บุกคาเฟ่แมวกลางเมืองเชียงใหม่ คนร้องเรียนแมวกว่า 20 ตัว ถูกปล่อยผอมโซ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (20 ส.ค.) ตัวแทนกลุ่มวอชด็อกไทยแลนด์ (WATCHDOG THAILAND) ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดเชียงใหม่ และ ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ เข้าตรวจสอบที่คาเฟ่แมวแห่งหนึ่ง บนถนนสามล้าน ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังจากที่ตัวแทนกลุ่มวอชด็อกไทยแลนด์ ได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติว่าพบแมวหลายตัวในร้าน อยู่ในสภาพป่วยและผอมโซ แต่ทางร้านยังนำไปหารายได้ด้วยการให้เล่นกับนักท่องเที่ยวซึ่งอาจเข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์
จากการตรวจสอบพบคาเฟ่แมวแห่งนี้เป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ชั้นล่างสุดเปิดเป็นร้านกาแฟ ตรวจสอบชั้นที่สองพบเปิดเป็นห้องพักแมว พบแมวพันธ์เมนคูน เปอร์เซีย อเมริกันช็อตแฮร์ อยู่ประมาณ 8 ตัว แต่ละตัวอยู่ในสภาพผอมโซ บางตัวมีอาการป่วย มีน้ำตาไหลออกมาตลอดเวลา
ส่วนชั้นที่สามเป็นห้องที่พักของแมว มีกรงแมวนับสิบกรง มีแมวอยู่ภายในห้องทั้งที่อยู่ในกรงและนอกกรงอีกประมาณ 10 ตัว โดยเปิดเครื่องปรับอากาศไว้ แต่อากาศไม่ถ่ายเท ส่งกลิ่นเหม็นอับรุนแรงทั่วทั้งห้อง ส่วนถาดอาหารแมว มีมดปะปนในถาด ขณะที่แมวในห้องเกือบทั้งหมดอยู่ในสภาพผอมและป่วย
นายภีมเดช อายุ 27 ปี ผู้ดูแลร้าน กล่าวว่า แมวที่ร้านมีทั้งหมดประมาณ 20 ตัว มีทั้งพ่อพันธ์แม่พันธ์และแมวผสม สาเหตุที่แมวไม่อ้วน เพราะตอนเด็กเคยเลี้ยงแมวจนอ้วน แต่พบว่าเมื่อมันอายุมากขึ้นจะอ้วนจนเดินไม่ได้และป่วยตาย หลังจากนั้นมาจึงเลี้ยงแมวไม่ให้อ้วน
สำหรับคาเฟ่แมวเปิดได้ประมาณ 2 ปี ยืนยันดูแลแมวเป็นอย่างดี ส่วนแมวที่ถูกมองว่าผอมโซ แล้วแต่มุมมอง แต่ความเห็นส่วนตัวมองว่า หากผอมเห็นกระดูกหรือมีอาการขาดน้ำก็จะยอมรับผิด แต่เห็นว่าแมวควรจะกินประมาณนี้ ไม่ต้องการให้อ้วน โดยให้อาหารเน้นโปรตีน ใช้อาหารที่ดีที่สุด ยืนยันดูแลดี
ด้าน นางสาวศรัณย์ชนก พงศ์กมลานนท์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์วอชด็อกไทยแลนด์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าแมวทั้งหมดอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ทั้ง ห้องที่แม้จะมีเครื่องปรับอากากาศแต่ก็ยังร้อนอบอ้าว อากาศไม่ถ่ายเท โดยแมวทั้งหมดเป็นพันธ์ต่างประเทศ มีขนยาว เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมก็จะทำให้เกิดโรคมีอาการป่วยได้ตามสภาพที่เห็น
เบื้องต้น ได้ขอความร่วมมือเจ้าของร้านให้ปรับปรุงสภาพพื้นที่และสุขอนามัยของแมวทั้งหมด แต่หากหลังจากนี้แมวเหล่านี้ต้องอยู่ในสภาพแบบเดิม อาจเข้าแจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากการใช้สัตว์ป่วยหาผลประโยชน์ เพราะมีการเก็บค่าบริการครั้งละ 20 บาท ถือว่ามีความผิดเข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์