ครูสาวชัยนาทเจอดี "ปาถุงเลือดขู่" เชื่อปมแฉคุณภาพอาหารกลางวันเด็ก

คุณครูอนุบาลโรงเรียนที่ชัยนาท โดนมือดีปาถุงเลือดใส่ถึงหน้าห้องเรียน เชื่อโยงปมต่อสู้เรียกร้องปัญหาอาหารกลางวันเด็กๆ หลังพบคุณภาพย่ำแย่ ล่าสุดได้กินผัดมาม่าเปล่าๆ ไร้ไข่ ไร้เนื้อสัตว์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หันคา จ.ชัยนาท ได้โพสต์ภาพและข้อความที่กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ เป็นภาพเลือดสีแดงฉานเลอะเปรอะเปื้อนเต็มหน้าห้องเรียน พร้อมกับเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า "แค่ทำให้เด็กเพื่อความถูกต้อง ต้องทำกันขนาดนี้เลยใช่ไหม ช่วยแชร์ออกไปให้คนรับรู้ค่ะ ครูรับไม่ไหวแล้ว” ก่อนที่ข้อความดังกล่าวจะถูกลบออกไป

ทั้งนี้สืบทราบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะ ครูสาวคนดังกล่าวทนไม่ไหวกับคุณภาพชีวิตของเด็กๆ นักเรียนที่เป็นลูกศิษย์ จึงได้เป็นตัวตั้งตัวดีทักท้วงและแนะนำผู้บริหารเรื่องของอาหารกลางวันที่ไม่ได้คุณภาพมาเป็นเวลานาน บางมื้อเด็กๆ ได้กินแค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปผัดแห้งๆ โดยที่ไร้เนื้อสัตว์หรือไข่ อีกยังไม่มีขนมหรือผลไม้เป็นเครื่องเคียงด้วย

ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปพบ ครูอ้อม อายุ 32 ปี ครูประจำชั้นอนุบาล 1 และอนุบาล 2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ก่อนจะเปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ครูเวรได้เดินไปเจอคราบเลือดอยู่ที่หน้าห้องนักเรียนอนุบาลที่ตนสอนอยู่ จากนั้นโทรศัพท์มาบอกว่ามีถุงเลือดถูกปาและแตกอยู่หน้าห้อง

ในตอนแรกตนก็คิดว่าคงไม่มีอะไร แต่พอเดินไปดูก็พบว่าเด็กๆ และผู้บริหารยืนล้อมดูอยู่ เด็กๆ รู้สึกตกใจ ตนก็เช่นเดียวกัน เพราะรู้สึกว่าถูกคุกคามและโดนปองร้าย จึงได้บอกกับ ผอ. พร้อมขออนุญาตขอแจ้งความ เพราะเป็นเหตุที่เกิดขึ้นที่หน้าห้องทำงานและเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

ครูอ้อม กล่าวว่า ตนไม่มีศัตรูที่ไหน ไม่มีปัญหาเรื่องชู้สาว ผู้ปกครองและเด็กๆ ก็รักเคารพ และไม่มีหนี้สินใดๆ จะมีก็เพียงเรื่องอาหารกลางวัน ที่ได้ออกโรงตำหนิและขอตรวจสอบ เพื่อให้ปรับปรุงคุณภาพอาหารให้ดีขึ้นสักนิด เพราะรู้สึกแย่ต่อลูกศิษย์อนาคตของชาติเป็นอย่างมาก

สิ่งที่ตนต้องการคือการจัดเมนูอาหารกลางวันที่เหมาะสม ทั้งปริมาณและคุณภาพ เด็กๆ ควรได้สารอาหารที่ครบ 5 หมู่ ตนได้ต่อสู้กับเรื่องนี้มานานเป็นปีแล้ว แต่ก็ดูเหมือนจะยังไม่มีอะไรดีขึ้น กระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบว่าอาหารกลางวันมีเพียง ผัดมาม่าแห้งๆ ไร้เนื้อสัตว์หรือไข่ ตนจึงได้แจ้งไปยังผู้บริหารให้ปรับปรุง กระทั่งโดนปาถุงเลือดใส่หน้าห้องที่ทำการสอน แต่ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร

ขณะนี้อยู่ในกระบวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ วอนขอร้องตำรวจว่าขอให้จับผู้ก่อเหตุให้ได้ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง และคนรอบข้าง ตนจะไม่ย้ายไปไหน เพราะทุกวันนี้ต่อสู้เพื่อทุกคน ตนทำเพื่อเด็กๆ ไม่ได้อยากดังหรือสร้างกระแส แต่เป็นไม่ยุติธรรมที่ทนรับไม่ได้จริงๆ