เกรทเดน 15 ตัว สุดอนาถ! ผอมโซ หลังเจ้าของไม่มีเงินเลี้ยง อ้างหย่าสามี-พิษเศรษฐกิจ

สืบเนื่องเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (18 ส.ค.) มีภาพถ่ายสุนัขตายคากรง ฝังไปแล้ว 3 ตัว แม่หมาแวนด้า เกรทเดน ตายคากรง ลูกแวนด้า อีก 2 ตัว ยังเหลือสุนัขอีก 15 ตัวภายในบ้านหลังหนึ่งใน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี

เมื่อเวลา 14.30 น. วานนี้ (19 ส.ค.) กรมปศุสัตว์ ปทุมธานี และ น.สพ.ทวีศักดิ์ อนันต์ศิริวัฒนา สัตวแพทย์อาสา Watchdog Thailand เข้าตรวจยึดสถานที่เพาะพันธุ์สุนัขสายพันธุ์เกรทเดน แล้วขายไม่ออก ปล่อยให้อดโซ ใครขอไม่ยอมให้ อ้างปล่อยให้ตายไปเอง ที่บ้านหลังหนึ่ง ภายในซอยสารสาท  ต.ลาดหลุมแก้วอ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวมีเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ โดยรอบบ้านมีรั้วกั้นมิดชิด บริเวณรอบตัวบ้านมีต้นไม้ปกคลุม และได้ยินเสียงสุนัขเห่าตลอดเวลา และที่หน้าบ้านปิดล๊อคประตูไว้ เจ้าหน้าที่จึงได้เรียกหาผู้อาศัยอยู่ภายในบ้าน แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับแต่อย่างใด กระทั่งเวลา 15.00 น. ได้มีหญิงวัยกลางคนขับรถเก๋งสีดำมาจอดที่หน้าบ้านหลังดังกล่าว จึงทราบว่าเป็นเจ้าของบ้าน

เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ก็ไม่ตอบคำถามแต่อย่างใด และให้เพียงเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์เข้าไปตรวจสอบภายในบ้านเท่านั้น โดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปเก็บบันทึกภาพแต่อย่างใด

ต่อมาเวลาประมาณ 17.00 น. นายกังวาล ถิรธำรง สัตวแพทย์ชำนาญการ ปศุสัตว์ปทุมธานี ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หญิงที่ดูแลบ้านและดูแลสัตว์เลี้ยง ประสบปัญหาตกงาน และขาดสภาพคล่องทางด้านการเงิน และเพิ่งหย่าร้างกับสามี จึงทำให้ไม่มีเงินสำหรับจะเลี้ยงดูสุนัข ซึ่งเมื่อก่อนได้ทำอาชีพเพาะพันธ์สุนัขพันธ์เกรทเดนขาย

แต่เมื่อเศรษฐกิจซบเซา จึงทำให้ไม่สามารถขายสุนัขไม่ออก จึงต้องคอยดูแลไว้ภายในกรงภายในบ้าน เมื่อไม่มีเงินซื้ออาหารเลี้ยงสุนัขจึงทำให้สุนัขตายไป 3 ตัว ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะมาพบในวันนี้ และนำไปฝังกลบดินภายในเนื้อที่บริเวณบ้านพัก แต่ยังเหลือสุนัขอีกจำนวน 15 ตัว ที่มีสภาพผอมโซ จากการขาดสารอาหาร และมีบางตัวที่เริ่มมีอาการภาวะขาดอาหารมากเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ง่าย ได้พูดคุยกับหญิงคนดังกล่าว เพื่อจะดำเนินการนำสุนัขทั้งหมด 15 ตัว ไปเลี้ยงดูสถานเลี้ยงสัตว์ของกรมปศุสัตว์ก่อน เพื่อปรับสภาพร่างกายให้ฟื้น ซึ่งหากทางเจ้าของมีความสามารถที่จะเลี้ยงดูเองได้แล้วก็สามารถนำกลับไปเลี้ยงได้ แต่อย่างไรก็ตามทางหญิงคนดังกล่าวถือมีความผิดตาม พรบ.ทารุณกรรมสัตว์ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่มาสอบถามเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป