“ไพบูลย์” คืนเงินอุดหนุนกว่า 8.8 แสน หลัง กกต. มีมติเลิก "พรรคประชาชนปฏิรูป"

“ไพบูลย์” คืนเงินอุดหนุนกว่า 8.8 แสน หลัง กกต. มีมติเลิก "พรรคประชาชนปฏิรูป"

“ไพบูลย์” คืนเงินอุดหนุนกว่า 8.8 แสน หลัง กกต. มีมติเลิก "พรรคประชาชนปฏิรูป"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูปและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ เดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อคืนเงินอุดหนุนจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง จำนวน 882,909.67 บาท เพื่อคืนให้กับกองทุนฯ ไปใช้ดำเนินการเพื่อกิจการของกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองต่อไป

ทั้งนี้ ต้องการสร้างบรรทัดฐานใหม่ ที่เมื่อเลิกพรรคแล้ว การคืนเงินให้กับกองทุนเป็นเรื่องที่ต้องทำก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งหลังจากที่ กกต. ได้นำเรื่องของการสิ้นสภาพของพรรคฯ ไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะนำส่งบัญชีงบการเงินและเอกสารเกี่ยวกับบัญชีการเงินมาให้กับนายทะเบียนพรรคภายในไม่เกิน 30 วันเพื่อที่จะดำเนินการขั้นตอนต่อไป โดยนายทะเบียนพรรคจะแจ้งต่อไปยังสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. เพื่อให้พิจารณาตรวจสอบและชำระบัญชีภายใน 180 วัน ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง มาตรา 95 และในกฎหมายมาตรา 95 วรรค 5 ระบุไว้ว่าในระหว่างที่รับบัญชีนั้น ให้หัวหน้าพรรคการเมือง กรรมการบริหารพรรคการเมือง ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป แต่จะไม่สามารถดำเนินการใดๆ ในนามของพรรคการเมืองได้ โดยหลังจากการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเสร็จสิ้น ก็จะดำเนินการสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ภายใน 60 วัน

พร้อมกันนี้ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนเองมั่นใจว่าคะแนนเสียงที่ตนได้รับนั้น ไม่ผิดเจตนารมณ์ของประชาชนที่เลือกแน่นอน เพราะตนประกาศไปตั้งแต่ต้นว่าสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี

ขณะที่ นายไพบูลย์ ยังกล่าวถึงกรณีการออกมาแสดงความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คนหนึ่ง ในกรณีที่ตนพ้นสภาพจากพรรคประชาชนปฏิรูปไปแล้วยังต้องชำระบัญชีให้เสร็จก่อน จึงจะดำเนินการสมัครสมาชิกพรรคการเมืองอื่นได้นั้น เป็นการให้ข้อมูลในข้อกฎหมายที่ไม่เป็นข้อเท็จจริง จึงอยากเรียกร้องให้คณะกรรมการ กกต. พิจารณาตรวจสอบการให้ความเห็นทางกฎหมายของเจ้าหน้าที่ กกต. รายนี้ด้วย

นอกจากนี้ ตนเองยังเตรียมยื่นฟ้องร้องเอาผิดกับอดีตนักการเมือง และนักวิชาการที่เป็นอดีตที่ปรึกษาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ในข้อหาหมิ่นประมาท หลังจากให้ข้อมูลต่อสังคมในลักษณะที่บิดเบือนข้อเท็จจริง และใส่ความทำให้ตนเองถูกดูหมิ่นและเสียหายผ่านสื่อ โดยจะแจ้งความดำเนินคดีกับผู้หมิ่นประมาท 2 ราย

ส่วนประเด็นที่จะมีผู้ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีการเลิกพรรคประชาชนปฏิรูปนั้น ตนเองมองว่า ขึ้นอยู่กับสิทธิของบุคคลนั้นๆ แต่ยังไม่ทราบว่าผู้เขียนคำร้องจะเขียนอย่างไร และมองว่าการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่ง่าย แต่ยากหากจะเขียนคำร้องที่ครบถ้วนสมบูรณ์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook