ก็คงทำให้สำเร็จได้ยาก
ทางเท้าดีมีน้อย คนต้องลงไปเดินร่วมกับรถ
ทางเท้าก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่คร่าชีวิตคนเดินถนน เพราะประเทศนี้มีทางเท้ากว้าง ร่มรืน และเหมาะต่อการเดินแทบจะนับที่ได้ เพราะถนนถูกออกแบบให้รองรับคนขับรถยนต์ ที่ไม่ชอบฝ่าความร้อนระอุของอากาศประเทศไทย ทำให้ทางเท้ามักแคบเกินจนต้องลงไปเดินบนถนน ที่คนขับรถยนต์มักใช้ความเร็วโดยไม่เคารพกฎจราจร ทั้งยังมีพ่อค้าแม่ขายที่ยึดทางเท้าเพื่อหารายได้เข้าตัวเอง ราวกับเป็นพื้นที่ส่วนตัว
บังคับใช้กฎหมายหละหลวม-ไม่จับคนรวย
ความเหลื่อมล้ำอีกหนึ่งอย่าง ที่ระบุในบทความนี้ คือ การที่ตำรวจไม่กล้าดำเนินคดีกับคนมีฐานะ ทำให้คนเหล่านี้กล้าขับรถซิ่งบนถนน แม้ว่าดื่มหนักจนเมาก็ตาม ราวกับไม่กลัวผลที่จะตามมา คล้ายที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2555 กับ บอส-วรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง ที่ขับรถชนตำรวจที่ตั้งด่าน และลากร่างไปหลายกิโลเมตรจนเสียชีวิต แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ถูกดำเนินคดี