หนุ่มเข้าเมืองกรุงโดนตำรวจซ้อมอ่วม ก่อนให้เงินร้อยไปซื้อยามาทาเอง

หนุ่มห้างดังเข้ากรุงเทพฯ ไปอบรม โดนชายฉกรรจ์ 2 คน อ้างตัวเป็นตำรวจ สน.ประชาชื่น ขอตรวจฉี่แต่ถูกรุมกระทืบอ่วม พอตรวจไม่เจออะไรก็ให้เงิน 100 บาทไปซื้อยา

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์เรื่องราวอ้างว่าถูกชายฉกรรจ์ 2 คน ระบุว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น เข้ามาขอตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ก่อนจะทำร้ายร่างกาย อีกทั้งยังพยายามยัดข้อหาเสพยาให้ โดยเจ้าตัวได้แชร์ภาพร่องรอยบาดแผลที่ถูกทำร้าย กระทั่งมีการแชร์ส่งต่อและวิพากษ์วิจารณ์ไปเป็นวงกว้าง

ชายคนดังกล่าวเล่าว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (21 ส.ค.) ขณะกำลั่งนั่งทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่จุดฝากรถลูกค้าศูนย์นครชัยแอร์วิภาวดีรังสิต ปรากฏว่ามีชาย 2 คน อ้างตัวว่าเป็นตำรวจมาขอเข้าตรวจค้น ดูบัตรประชาชน ตนก็ยื่นให้ดูตามปกติ ก่อนจะแจ้งว่าเดินทางมาจาก จ.บุรีรัมย์ เพื่ออบรมงานที่กรุงเทพฯ

หลังจากนั้นชายทั้ง 2 คนก็ขอตรวจค้นกระเป๋า แต่ก็ไม่พบอะไร ก่อนจะขอตรวจปัสสาวะ ตนก็ยินดีที่จะตรวจเพื่อความบริสุทธิ์ใจ แต่ขอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายเป็นหลักฐานเพื่อปกป้องสิทธิ แต่ปรากฏว่าโดนปัดมือและจับใส่กุญแจมือ ก่อนจะรุมทำร้ายร่างกาย ก่อนจะพาตัวไปยัง สน.ประชาชื่น

ตนโดนตรวจหาสารเสพติด 2 รอบ ครั้งแรกหาสารกัญชา อีกครั้งหาสารยาบ้า ก่อนจะโดนถามว่า "มึงโดนตัวไหนมา" ตนก็ยืนยันว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ ก่อนจะถ่ายรูปเก็บเอาไว้ลงบันทึกประจำวัน แต่ไม่มีลายเซ็นใดๆ ตนก็มึนงงว่าตัวเองทำผิดอะไร ก่อนจะพามาส่งที่เดิมและให้เงินมา 100 บาท บอกให้ไปซื้อยา

หลังจากเรื่องราวดังกล่าวได้รับความสนใจจากโซเชียลมีเดีย ทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นายสราวุฒิ อายุ 33 ปี ได้นำใบรับรองแพทย์ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อต้องการให้ตรวจสอบว่าชายฉกรรจ์ 2 คน เป็นตำรวจจริงหรือไม่ และอยากให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมต้องการให้แสดงความรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย

เบื้องต้นทาง พ.ต.ท.อาวุฒิ อ่อนวรรณะ สารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ ก็ได้ให้ลงบันทึกประจำไว้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่หากจะแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี ก็ได้แนะนำให้ นายสราวุฒิ ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ที่เกิดเหตุ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป

นายสราวุฒิ เปิดเผยว่า สาเหตุที่ไม่ได้ไปแจ้งความที่ สน.ประชาชื่น ตั้งแต่วันเกิดเหตุ เนื่องจากกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะไม่รู้ว่าชายฉกรรจ์ 2 คนที่ทำร้ายเป็นตำรวจจริงหรือไม่ ประกอบกับตนเดินทางมาตัวคนเดียว กลัวว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย จึงตัดสินใจเดินทางกลับมาบ้านก่อน

นายสราวุฒิ ยังบอกอีกว่า หากชาย 2 คนเป็นตำรวจจริง ก็อยากจะให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะจากพฤติกรรมแล้วถือว่ารุนแรงมาก หากสงสัยว่าตนเสพสารเสพติดก็ควรจะนำตัวไปตรวจปัสสาวะที่สถานีตำรวจหรือโรงพยาบาล ซึ่งในวันนั้นตนก็ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจว่า ขอให้พาไปตรวจที่โรงพยาบาล แต่ชายทั้ง 2 คนก็ไม่ยอม กลับพาตนไปที่ห้องสืบสวนของ สน.ประชาชื่น จึงเชื่อว่ามีเจตนาจะยัดข้อหาความผิดให้ไม่น่าจะเป็นการเข้าใจผิด

อีกทั้งยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ทำไมถึงเฉพาะเจาะจงเลือกตรวจตนคนเดียว ทั้งที่ตอนนี้มีตนอื่นๆ อยู่ด้วย 4-5 คน หรืออาจจะเพราะรูปร่างหน้าตาของตนหรือไม่ แต่ตนยืนยันว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเลย ประวัติที่ผ่านมาก็ไม่เคยถูกจับหรือมีคดีใดๆ กรณีที่เกิดขึ้นก็อยากให้มีการตรวจสอบเอาผิดกับบุคคลทั้ง 2 คน ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือไม่ก็ตาม