หนุ่มรักแมงป่อง อยู่กินนอนพันตัว

หนุ่มอุตรดิตถ์ พลิกผันเลิกอาชีพค้าแมงป่องขายให้กับฝรั่งต่างชาติ เพื่อนำไปทอดเป็นอาหารหรือโด๊ปยาดอง แก้กษัยและอัมพาต หันมาอยู่อาศัยกินนอนกับมันแทน ไม่คิดแข่งกับราชินีแมงป่อง ทางอำเภอเตรียมนำออกชูโรงประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวให้กับจังหวัด

เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบนายสรวง พวงศรี อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 4/1 หมู่ 6 บ้านใหม่พัฒนา ต.บ้านเสี้ยว อ.ฟากท่า จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านอยู่กินกับแมงป่องช้าง ที่บ้านไม้ 2 ชั้น บนเนื้อที่กว่า 1 ไร่ เฉพาะที่บริเวณชั้นล่างมีการตกแต่งบริเวณภายในบ้านให้ดูทะมึนเหมือนถ้ำที่ อยู่ตามหุบเขาในป่าไม้ธรรมชาติ ภายในบ้านพบสิ่งประดิษฐ์และวงจรชีวิตสัตว์ชนิดต่างๆ ที่ทำขึ้นจากใบไม้ เศษไม้ ลูกไม้มะค่า ลูกไม้ยาง ลูกไม้จากต้นกอก ถั่วและแพร่ง นำมาทำเป็นแมงมุม มด แมงป่อง จักจั่น และคน รวมถึงการนำเศษไม้มาผสมกับศิลปะการปั้นรูปใบหน้าพระโพธิสัตว์และประติมากรรม ชนิดต่างๆ ทั้งหมดถูกจัดให้อยู่ตามจุดพื้นที่หลายแห่งในบริเวณบ้านอย่างสวยงามต่อผู้พบ เห็น และเมื่อได้มองไปทางมุมบ้านด้านซ้ายมือสุดจะพบว่ามีการปักกลดด้วยมุ้ง ขาวอยู่บริเวณนั้น และพบเจ้าของบ้านพร้อมเด็กชายวัย 5 ขวบ นั่งทำสมาธิอยู่ด้านในโดยมีแมงป่องจำนวนกว่า 1,000 ตัว อาศัยอยู่ในคอกที่จัดเตรียมเอาไว้ให้ โดยมีชาวบ้านทั้งในและต่างจังหวัดมาแห่ดูและแห่ซื้อสินค้ากลับบ้าน

นายสรวงกล่าวว่า เมื่อปี พ.ศ.2539 ตนได้ยึดอาชีพจำหน่ายขายแมงป่องทั้งปลีกและส่งให้กับฝรั่งชาวต่างชาติและคน ไทยด้วยกัน เพื่อนำไปทอดเป็นอาหาร บางรายก็ซื้อไปเป็นยาโด๊ปดองกับเหล้าหรือนำไปปิ้งกิน เพราะเชื่อว่าสามารถเป็นยาแก้กษัย ช่วยขับลม ช่วยขับพิษชนิดอื่นที่อยู่ในร่างกาย ทำให้เลือดลมเดินดี ใช้แมงป่องแห้งรักษาอาการโรคบาดทะยัก เกาต์ หลอดเลือดแดงอักเสบ สิ่งสำคัญดองเหล้ากินเพื่อบรรเทาอาการอัมพาต และสต๊าฟเอาไว้จำหน่ายขาย ได้เพาะเลี้ยงเอาไว้จำนวนเกือบ 10,000 ตัว ส่งขายราคาตัวละ 5-8 บาทโดยหาซื้อแมงป่องช้างนา แมงป่องภูเขาจากชาวบ้านมาผสมกับการเพาะเลี้ยงส่งขาย ได้ยึดอาชีพนี้อยู่นานเกือบ 10 ปี พบเห็นพฤติกรรมของแมงป่องทั้งที่เพาะเลี้ยงอยู่ภายในบ้านและในป่ามีความสวย งาม โดยเฉพาะการต่อสู้กันเองจะมีความสง่างามมาก และได้รับรู้ถึงนิสัยใจคอของมันว่ามีความดุร้ายมากน้อยแค่ไหน ประเภทของอาหารการกินมันต้องการอะไรบ้าง ทำให้เริ่มรู้สึกเข้าใจถึงสัจธรรมการทำมาหากินเพื่อเลี้ยงปากท้องถ้าเราไปทำ ร้ายเขา จากที่เคยเพาะจำหน่ายก็เริ่มเบาลง

นายสรวงกล่าวว่า ต่อมาหาวิธีแก้ไขโดยที่ไม่ทำร้ายมันและอยู่กับมันได้ ต่างคนต่างเอื้อซึ่งกันและกัน มาหยุดเพาะจำหน่ายขายในปี พ.ศ.2548 หันมาเริ่มงานสิ่งประดิษฐ์จากเศษไม้ ใบไม้และลูกไม้แห้งที่พบเห็นตกอยู่ตามในป่านำมาประดิษฐ์งานศิลปะรูปตั๊กแตน จักจั่น แมงมุม มดตะนอย มดงาน และงานปั้นภาพนูน ภาพลอยตัวรูปพระโพธิสัตว์และเทวรูปจำหน่ายขายในราคาตั้งแต่ 15-1,000 บาท แล้วแต่ประเภทของสินค้าซึ่งเป็นงานชิ้นเดียวหรือเป็นวงจรของสัตว์และคน จนกลายมาเป็นสินค้าโอท็อป โดยใช้วิถีชีวิตการอยู่ร่วมกับแมงป่องจำนวนกว่า 1,000 ตัว เป็นสิ่งล่อใจให้คนเข้ามาซื้อสินค้าภายในบ้าน การใช้ชีวิตนอนคลุกคลีอยู่กับมันก็ต้องเป็นแบบพึ่งพาอาศัยกัน ด้วยการนั่งสมาธิและแผ่เมตตาให้ไม่มีการเบียดเบียนกันและกันเป็นการอยู่ อย่างเพื่อน ต่อไปจะเพิ่มปริมาณมากขึ้นให้ถึง 10,000 ตัวภายในบ้านหลังนี้ และไม่ได้คิดแข่งกับราชินีแมงป่อง น้องนา หรือน.ส.กาญจนา เกตุแก้ว อายุ 39 ปี ชาว จ.ชุมพร ที่มีความสามารถอมแมงป่องได้นานกว่า 2 นาที และสามารถอยู่กินกับแมงป่องได้นานถึง 33 วัน 33 คืน

ทุกครั้งที่ทราบ ข่าวมีการจำหน่ายสินค้าในงานต่างๆ ก็จะนำสินค้าออกไปขายด้วยพร้อมกับเอาแมงป่องไปอยู่เป็นเพื่อนเพื่อเป็นจุด ขายในการดึงดูดลูกค้า ทำให้สินค้าขายดีมาก และในวันที่ 16 กรกฎาคมนี้ ทาง อ.ฟากท่า จะจัดให้มีงานถนนคนเดินและมหกรรมสินค้า ก็พร้อมที่จะนำแมงป่องออกไปโชว์ให้ประชาชนได้เห็นและรู้จักถึงการใช้ชีวิต อยู่กับมัน รวมถึงเป็นการประชาสัมพันธ์อำเภอฟากท่าไปด้วย

ด้านนางลำ พูล พิมพ์พุม ภรรยา กล่าวว่า อยู่กินกับสามีมาประมาณ 7 ปี ยอมรับว่าช่วงใหม่ที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในปีแรกคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ก็เริ่มเข้าใจว่าความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ปัจจุบันแยกอยู่กับสามีมาอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งใกล้กันพร้อมลูกชายวัย 5 ขวบ แฟนจะอาศัยนอนอยู่กับแมงป่องที่ร้านจำหน่ายสินค้า แต่ก็ไปมาหาสู่กันตามปกติเหมือนครอบครัวทั่วไป ลูกชายเองก็เริ่มชอบแมงป่อง และมักจะเข้าไปนั่งสมาธิอยู่กับพ่อด้วยเป็นประจำ ได้ย้ำเตือนอยู่เสมอในเรื่องของอันตราย

ด้านนายณรงค์ศักดิ์ สังข์ทอง ปลัดอำเภอฟากท่า กล่าวว่า นายธาตรี บุญมาก นายอำเภอฟากท่า ทราบข่าวเกี่ยวกับเรื่องความสามารถของนายสรวงในเรื่องของการจัดทำสิ่ง ประดิษฐ์ชนิดต่างๆ จากเศษวัสดุธรรมชาติที่ไม่ใช้นำมาทำเป็นสิ่งของให้มีคุณค่าจนได้รับการยอม รับให้เป็นสินค้าโอท็อป รวมถึงการใช้วิถีชีวิตอยู่ร่วมกับแมงป่อง จึงได้มีการหารือกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ถึงการที่จะนำเอามนุษย์แมงป่องมาเป็นตัวชูโรงด้านการประชาสัมพันธ์ให้คนทั่ว ไปและนักท่องเที่ยวได้รู้จักอำเภอฟากท่าได้ เพราะเรามีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญหลายอย่างที่น่าจะนำมาเป็นจุดขายควบคู่ กันไป อาทิ น้ำตกภูเวียง น้ำตกห้วยเหิบ และสุสานหอยล้านปี เรื่องมนุษย์แมงป่องเป็นความสามารถพิเศษส่วนตัว ไม่อยากให้นำไปลอกเลียนแบบหรือนำไปใช้ เพราะมันอันตรายหากถูกต่อยขึ้นมาและทนพิษไม่ได้อาจถึงตายได้