"เปิ้ล นาคร" เปิดใจดราม่าลูกย้ายโรงเรียนเพราะติดหรู ค่าเทอมแพงปีละ 4 ล้าน
เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้ตลอดเวลากับครอบครัวศิลาชัย วันนี้ เปิ้ล นาคร นำทีม จูน ภรรยา และ ออกัส ออก้า มาเผยวีรกรรมสุดแสบของครอบครัว ใน รายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง One31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ หนิง ปณิตา และ ชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกร พร้อมเคลียร์ประเด็นดราม่ากรณีย้ายโรงเรียนให้ลูกๆ ทั้ง 4 ออ เพราะติดหรู หวังอยากอัปเกรด เผยค่าเทอมลูกๆ ปีละหลายล้านบาทจริงหรือเปล่า ?
เรื่องย้ายโรงเรียนทำไมต้องดราม่าด้วย
เปิ้ล : "ไม่แปลกใจหรอก ในโลกโซเชียลทุกคนมีความเห็นหลายๆ มุม มองมุมบวกโลกสวยเอาใจครอบครัวเราอย่างเดียวมันเป็นไปไม่ได้ การที่เราจะย้ายไปไหน ดีก็ต้องมีไม่ดี ขนาดเปิ้ลบวชให้แม่ยังมี Unlike คน Like เป็นแสน Unlike 30 ก็มา คงไม่เห็นด้วยกับการบวช"
คนดราม่าว่าย้ายโรงเรียนเพื่ออัปเกรดความไฮโซของลูกๆ หรือเปล่า เพราะโรงเรียนเดิมอยู่หน้าบ้านก็สะดวกอยู่แล้ว ?
เปิ้ล : "คือจริงๆ โรงเรียนหน้าบ้านเป็นโรงเรียนนานาชาติที่เป็นระบบอเมริกัน โดยส่วนตัวเราชอบวัฒนธรรมแบบอังกฤษ เพราะเราเคยไปเรียนที่อังกฤษเราว่าวัฒนธรรมเขาดี"
เหตุผลที่เกิดดราม่าอาจจะเพราะว่าย้ายไปแล้วค่าเทอมโรงเรียนลูกแพงมาก เห็นว่าปีนึงต่อคน 1 ล้านบาท
เปิ้ล : "ผมว่าเรื่องค่าเทอมแพง มันก็แพง แต่ผมว่าถ้าเรายังไม่ตายแล้วเราสามารถหาได้ อะไรก็ได้ที่ให้ลูกทั้งหมดได้ผมก็ให้ลูกหมด แล้วอีกอย่างมันเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง จริงๆ แล้วแต่ละโรงเรียนก็สอนให้เด็กมีความรู้ สอนให้เด็กเป็นเด็กดีเหมือนกันหมด เราอยากให้ลูกพูดภาษาอังกฤษเก่งกว่าเรา"
จริงๆ พ่อแม่ทุกคนก็มีแนวทางอยากให้ลูกไปข้างหน้าแตกต่างกัน
จูน : "จูนคิดกับพี่เปิ้ลว่าสิ่งที่เราหาให้ได้ก็คือความรู้ อยากกิน อยากเที่ยวอะไรทำให้ได้หมด แต่เรื่องการศึกษาจูนเรียนไม่เก่ง พี่เปิ้ลก็เรียนไม่เก่ง พอเราเริ่มมีอายุเราเริ่มรู้แล้วว่าการมีการศึกษาจะทำให้ลูกเราเก่ง ทำให้ลูกเราอยู่ในสังคมที่ดี แล้วเขาเอาไปต่อยอดตัวเขาเองได้ อันนี้จูนยอมแลก ให้ทำงานเหนื่อยแค่ไหนเพื่อเก็บตังค์ค่าเล่าเรียนจูนว่าไม่น่าผิดนะ"
เปิ้ล : "จริงๆ แล้วที่เขาเขินเวลามีผู้ใหญ่ให้พูดภาษาอังกฤษเป็นเพราะว่าครอบครัวเราพูดภาษาไทย เพราะเขาอยู่ในโรงเรียน 6-8 ชั่วโมง เขาต้องพูดภาษาอังกฤษอยู่แล้ว พอกลับมาบ้านก็อยากให้พูดไทย ซึมซับวัฒนธรรมไทย ทุกอย่างที่เป็นไทยให้ได้มากที่สุด ถ้าถามว่าดัดจริตเอาไปเรียนอังกฤษทำไม ซึ่งอีกหน่อยเชื่อมั้ยโลกจะไม่กลมนะ โลกจะแบนเท่ากันหมด เพราะฉะนั้นทุกอย่างการเดินทางเข้าหากัน การเชื่อมเข้าหากันในโลกข้างหน้ามันจะเท่ากันหมด ภาษาที่เป็นภาษากลางคือภาษาอังกฤษ ภาษาจีน นี่คือสิ่งที่เราควรจะให้เขาให้ได้"
IG: ple_nakorn
ลูก ๆตั้ง 4 คน คนละ 1 ล้านบาท ปีนึง 4 ล้านบาท มีคนเม้าท์ว่าเป็นครอบครัวฟอกเงินรึเปล่า ?
เปิ้ล : "จริงๆ จะหาได้มากได้น้อย เสียภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมายคือสิ่งที่ดีที่สุด อีกหน่อยในอนาคตเราอาจจะเติบโตเข้าตลาดหลักทรัพย์ซึ่งตรงนั้นการปูพื้นฐานที่ดีคือการเสียภาษีให้ถูกต้องที่สุด จะได้ไม่ต้องมีคดีถึงลูกเราด้วย"
พูดถึงความสามารถของออก้า ตอนนี้เป็นนักกีฬาเยาวชนแล้ว ?
เปิ้ล : "เขาขี่เจ็ทสกีตั้งแต่อายุ 3 ขวบตอนนี้เขากำลังเป็นตัวแทนของ กทม. ในการแข่งกีฬาเยาวชนแห่งชาติในต้นปีหน้า ตอนนี้ยังฝึกซ้อมอยู่ยังไม่เก่ง อายุน้อยที่สุดแล้วในประเทศไทยที่เข้าไปแข่งระดับชาติ"
ภูมิใจแค่ไหน ?
เปิ้ล : "ภูมิใจแค่ไหน ยังไม่ทราบเพราะผลมันยังไม่แข่ง"
ตอนที่ลูกลงแข่งร้องไห้เพราะอะไร ?
ออก้า : "ไม่อยากแข่ง"
เปิ้ล : "เพราะอะไรรู้ไหม ตอนจะลงแข่งเขาประกาศชื่อแล้วคนกรี๊ดกันทั้งสนาม ออก้ากำลังจะลงปุ๊ปถอดถุงมือวิ่งเข้ามากอดขา"
เห็นว่าต้องแข่งกับเด็กอายุ 12 ?
เปิ้ล : "ตอนนี้เขา 7 จะ 8 ขวบเขาต้องไปแข่งกับเด็กอายุ 12 ก็บอกให้เขาแข่งไปไปเถอะ เพราะยังไงก็ไม่ชนะอยู่แล้ว แต่ให้แข่งเอาประสบการณ์"
ไปอยู่กับความเร็วแบบนี้ไม่กลัวหรอ ?
จูน : "ตั้งแต่ออก้าเริ่มขับเจ็ทสกีจูนก็เริ่มมีปัญหากับพี่เปิ้ลเหมือนกัน เรารู้ว่าเวลาพี่เปิ้ลตกมันเป็นยังไง สภาพที่จูนเห็นคนอื่นตลอดคือหัวกระแทกเรือบ้าง มันอันตราย เขาก็ให้เหตุผลว่า ออก้าก็ลูกเขาเหมือนกัน เขาก็ไม่ปล่อยให้ไปเจ็บไปตายหรอก หรือจะให้ชวนไปเล่นยาไหม"
เปิ้ล : "แรกๆ ก็มีออก้าขี่ออกไปกลางทะเลแล้วเจอคลื่นตัวตีลังกาลอยหล่นลงมาฟาดน้ำ เปิ้ลกับจูนขี่ตามอีกคัน เห็นออก้านอนหงาย เลือดออกที่ปาก พี่เปิ้ลก็เข้าไปหัวเราะ ออก้าเห็นพ่อหัวเราะก็หัวเราะด้วยก็ไต่ขึ้นเรือเอาน้ำล้างเลือดแล้วก็ขี่ไปต่อ"
ออก้าตอนตกเรือเจ็บมั้ย ?
ออก้า : "เจ็บ"
คาแร็คเตอร์ลูกสี่คนต่างกันยังไงบ้าง ?
เปิ้ล : "ออกัสจะเป็นเหมือนผู้นำ เป็นพี่สาวที่เป็นผู้นำ พี่เปิ้ลชอบเห็นผู้หญิงที่เป็นผู้นำ เราก็เลยรู้สึกว่าลูกคนแรกของเราต้องเป็นผู้หญิง พี่ออก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ส่วนออก้าก็จะเป็นนักรบ บ้าพลัง จะเป็นสายนักกีฬา ชอบเล่นอะไรแรงๆ ออกู๊ด ก็จะนึกถึงโนบิตะ เอะอะร้องไห้ ส่วนออเกรซ"
ออกัส : "เป็นเหมือนไจโกะ แสบๆ ชอบแย่งของ ชอบแกล้งคน"
กิจกรรมของบ้านนี้ชอบอาบน้ำด้วยกันทั้งบ้านจริงมั้ย ?
เปิ้ล : "พ่อแม่ลูก อาบกัน 6 คน ชวนพี่เลี้ยงแล้ว แต่ไม่มา (หัวเราะ)"
ทำไมชอบเปิดคลิปสยองให้ลูกดู คลิปแบบไหน ?
จูน : "จูนเคยใช้วิธีปกติที่บ้านใช้กันคือสอนกัน แบบเวลารถถอยต้องรอตรงนี้ เด็กเขาไม่เข้าใจ เขา 2-3 ขวบเขานึกไม่ออก เราก็เลยเอาคลิปจริงเนี่ยแหละ ที่มีอุบัติเหตุเห็นๆ กัน ชนจริงๆ เหยียบจริงๆ ตายจริงๆ ให้เขาดู อย่างคลิปเด็กตกบันไดเลื่อน ลิฟต์หนีบมือ มือขาด ให้เขาดูให้เห็น ให้จำเลย"
เปิ้ล : "คือเด็กต้องได้รับการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญ บางทีพ่อแม่ อย่าทำนั่น อย่าทำนี่ นึกไม่ออก หรือทุกวันนี้เราส่งลูกไปอบรมเวลาไฟไหม้บ้านต้องทำยังไง เวลาไฟไหม้ถ้าเราต้องกระโดดจากที่สูงต้องกระโดดยังไงหรือเวลามีควันขึ้นมาเราต้องมุดควันยังไง"
ออกัส : "เอาผ้าอะไรก็ได้ที่หาได้ เอาใส่น้ำแล้วบิดให้หมาดๆ เอามาคลุมจมูก ควันจะได้ไม่เข้าไป เราจะได้ไม่ตาย"
เปิ้ล : "ออก้า ถุงพลาสติกเอามาทำอะไร"
ออกัส : "ตอนที่ยังไม่ค่อยมีควัน เราเอาถุงพลาสติกใหญ่ๆมาแล้วตีลมเข้าไป แล้วก็ครอบหัวเราจะได้มีอากาศ"
เปิ้ล : "ยิ่งเวลาไฟไหม้มา ให้เราทำยังไง"
ออกัส : "ถ้าไฟไหม้ติดหลังเรา ให้เราหยุดแล้วให้เรานอนกับพื้นปิดหน้า แล้วกลิ้ง แล้วไฟมันจะดับเอง"
แล้วเรื่องดราม่าสินค้าที่เกิดขึ้นให้กำลังใจแม่จูนยังไง ?
เปิ้ล : "เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างคอขาดบาดตายสำหรับครอบครัวเราและครอบครัวคนอื่นที่ทำมาค้าขายด้วยกัน แต่ขอพูดที่เดียวที่งานอีเว้นท์เสาร์นี้ (24 ส.ค.)
ก่อนจะถึงงานในระหว่างที่เกิดปัญหาเครียดขนาดไหน ?
จูน : "เครียดค่ะ เป็นระยะนานมาซักพักแล้วด้วย ไม่ใช่แบรนด์หนูแบรนด์เดียว"
เราให้กำลังใจกันยังไง ?
จูน : "คือแค่คิดว่าเราทำดีที่สุดแล้ว เราทำถูกต้องแล้ว แต่พอเรามาโดนแบบนี้แล้วด้วย เราเช็คกับแบรนด์อื่นด้วยโดนเหมือนกันหมด ก็เลยให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่จัดการ"
เปิ้ล : "ต้องออกมาเคลื่อนไหว สู้เพื่อเมีย เมียข้าใครอย่าแตะ"
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.35-14.35 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
อัลบั้มภาพ 14 ภาพ