สื่อนอกตีข่าว "เสือดาว" หลุดออกจากกรงสวนสัตว์เกาะสมุย ตะปบเด็กอิสราเอลวัย 2 ขวบ
เว็บไซต์ข่าวอิสราเอล เนชั่นแนล นิวส์ สื่อของประเทศอิสราเอล เปิดเผยว่า เกิดเหตุเด็กชายชาวอิสราเอลวัย 2 ขวบ ถูกเสือดาวตะปบเข้าที่ใบหน้า ขณะที่เดินทางมาท่องเที่ยวสวนสัตว์แห่งหนึ่งบนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งหลังเกิดเหตุทางสวนสัตว์ได้รีบนำตัวเด็กส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการักษาตัว เนื่องจากเด็กได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลฉกรรจ์ที่บริเวณใบหน้า ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้นยังไม่ชัดเจน
ทางสวนสัตว์หน้าเมืองซาฟารี ปาร์ค เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.37 น. ของวันที่ 22 ส.ค. 62 เมื่อมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินมาเปิดประตูกรงเสือดาวขณะที่เสือดาวกำลังเดินอยู่ภายใน แต่เมื่อนักท่องเที่ยวเห็นเสือดาวแล้วเกิดอาการตกใจไม่ยอมปิดประตูกรง ทำให้เสือดาววิ่งออกมานอกกรงแล้วไปเจอเด็กชายชาวอิสราเอลวัย 2 ขวบ เดินอยู่กับแม่ เสือดาวตัวนี้ได้ตะปบไปที่หน้าของเด็กชายคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะรีบมาช่วยเหลือแล้วนำเสือดาวตัวนี้กลับเข้ากรงตามเดิม ระยะเวลาที่หลุดไปเพียง 10 วินาที
นายณภัทร ปลื้มสุทธิ์ ที่ปรึกษาผู้บริหารหน้าเมืองซาฟารีปาร์ค ชี้แจงว่า สำหรับเสือดาวตัวนี้มีชื่อว่า โทนี่ เพศผู้ อายุ 6 ปี ปกติเป็นเสือที่เชื่องมาก แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้มีคุณตาของเด็กชายชาวอิสราเอล มาเปิดกลอนประตูกรงเสือและผลักเข้าไปพอเห็นเสือก็ตกใจไม่ยอมปิดประตู จนทำให้เสือหลุดออกมาด้านนอกและเห็นเด็กอยู่ในทางวิ่งของเสือพอดีจึงเข้าทำร้ายเด็กชาวชาวอิสราเอล แต่หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่หน้าเมืองซาฟารีปาร์คได้นำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลกรุงเทพสมุย ด้วยอาการมีบาดแผลที่ใบหน้าและกระดูกโหนกแก้มร้าว ซึ่งทางเราก็เข้าดูแลช่วยเหลือดูแลทุกเรืองไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พัก ค่ารักษาพยาบาล และติดต่อประสานงานบริษัทประกันภัย
ล่าสุดเด็กชาวชาวอิสราเอล วัย 2 ขวบอาการปลอดภัยแล้ว ซึ่งทางคุณพ่อคุณแม่ของหนูน้อยก็ได้ขอบคุณทางซาฟารีที่ได้ดูแลเป็นอย่างดี และบอกว่าได้ให้แพทย์จากประเทศอิสราเอลบินมารับตัวเพื่อไปทำการรักษาต่อที่ประเทศอิสราเอล
หลังจากนี้ทางหน้าเมืองซาฟารี ปาร์ค ได้วางมาตรการป้องกันเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีก โดยได้จัดเจ้าหน้าที่คอยดูแลเพิ่มเติมและทำกรงเพิ่มอีก 1 ชั้น นักท่องเที่ยวทุกคนที่ผ่านเข้ามาได้จะต้องผ่านเจ้าหน้าที่ดูแลจะไม่สามารถมาเปิดกรงเองได้ อยากให้นักท่องเที่ยวดูป้ายเตือนต่างๆ และคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด