แม่ครัวใจหาย ทำอาหารมื้อสุดท้ายให้เด็กก่อนถูกไล่ออก ไหว้หลวงพ่อช่วยไขความจริง

แม่ครัวใจหาย ทำอาหารมื้อสุดท้ายให้เด็กก่อนถูกไล่ออก ไหว้หลวงพ่อช่วยไขความจริง

แม่ครัวใจหาย ทำอาหารมื้อสุดท้ายให้เด็กก่อนถูกไล่ออก ไหว้หลวงพ่อช่วยไขความจริง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 10.30 น. (30 ส.ค. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่โรงเรียนวัดวงเดือน ต.สามง่ามท่าโบสถ์ อ.หันคา จ.ชัยนาท วันนี้นางพันทิพา ป้าแต๋ว แม่ครัวของโรงเรียนทำอาหารมื้อสุดท้าย ก่อนลาออกด้วยท่าทีสุขุม ไม่ยิ้มแย้ม ไม่ค่อยพูดจา ส่วนเมนูสุดท้ายที่ทำในหน้าที่แม่ครัวของวันนี้เป็นเมนูข้าวหมูแดง ขนมปังปิ้งนมเนย

>> แม่ครัวกล้ำกลืน ผอ.สั่งไล่ออกเซ่นอาหารโรงเรียน ตัดพ้อ "เหมือนผิดคนเดียว"

นางพันทิพา หรือ  ป้าแต๋ว เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันที่ต้องทำกับข้าวให้นักเรียนกินเป็นมื้อสุดท้ายรู้สึกใจหาย แต่ก็ทำใจไว้แล้ว ต้องรับผิดชอบไป ไม่รู้สึกเครียด มีบางอย่างยังคาใจยังสงสัย คืออยู่มาตั้งนานแล้วไม่เคยมีปัญหา จะมามีปัญหาอะไรช่วงนี้ที่จะหมดสัญญาจ้างเหมา เหมือนมีคนอยากมาแทนที่ เพราะเคยมีคนเข้าไปเสนอคณะกรรมการว่า จะให้ทางโรงเรียนซื้อของจากร้านที่เป็นเครือญาติกัน แต่โรงเรียนบอกว่าซื้อไม่ได้ ผิดระเบียบ เพราะเป็นระบบจ้างเหมาแม่ครัวก็ต้องซื้อเอง คนอื่นไม่สามารถทำนอกสัญญาได้ จากนั้นแม่ครัวได้ยกมือไหว้บอกหลวงพ่อเศียรพระประธานประจำวัดวงเดือน

“หลวงพ่อเศียรอันศักดิ์สิทธิ์ช่วยลูกด้วย ลูกพูดความจริง คิดที่จะช่วยทุกคนแต่ทำไมลูกต้องได้รับผลกรรมอย่างนี้ ลูกต้องมาโดนใส่ร้ายอย่างนี้  ขอให้หลวงพ่อช่วยลูกด้วยช่วยไขให้มันกระจ่างด้วยเถิด” 

จากนั้นเวลา 11.30 น. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ส่งนายพุฒิพงษ์ เลิศสถิต  ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ปปท. และเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบปมการอาหารกลางวันของนักเรียน หลังที่มีการแฉถึงพฤติกรรมที่โรงเรียนมีการเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียน เป็นผัดมาม่า ไม่มีหมู ไม่มีผัก ที่ขัดต่อหลักโภชนาการ เสี่ยงต่อการขาดสารอาหาร โดยเจ้าหน้าที่ ได้ทำการเชิญคณะครู ผู้ที่เกี่ยวข้อง มาทำการซักถามข้อสงสัยและเดินทางลงพื้นที่ไปดูยังโรงอาหาร นอกจากนี้ ยังได้มีการถามข้อมูลจาก ผู้ปกครองของนักเรียนที่เรียนอยู่โรงเรียนดังกล่าวเพื่อหาข้อเท็จจริง

>> สั่งย้าย "ครูอ้อม" กลับมาสอนโรงเรียนเดิม แต่มีคำสั่งเด้ง ผอ. ไปช่วยราชการที่เขตแทน

นายพุฒิพงษ์  เลิศสถิต ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ปปท. เผยว่า  ปปท.ในฐานะหน่วยงานขึ้นตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ตามที่กฎหมายกำหนดว หากพี่น้องประชาชนและส่วนราชการ เกิดความเดือดร้อนความเสียหาย ก็ต้องเข้ามาดูแลเพื่อให้มีการแก้ไขปรับปรุง

เมื่อปรากฏข่าวในกรณีของครูอ้อมเรื่องโครงการอาหารกลางวัน ก็เป็นส่วนหนึ่งตามกฎหมายอำนาจหน้าที่ของ ปปท.  จึงต้องนำคณะทำงาน เข้ามาดูว่าการดำเนินโครงการซึ่งมีผลกระทบกับประชาชน หน่วยราชการ รวมไปถึงเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณ ที่ค่อนข้างสูงว่ามีการดำเนินงานคุ้มค่า ถูกต้องตามระบบระเบียบวิธีการหรือไม่

วันนี้ลงพื้นที่เป็นครั้งแรก ยังดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องยังไม่ครบ เบื้องต้นขอดูงบประมาณของ อปท.ที่มีการโอนงบลงมาให้โรงเรียนดำเนินการ และยังต้องทำการสอบถามกับทางโรงเรียน ซึ่งดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ทางปปท.ต้องขอเวลาอีกระยะ โดยให้คำมั่นสัญญาว่าจะดำเนินการสอบข้อเท็จจริงเรื่องอาหารกลางวันของโรงเรียนแห่งนี้ว่าดำเนินการมาตั้งแต่เมื่อไร อย่างไร ใช้จ่ายไปตอนไหน ใครเป็นคนรับผิดชอบ ทั้งระบบ คาดว่าต้องตรวจสอบ 5-6 ปีย้อนหลัง ตั้งแต่มีการโอนงบฯมาให้ทางโรงเรียนดำเนินการเรื่องอาหารกลางวัน

>> บังเอิญหรือโป๊ะแตก "แม่ครัว" โพสต์รูปถุงเลือดลงเฟซบุ๊ก ก่อนเกิดเหตุหน้าห้องครู
>> คุ้ยถังขยะหาหลักฐานปมปาถุงเลือดขู่ครูแฉอาหารกลางวัน ด้านแม่ครัวโต้มาม่าผัดใส่หมูผักครบ
>> ครูสาวชัยนาทเจอดี "ปาถุงเลือดขู่" เชื่อปมแฉคุณภาพอาหารกลางวันเด็ก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook