ดั่งมรสุมซัดสาด เด็กขวบเศษพิการหัวโต แม่ไลฟ์ขายขนม-ตาขับแท็กซี่หาเงิน

ดั่งมรสุมซัดสาด เด็กขวบเศษพิการหัวโต แม่ไลฟ์ขายขนม-ตาขับแท็กซี่หาเงิน

ดั่งมรสุมซัดสาด เด็กขวบเศษพิการหัวโต แม่ไลฟ์ขายขนม-ตาขับแท็กซี่หาเงิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เด็กหญิงวัยขวบเศษ ป่วยพิการทางการเจริญเติบโตมาตั้งแต่แรกเกิด คุณตาต้องออกมาขับแท็กซี่หาเงินคนเดียว แม่ต้องไลฟ์ขายขนมหารายได้อีกทาง ปัจจุบันบ้านโดนยึด วอนสังคมช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า พบครอบครัวตกทุกข์ได้ยากรอความช่วยเหลือ หลังผู้เป็นตามีอาชีพเช่ารถแท็กซี่มาขับ เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว 5 คน มิหนำซ้ำหลานสาววัย 1 ขวบ 3 เดือน ยังเป็นเด็กพิการ ทำให้ทุกวันนี้ต้องอดมื้อกินมื้อ บ้านถูกยึดต้องมาอาศัยอยู่บ้านของผู้ใจบุญที่ให้อยู่เป็นการชั่วคราวก่อนที่จะเปิดเป็นร้านขายยา โดยปัจจุบันพักอาศัยอยู่ที่ร้านทองพันช่างยาไทย ซ.นครชัยมงคลวิลล่า 3 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังทราบเรื่องจึงเดินทางไปตรวจสอบ

ที่บ้านดังกล่าวเป็นอาคารพาณิชย์ ชั้นล่างมีการปรับปรุงหน้าร้านเตรียมเปิดเป็นร้านขายยา ภายในห้องกลางพบ นายรุ่งโรจน์ อายุ 49 ปี พร้อมด้วย นางพรชนก อายุ 58 ปี, น.ส.คณิศร อายุ 23 ปี และ น้องต้นน้ำ อายุ 5 ขวบ อยู่ระหว่างช่วยกันป้อนนมและประคบประหงม น้องบุญรักษา อายุ 1 ขวบ 3 เดือน ที่มีการพิการทางการมองเห็น พิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย พิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย พิการทางสติปัญญา และมีศีรษะโต ขาทั้งสองข้างผิดรูปบิดไปมา

น.ส.คณิศร แม่ของเด็กเปิดเผยว่า น้องบุญรักษาเป็นลูกสาวคนที่ 2 ของตน โดยมีการฝากครรภ์ตามปกติ กระทั่งอายุครรภ์ได้ 8เดือน แพทย์ตรวจพบว่าเด็กมีศีรษะโตแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว เพราะใกล้ถึงเวลาคลอด จนกระทั่งลูกคลอดออกมาพบว่าขาทั้งสองข้างผิดปกติ

เมื่ออยู่ได้อายุประมาณ 1-2 เดือน ลูกสาวเริ่มมีอาการผิดปกติทางร่างกายโดยศีรษะเริ่มโต นิ่มเหมือนมีน้ำด้านในและใหญ่ขึ้นเรื่อยมา สามีที่เคยอยู่ด้วยกันก็เลิกรากันไป ตนกับพ่อแม่ต้องช่วยกันดูแลกันเรื่อยมา เพราะน้องบุญรักษามีอาการปวดศีรษะบ่อยครั้งและจะร้องเวลากลางคืน

กระทั่งแม่ของตนต้องออกจากงาน ที่ก่อนหน้านี้เป็นผู้ช่วยเภสัชกร เพื่อมาช่วยดูแลหลาน เงินเดือนที่เคยได้ก็ไม่มี บ้านที่ จ.นนทบุรี ที่ผ่อนอยู่กับธนาคารก็ถูกยึดไป เพราะต้องนำเงินไปซื้อนมและของใช้ให้กับหลาน กระทั่งมีคนรู้จักมีจิตศรัทธาให้ย้ายเข้ามาอยู่ที่ จ.ปทุมธานี เป็นการชั่วคราว ตนจึงย้ายมาและเข้าออกโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เป็นประจำ ส่วนหลานสาวอีกคนย้ายมาเรียนที่โรงเรียนใกล้บ้านแทน

นายรุ่งโรจน์ ผู้เป็นตาของเด็ก เปิดเผยว่า ตนไปเช่ารถแท็กซี่มาขับ โดยเสียค่าเช่าวันละ 722 บาท หลังหักค่าใช้จ่ายก็ประมาณ 200-300 บาท เพื่อนำมาดูแลครอบครัว บางวันลูกค้าไม่มีก็จะเหลือสัก 100-200 บาท บางวันต้องอดมื้อกินมื้อ เพื่อให้ภรรยาและลูกหลานได้มีกิน แต่หลังจากนี้หากผู้ที่ให้บ้านพักอาศัยอยู่ชั่วคราวให้ออก ก็ยังไม่ทราบว่าจะไปอยู่ที่ไหน

ทั้งนี้ น.ส.คณิศร เปิดเผยต่ออีกว่า ทุกวันนี้ก็พยายามหาทางช่วยเหลือครอบครัว ด้วยการไลฟ์สดขายขนมส่งทางไปรษณีย์ผ่านเฟซบุ๊กชื่อ "ต้นน้ำ บุญรักษา" โดยมีขนมอบกรอบบรรจุถุงเพื่อให้ผู้ที่มีจิตเมตตา มีทุนทรัพย์ช่วยอุดหนุนเพื่อนำเงินไปรักษาลูกและดูแลครอบครัวที่กำลังทุกข์ยากอีกทางหนึ่ง หรือหากใครที่จะช่วยเหลือก็สามารถเข้ามาได้ที่บ้านพักหรือโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขานนทบุรี ชื่อ น.ส.คณิศร แสงอุไร เลขที่บัญชี 108-0-71624-6 อีกช่องทางหนึ่งด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook