สาวโรงงานไม่ยอมผ่าเนื้องอก กลัวตาย-ห่วงลูกไม่มีเงินเรียน เถ้าแก่วางแผนช่วยเนียนๆ

(28 ส.ค.62) โลกออนไลน์แชร์เรื่องราวจากเฟซบุ๊ก อรัณ ไตรตานนท์ โต๊ะทำงาน ของ พ.ต.ต. อรัณ ไตรตานนท์ นายแพทย์ สบ 2 กลุ่มงานสูตินรีเวชกรรม โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งได้โพสต์เกี่ยวกับเรื่องราวของ หญิงวัย 47 ปี มีอาชีพเป็นสาวโรงงาน ที่มาหาหมอเพราะมีอาการปวดท้องน้อยบ่อย และมีเลือดออกมากเวลาเป็นประจำเดือน เมื่อตรวจอัลตราซาวด์พบว่ามีเนื้องอกที่มดลูก ขนาด 6 ซม. อยู่ตรงกลางมดลูก ทางแพทย์จึงลงความเห็นว่าควรผ่าตัดเอาเนื้องอกออกโดยเร็ว แต่คนไข้ไม่ยินยอมให้ผ่าตัด เพราะกลัวว่าหากตนเองเสียชีวิต หรือต้องพักฟื้นนานหลังผ่าตัด จะไม่มีใครทำงานส่งเงินให้กับแม่และลูกชายที่กำลังเรียน ปวช. ปี 3 ซึ่งใกล้จบแล้ว

แพทย์ให้เวลาคิด 7 วัน และกลับมาพบอีกครั้ง หญิงรายนี้ยังยืนยันคำตอบเดิมว่าจะไม่ยอมผ่าตัด ขณะเดียวกัน หัวหน้าฝ่ายบุคคลที่โรงงานของหญิงรายนี้ที่มาตรวจรักษาอาการเนื้องอกเช่นกัน ถึงกับโมโหบอกว่า "โอ๊ย อีบ้า กูอยากผ่าจะตาย ก้อนตั้ง 10 ซม. แต่กินยาแอสไพริน หมอก็เลยไม่กล้าผ่าให้ ของมึงนี่แค่ 6 ซม. ทำเป็นกลัว ดัดจริต" แต่ก็ยังไม่เป็นผล 

หลังจากผ่านไปสองเดือน หญิงรายนี้ได้กลับมาหาหมออีกครั้งด้วยรอยยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่ดูไม่สดใสนัก พร้อมกล่าวว่า ตนพร้อมผ่าตัดแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ถูกเรียงเบอร์ได้ทองสองบาท และนำไปขายได้เงินมา 40,000 บาท โดยได้โอนไปให้แม่และลูกแล้วเพื่อเป็นเงินสำรอง หากเธอเป็นอะไรไปทั้งสองคนจะได้ไม่ลำบาก แพทย์จึงได้ทำการผ่าตัดเนื้องอกออกมาได้สำเร็จ

ซึ่งในเวลาต่อมา แพทย์ก็ได้ทราบความจริงบางอย่างจากหัวหน้าฝ่ายบุคคล เกี่ยวกับเบื้องหลังของความดวงดีถูกเรียงเบอร์ของสาวโรงงานว่า ที่จริงแล้วสาวโรงงานคนนี้ไม่ได้ถูกเรียงเบอร์ แต่เป็นแผนของเจ้าของโรงงานที่แกล้งให้หัวหน้าบังคับขายเรียงเบอร์กับสาวโรงงาน แต่ไม่ว่าจะซื้อเบอร์ไหนก็ถูก เพราะมีคนซื้อแค่คนเดียว เนื่องจากเถ้าแก่ตั้งใจจะให้สาวโรงงานคนนี้ถูกรางวัล

ซึ่งหลังจากที่ถูกรางวัลก็สาวโรงงานก็รีบนำทองไปขาย และโอนเงินไปให้ที่บ้าน แล้วจึงรีบมาหาหมอเพื่อผ่าตัด โดยไม่รู้เลยว่าเงินจำนวน 40,000 บาท เป็นเงินของเถ้าแก่ที่ต้องการช่วยเหลือ เพราะภรรยาของเขาก็เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง จึงเข้าใจว่าต้องรีบรับการรักษา แต่ไม่อยากให้เงินตรงๆ เพราะกลัวคนงานคนอื่นอิจฉา โดยคุณหมอได้กล่าวว่า "ความรักที่งดงาม อาจจะไม่ต้องออกมาจากคนปากหวาน คนที่ด่าเราฉอดๆๆๆๆๆบางทีเขาก็อาจจะรักเรานะครับ"

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เรื่องราวผ่านมาหลายปี เถ้าแก่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปแล้ว ลูกชายดูแลกิจการต่อ สาวโรงงานคนนี้ปัจจุบันกลับไปอยู่อีสาน หลังจากลูกชายเรียนจบ ปวช. ทำงานได้เงินหาเลี้ยงแม่กับยายได้แล้ว ส่วนหัวหน้าฝ่ายบุคคลก็ยังคงมาหาหมอทุก 6 เดือน เพื่อติดตามขนาดของเนื้องอก ซึ่งมีขนาดเล็กลงจากอายุที่มากขึ้น

เรื่องราวดังกล่าวสร้างความประทับใจให้กับชาวโซเชียลเป็นอย่างมาก ถึงความรักของแม่ที่มีต่อลูกชาย และน้ำใจอันประเสริฐของเถ้าแก่เจ้าของโรงงานที่ช่วยต่อชีวิตให้ลูกน้อง อย่างไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน