เปิดโปงแฉ "นายทุนจีน" เช่าวัด-ผุดโบสถ์รับทัวร์ไหว้พระ-ขายเครื่องรางอู้ฟู่

แฉนายทุนประเทศจีนเช่าพื้นที่วัดชลบุรี สร้างโบสถ์รับทัวร์จีน แถมเปิดขายพระ-เครื่องรางของขลัง ราคาองค์ละหลายหมื่นบาท ร้องตำรวจเร่งตรวจสอบ

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก บิ๊กเกรียน ได้โพสต์รูปภาพพร้อมเรื่องราวแฉกรุ๊ปทัวร์จีนเช่าได้พื้นที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี สร้างโบสถ์ปลอม เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนโดยเฉพาะ ภายในยังมีการเปิดขายพระ เครื่องรางของขลังแพงกว่าปกติหลักหลายหมื่นบาท โดยมักจะใช้หนุ่มตี๋-สาวหมวยเป็นเด็กวัด ตั้งแผงขายธูปเทียน และพบว่ามีรถทัวร์จอดอยู่หลายคัน หน้าอาคารอยู่ตรงข้ามพระอุโบสถของวัดเป็นอาคารคล้ายพระอุโบสถ

ส่วนภายในมีศาลาตั้งพระพรหม เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวจีนกราบไหว้ ซึ่งมีเงินสะพัดเข้ากระเป๋านายในประเทศจีน โดยพฤติกรรมลักษณะนี้เข้าข่ายแก๊งขบวนการทัวร์ศูนย์เหรียญ ทำให้ประเทศไทยได้รับความเสียหายย่อยยับ ทั้งเรื่องภาพลักษณ์ และรายได้เข้าประเทศ วอนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามากวดขันจับกุม ตามที่เป็นกระแสข่าวในขณะนี้

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบวัดแห่งหนึ่งใน ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตามที่ได้รับเบาะแสมาพบว่า ลักษณะเป็นวัดสมัยใหม่ มีโครงสร้างต่างๆ ตรงตามที่ได้รับการร้องเรียนมา อาทิ พระอุโบสถ องค์พระใหญ่สีขาว และศาลาพระพรหม ที่ให้นักท่องเที่ยวได้กราบไหว้ ซึ่งบรรยากาศโดยทั่วไปเงียบเหงาไร้เงานักท่องเที่ยวและศิษย์วัด เนื่องจากปิดบริการแล้ว นอกจากนี้ ทุกเส้นทางเข้าออกของวัดจะพบป้ายระวังรถบัสเข้าออกติดอยู่ทุกเส้นทางอีกด้วย

จากการสอบถามชาวบ้าน ทราบว่า วัดแห่งนี้ก่อตั้งมานานแล้ว โดยช่วงระยะหลังมีจะมีนักท่องเที่ยวทัวร์จีนเข้ามากราบไหว้ที่วัดอย่างต่อเนื่องวันละหลายคันรถบัส แต่รายได้ก็ไม่เคยกระจายถึงชาวบ้านเพราะทัวร์จีนจะใช้จ่ายเพียงวัดเท่านั้น ส่วนเรื่องที่มีนายทุนจีนเข้ามาเช่าที่ เพื่อปล่อยเช่าบูชาพระและเครื่องรางราคาสูงให้แก่นักท่องเที่ยวนั้น ตนเองไม่ทราบเนื่องจากไม่ได้เข้าไปวัดบ่อยครั้ง ส่วนใหญ่ที่ไปก็จะไปทำบุญในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเท่านั้น

จากการสอบถามไปยัง พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา เปิดเผยว่า สำหรับกรณีนี้ได้ทราบแล้วว่า ที่เกิดนั้นเป็นวัดแห่งหนึ่งใน ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เบื้องต้น ได้ประสานเจ้าหน้าที่วัฒนธรรมจังหวัดชลบุรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบวัดดังกล่าวในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ (29 ส.ค.)

เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิดของวัดแห่งนี้ตามที่ได้รับรายงานมานั้น จะต้องใช้เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบ อาทิ ตำรวจท่องเที่ยวจะตรวจสอบในเรื่องของไกด์และบริษัททัวร์ว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ รวมไปถึงการตรวจสอบการทำงานของบุคคลต่างด้าว ซึ่งในส่วนที่ของวัดหรือที่ธรณีสงฆ์จะต้องให้เจ้าหน้าที่วัฒนธรรมจังหวัดเป็นผู้ตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม หากพบการกระทำความผิดจริงตามที่ร้องเรียนจะทำการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป