ครูสาวถูกโรงเรียนกดดันหนัก หลังเหตุปาเลือดขู่หน้าห้องเรียน ยันสู้ไม่ถอยเพื่อเด็ก
ผู้สื่อข่าวรายยงานว่า จากกรณี ครูอ้อม อายุ 32 ปี ครูสอนนักเรียนชั้นอนุบาล 1 และอนุบาล 2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.สามง่ามท่าโบสถ์ อ.หันคา จ.ชัยนาท โพสต์ข้อความหลังถูกมือดีปาเลือดสดกระจายเต็มหน้าห้องเรียนที่สอนประจำชั้น ปมทนไม่ไหวเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของเด็กๆ ที่ได้กินอาหารกลางวันไม่ครบสารอาหาร กินมาม่าบ้าง ไม่ได้กินผลไม้ หรือของมีประโยชน์เหมือนโรงเรียนอื่นๆ นั้น
ด้านเด็กนักเรียน เผยว่า โรงอาหารไม่ค่อยเปลี่ยนกับข้าว มีแต่ต้มจืดกับก๋วยเตี๋ยว ซ้ำๆ กันไป ข้าวหมูแดงไม่ได้กินแล้ว ตั้งแต่ ป.3 ปัจจุบันอยู่ ป.5 ข้าวมันไก่ยังพอได้กินบ้าง เมนูซ้ำบ่อยๆ มีก๋วยเตี๋ยวกับต้มจืด ส่วนตัวเคยไปบอก ผอ.แล้ว ว่า "ผอ.ครับ ขอกินข้าวมันไก่ได้ไหมครับ" เขาบอกว่า “อยากกินก็ไปซื้อเอาเอง” ขนมผลไม้ก็ไม่ค่อยมี แต่วันนี้มีเงาะ เพราะมีนักข่าวเข้าไป ขนมเมื่อก่อนมีให้กินแต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว ข้าวที่ได้กินอิ่ม แต่บางวันก็ไม่ได้กินเพราะไม่ชอบกับข้าวซ้ำกันทุกวัน เบื่อ ก๋วยเตี๋ยวกินจนเบื่อ จนหน้าจะเป็นเส้นอยู่แล้ว
>> ครูสาวชัยนาทเจอดี "ปาถุงเลือดขู่" เชื่อปมแฉคุณภาพอาหารกลางวันเด็ก
ล่าสุดเวลา 11.30 น. ( 23 ส.ค.62) น.ส.ลออ วิลัย ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยนาท พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจสอบอาหารกลางวันของนักเรียน พบเมนูข้าวมันไก่ สับปะรด และแตงโม พร้อมชี้แจงไม่พบความผิดปกติในเรื่องของอาหารกลางวัน และกลับพบประเด็นอื่นแทนซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องอาหารกลางวัน หากพบความไม่ชอบมาพากล ทางสำนักงานพร้อมที่จะตั้งคณะกรรมการสอบเท็จจริงอย่างแน่นอน
น.ส.ลออ วิลัย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยนาท เผยว่า ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และรองผู้อำนวยการ 2 ท่าน และ ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้รับทราบเรื่องก่อนหน้านี้ประมาณ 4-5 วันแล้ว ได้สอบถามเชิงลึกกับ ผอ.โรงเรียน และรองผู้อำนวยการเขตที่รับผิดชอบได้ออกมาดูแล และได้ถามฝ่ายตรวจสอบของสำนักงานเขตพื้นที่แล้ว ว่าโรงเรียนนี้จากการเข้ามาตรวจสอบนั้นมีปัญหาหรือไม่ ปรากฏว่าไม่เคยมีประวัติของการมีปัญหา เรื่องเกี่ยวกับการบริหารงบประมาณอาหารกลางวัน
และได้สอบถามไปยังท่านนายากเทศมนตรีตำบลสามง่ามพัฒนา ซึ่งเป็นเจ้าของเงิน ท่านยืนยันว่าท่านได้ส่งปลัด และได้ให้ผู้เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายเงินมาดูบ่อยๆ ท่านยืนยันว่าไม่เคยมีประเด็นปัญหาเกี่ยวกับเรื่องอาหารกลางวัน ในเบื้องต้นของเรียนว่า เราอาจจะประมาทและไม่คิดว่าจะเป็นข่าวคราวใหญ่โต คิดว่าคนรอบข้างที่เกี่ยวข้องเรื่องการบริหารจัดการตรงนี้ ไม่มีประเด็นอะไรที่น่าสงสัย แต่ก่อนที่จะส่งคนมาดูเรื่องนี้ได้รับโทรศัพท์จากคนนอก ที่ไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นใคร แต่เราก็ไม่ได้ไว้วางใจ
เมื่อวานได้ให้ทางนิติกร และรักษาการ ผอ.เขต ลงมาหาข้อมูล ข้อเท็จจริงไปแล้ว ได้ประเด็นว่าไม่ได้เชื่อมโยงเรื่องอาหารกลางวัน กลับได้ประเด็นอื่นเพิ่มเติมมา ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหากับการบริหารจัดการของโรงเรียนนี้ ทั้งนี้ เรื่องของการตั้งกรรมการสอบนั้น หากพบว่ามีความไม่ชอบมาพากล จะต้องทำไปตามกระบวนการ แต่ตอนนี้ต้องหาข้อมูลเชิงลึกก่อน
ด้าน ครูอ้อม ถูกผู้บริหารกดดันอย่างหนัก ไม่สามารถพูดคุยกับสื่อได้ ผู้สื่อข่าวจึงได้โทรศัพท์สัมภาษณ์ โดยกล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นได้รับแรงกดดันหลายๆ ด้าน ต้องขอขอบคุณผู้ปกครองของเด็กนักเรียน ที่ยังให้กำลังใจ ผู้ปกครองหลายท่านที่ยังอยู่ข้างๆ ตนก็จะสู้ต่อ เพื่อเด็กของเรา เพราะเราหวังดีกับเด็กจริงๆ ที่ผ่านมาก็คิดทำเพื่อเขาจริงๆ ขอบคุณทุกคนที่เข้าใจ ในสิ่งที่ครูอ้อมเรียกร้องไป และอยากให้ช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัยให้เราจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย