พ่อแม่ลูกโอดร้อง โดนตะลุมบอนกระทืบถึงบ้าน อ้างตัวเป็นลูกน้อง ส.ส.

พ่อแม่ลูกชาวพิจิตรร้องสื่อ โดนบุกกระทืบถึงบ้าน อ้างตัวเป็นลูกน้อง ส.ส.ในพื้นที่ ลูกชายเจ็บระบม แม่แขนหัก พ่อยังนอนเจ็บที่โรงพยาบาล โร่ขอความเป็นธรรม

(27 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายสุรพงษ์ อายุ 43 ปี ที่เปิดให้ดูรอยฟกช้ำที่ใบหน้าและรอยเย็บ พร้อมกับอาการแขนซ้ายที่หัก ของ นางกลอยจิตร อายุ 62 ปี ผู้เป็นแม่ และอาการบาดเจ็บที่ศีรษะและดวงตาของ นายสมเกียรติ อายุ 65 ปี ผู้เป็นพ่อ ขณะนี้ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพิจิตร โดยทั้งพ่อแม่ลูกเป็นชาวบ้านในอำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ได้รับบาดเจ็บจากการทะเลาะวิวาท ของกลุ่มคน 5-6 คน ที่อ้างว่าเป็นลูกน้องของ ส.ส.คนหนึ่ง

นายสุรพงษ์ เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ตนกลับจากตลาดนัด ขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนในหมู่บ้าน ปรากฏว่ามีรถจักรยานยนต์ ที่เป็นลูกสาวของผู้ก่อเหตุได้ขี่ตามมา แต่ถนนจุดดังกล่าวเป็นหลุมเป็นบ่อ ทำให้ต้องขี่รถหลบหลีกไปมา ทำให้รถของตนเฉี่ยวกระจกกันเล็กน้อย

หลังจากนั้น ตนก็ได้ขอโทษและแยกย้ายกันไป ก่อนจะขี่รถกลับเข้าบ้าน ก็นึกว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่ระหว่างที่ตนกับพ่อแม่กำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ ปรากฏว่ามีกลุ่มคน 5-6 คน เดินได้เข้าเรียกตนที่บ้าน พ่อจึงได้ออกไปเคลียร์ปัญหาด้วย แต่ยังพูดคุยกันไม่ได้เท่าไหร่ คนร้ายก็เปิดฉากชกต่อยตะลุมบอน เกิดเป็นการต่อสู้ขึ้น พร้อมกับใช้ขวดตีใส่ศีรษะ ทำให้ได้รับบาดเจ็บ

ขณะที่ผู้เป็นแม่ยังที่โดนคนร้ายเตะเข้าที่แขนซ้าย ทำให้มีอาการแขนหัก แต่ที่หนักที่สุดคือผู้เป็นพ่อ เพราะถูกกลุ่มคนรุมทำร้าย ยังต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลพิจิตร และพบว่ามีปัญหาด้านสายตาจากเหตุที่เกิดขึ้น

นายสุรพงษ์ ยังกล่าวอีกว่า ตนอยากขอความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากกลุ่มคนที่เข้าทำร้ายร่างกาย อ้างตัวว่าเป็นลูกน้องของ ส.ส. ในพื้นที่ จึงอยากให้ขอความเป็นธรรม เพื่อป้องกันเรื่องอิทธิพลและความปลอดภัยของครอบครัวของตน

ขณะที่ พันตำรวจเอก สมนึก มากมี ผู้กำกับการ สภ.บางมูลนาก ได้กำชับให้ดำเนินคดี โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกผู้เสียหาย พร้อมกลุ่มคนที่เข้าทำร้าย เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อสอบสวนหาสาเหตุของการทะเลาะวิวาทในครั้งนี้ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดต่อผู้ได้รับบาดเจ็บมาสอบสวนเพิ่ม พร้อมรอผลทางการแพทย์ของผู้ได้รับบาดเจ็บ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป