แม่ใจสลาย ฝากยายใกล้บ้านเลี้ยงลูกชาย 5 เดือน อยู่ๆ เลือดคั่งในสมอง

พ่อแม่ร้องมูลนิธิปวีณาฯ หลังฝากเลี้ยงลูกชายคนแรกวัย 5 เดือนกับยายแถวบ้าน ปรากฏว่ามีอาการชักเกร็ง หมอพบเลือดคั่งในสมอง วอนขอความเป็นธรรมช่วยสืบที่ไปที่มา

(28 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี รังสิต-นครนายก คลอง 7 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี น.ส.แอน (นามสมมติ) อาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.จันทบุรี พร้อมกับสามี ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กรณี "น้องสมาร์ท" ลูกชายวัย 5 เดือน เป็นลูกคนแรกที่นำไปจ้างเลี้ยง แต่ปรากฏว่าพบอาการเลือดคั่งในสมองระหว่างไปฝากเลี้ยง ปัจจุบันรักษาตัวที่โรงพยาบาลกว่า 20 วันแล้ว อาการยังไม่ดีขึ้น

น.ส.แอน เปิดเผยว่า ตนได้นำน้องสมาร์ทไปฝากเลี้ยงกับยายแดง (นามสมมติ) อายุประมาณ 60 ปี เป็นคนที่อยู่ละแวกเดียวกันใน อ.เมือง จ.จันทบุรี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังได้รับคำแนะนำจากคนที่รู้จัก โดยไปส่งลูกตอนเช้าและไปรับกลับช่วงเย็น ส่วนสามีเป็นคุณครูอยู่ จ.ฉะเชิงเทรา จะแวะกลับบ้านมาช่วงวันเสาร์-อาทิตย์

โดยยายแดงได้คิดค่าจ้างเลี้ยงเด็ก วันละ 250 บาท ถ้าวันไหนเด็กนอนค้างคืนด้วยก็จะคิดเพิ่มเป็น 500 บาท ที่ผ่านมาไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2562 ตนจะไปสอบประกันหลักสูตรและต้องจัดเตรียมงาน จึงนำลูกไปฝากยายแดงเลี้ยง พร้อมกับให้ค้างคืน 1 คืน

ต่อมาช่วงเย็นวันที่ 2 สิงหาคม ได้และไปหาลูกที่บ้านยายแดง ก็ยังพบว่าปกติดีอยู่ จึงได้ฝากลูกให้อยู่ต่ออีกวัน เพราะตนต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปสอนเด็กพิเศษทุกวันเสาร์อย่างที่เคย กระทั่งช่วงสายวันที่ 3 สิงหาคม ขณะที่ตนสอนพิเศษอยู่ ยายแดงได้โทรมาแจ้งว่า น้องสมาร์ทไม่รู้เป็นอะไร จู่ๆ มีอาการคออ่อน ตาลอย ตัวอ่อนนิ่ม ไม่มีแรง ตนจึงบอกให้รีบพาไปโรงพยาบาล พร้อมกับโทรให้เพื่อนที่อยู่ใกล้ๆ ช่วยไปดูให้ก่อน

ทั้งนี้พบว่า น้องสมาร์ทมีอาการชักเกร็ง แพทย์จึงฉีดยากันชักให้ ก่อนส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี แพทย์ทำการเจาะเลือด เอ็กซเรย์ปอด ตรวจซีทีสแกนสมอง และให้ยากันชักใน 2 วันแรก น้องสมาร์ทสามารถขยับตัวได้ แต่ลืมตาไม่ได้

ผ่านมาช่วงเช้ามืดของวันที่ 6 สิงหาคม น้องสมาร์ทมีอาการชักเกร็งต่อเนื่องถึงช่วงเย็น รวมกว่า 20 ครั้ง ซึ่งแพทย์ก็ได้ให้ยากันชักเพื่อควบคุมอาการ และใส่เครื่องช่วยหายใจนำตัวเข้าห้องไอซียู ระหว่างนั้นแพทย์ได้เรียกพ่อแม่และยายเข้าไปฟังผลซีทีสแกนสมองพบว่ามีเลือดออกในสมอง

โดยผลตรวจพบเลือดบริเวณรอบๆ สมองและด้านในสมอง มีทั้งเลือดเก่าและเลือดใหม่ โดยแพทย์นิติเวชให้พ่อแม่เข้าแจ้งความไว้ก่อน จากนั้นตนจึงไปแจ้งความที่ สภ.เมืองจันทบุรี หลังแจ้งความก็ทราบภายหลังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการไปตรวจที่บ้านของยายแดงและสอบถามเรื่องที่เกิดขื้น และแจ้งว่ายังรอผลตรวจจากแพทย์อยู่ยังไม่สามารถแจ้งข้อหาใครได้ จึงมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ

น.ส.แอน บอกว่า ตนเพิ่งมีลูกชายคนนี้เป็นคนแรกไม่คิดว่าจะมาเกิดเรื่องแบบนี้ ขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยทำความจริงให้ปรากฎ โดยหลังเกิดเหตุยายแดงก็มีมาเยี่ยมน้องสมาร์ท 2 ครั้ง แต่หลังจากแจ้งความก็ไม่เห็นมาอีกเลย ทั้งนี้ยายแดงยืนยันว่า ก่อนที่น้องจะมีอาการ กำลังบดข้าวเพื่อป้อนให้เด็กอีกคนและได้ยินเสียงน้องสมาร์ทนอนร้องไห้ประมาณ 3-4 นาที พอเดินมาดูก็พบว่าคออ่อน ตาลอยแล้ว ไม่ได้เรื่องอื่นใด

น.ส.แอน (นามสมมุติ) กล่าวอีกว่า ตอนนี้น้องสมาร์ทก็ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี ล่าสุดแพทย์ตรวจพบว่ามีเลือดออกที่จอประสาทตา ไม่มีทางรักษาได้ และอาจจะส่งผลทำให้น้องตาบอดได้ ส่วนอาการเลือดคั่งในสมองอาจส่งผลให้เด็กพิการทางสมองได้ ยังคงให้ยารักษาต่อไปพร้อมกับทำกายภาพบำบัด ในเรื่องพัฒนาการต้องเริ่มใหม่ ตั้งแต่การฝึกดูดนม ฝึกกลืน คว่ำชันคอ แต่ตนก็ยังไม่สิ้นหวังจะรักษาลูกให้ดีที่สุด และเดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรมต่อไป

ทางด้าน นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.คมน์สรณ์ มาบำรุง ผกก.สภ.เมืองจันทบุรี และในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ จะเดินทางไปเยี่ยมอาการของน้องสมาร์ท เพื่อสอบถามสาเหตุจากแพทย์ผู้รักษา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปด้วย เพื่อประชุมกับทีมแพทย์สรุปสาเหตุ ที่พบเลือดบริเวณรอบๆ สมองและด้านในสมอง เกิดจากสาเหตุใด เพื่อให้ตำรวจได้สรุปสำนวนได้