เบนซ์ชนหนุ่มหล่อ นอนเป็นเจ้าชายนิทรา เคราะห์ซ้ำโจรผ้าเหลืองเชิดเงินบริจาคนับแสน

เบนซ์ชนหนุ่มหล่อ นอนเป็นเจ้าชายนิทรา เคราะห์ซ้ำโจรผ้าเหลืองเชิดเงินบริจาคนับแสน

เบนซ์ชนหนุ่มหล่อ นอนเป็นเจ้าชายนิทรา เคราะห์ซ้ำโจรผ้าเหลืองเชิดเงินบริจาคนับแสน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากที่เคยตกเป็นข่าวเมื่อปีที่แล้วกรณีที่มีการขอรับความช่วยเหลือครอบครัวของ นายธิตินันท์ วรรณคำ หรือ น้องปาน อายุ 24 ปี เด็กหนุ่มในอำเภอแม่แจ่ม ซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัว ถูกรถชนกลายเป็นเจ้าชายนิทรา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2560 น้องปานซึ่งขณะนั้นเป็นทหารเกณฑ์ ได้ประสบอุบัติเหตุ ถูกรถเบนซ์ขับพุ่งชน บริเวณถนนหน้าสวนสุขภาพมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ จนสลบคาที่สมองได้รับการกระทบกระเทือน แพทย์ต้องผ่าตัดถึงสองครั้งแต่ไม่หายต้องนอนป่วยเป็นเจ้าชายนิทรา แม่ต้องไปกู้หนี้ยืนสินเพื่อพาน้องปานไปรักษาอาการ

หลังจากปีที่แล้วตกเป็นข่าวก็มีธารน้ำใจจากผู้ใจบุญหลั่งไหลมาช่วยน้องได้เงินรักษาตัวถึง 4 แสนกว่าบาท ทางด้าน นางภัทรัช วรรณคำ อายุ 62 ปี ผู้เป็นแม่ ต้องคอยพลิกตัวและเติมอาหารเสริมผ่านสายยางให้กับลูกชายที่นอนป่วยเป็นเจ้าชายนิทรา ภายในบ้านพักใน หมู่บ้านกลางโต้ง ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ซึ่งนางภัทรัชก็ได้นำไปใช้ในรักษาอาการน้องปาน จนเริ่มดีขึ้น แต่กลับเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา ครอบครัวนี้ ได้ถูกกลุ่มมิจฉาชีพชาย 4 คนมาในคราบนักบุญ มี 1 ในนั้นอ้างตัวเป็นพระสงฆ์ หลอกถอนเงินจนเกลี้ยงบัญชี นอกจากนี้แล้วยังทิ้งหนี้สินค่าวัสดุก่อสร้างและค่าช่างรับเหมาให้เธออีก

นางภัทรัช เล่าว่าเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมามีคนโทรศัพท์มาหา อ้างตัวเป็นพระสงฆ์พึ่งกลับจากการจำพรรษาที่ต่างประเทศ เห็นข่าวน้องปานแล้วรู้สึกสงสารจะเดินทางเข้าไปช่วยเหลือพร้อมลูกศิษย์ หลังจากนั้นกลุ่มมิจฉาชีพก็ได้เดินทางโดยรถตู้มาที่บ้านนางภัทรัช ก่อนจะทำพิธีสวดมนต์ให้และสอบถามถึงสารทุกข์สุขดิบ และก่อนจะขอดูบัญชีและบัตรประชาชนของนางภัทรัช โดยอ้างว่าจะนำไปเปิดบัญชีให้ญาติโยมลูกศิษย์ ลูกหา ช่วยเหลือน้องปานอีกทาง และจะสร้างห้องพักปลอดเชื้อให้กับน้องปานด้วย

โดยให้ตนเองไปสั่งวัสดุอุปกรณ์และเรียกช่างมาทำ ซึ่งตนเห็นเป็นพระสงฆ์น่าเคารพนับถือจึงหลงเชื่อ ต่อมาวันที่ 28 พฤษภาคม  2562  กลุ่มมิจฉาชีพได้นำสมุดบัญชีที่มีผู้ใจบุญบริจาคช่วยเหลือน้องปานมาคืนนางภัทรัชก็ไม่ได้เอะใจ กระทั่งกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ออกจากพื้นที่อำเภอแม่แจ่มไปได้ประมาณ 2-3 วัน นางภัทรัชจึงได้นำสมุดบัญชีไปเช็คยอดที่ธนาคาร แต่ได้ไม่สามารถทำรายการได้จึงติดต่อไปยังธนาคารทำให้รู้ว่าเป็นสมุดบัญชีปลอม เธอจึงขอให้ธนาคารเช็คยอดเงินในสมุดบัญชีจริงให้พบว่าเงินถูกถอนเกือบเกลี้ยงบัญชี เหลือเงินเพียง 14,000 บาทเท่านั้น ทางธนาคารจึงบอกให้อายัดสมุดบัญชีดังกล่าวทันที

โดยจากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มมิจฉาชีพได้ถอนเงินในบัญชีไป 2 ครั้ง รวมเกือบ 1 แสนบาท จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สภ.แม่แจ่ม เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2562ที่ผ่านมา โดยการกระทำของกลุ่มมิจฉาชีพในคราบนักบุญนั้นสร้างความเดือดร้อนให้เธอและลูกชายเป็นอย่างมาก เนื่องจากเงินที่ผู้ใจบุญบริจาคนนั้นได้ถูกถอนไปหมด ทั้งค่ายา ค่าอาหารเสริม ค่ารถในการทางไปหาหมอ  รวมไปถึงค่าวัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้าง ที่ทางกลุ่มมิจฉาชีพไปสั่งมาทำห้องปลอดเชื้อให้น้องปาน นั้นยังไม่ได้จ่าย ล่าสุดอาการของน้องปานก็ยังกลับมาทรุดลงอีก ชักเกร็งเป็นระยะๆ และมีอาการกระเพาะปัสสาวะติดเชื้อด้วย

ทุกวันนี้นางภัทรัชเผยว่ากำลังลำบากมาก เนื่องจากต้องเลี้ยงดูพ่อพิการหูหนวกและลูกชายที่ป่วยเป็นเจ้าชายนิทราเพียงคนเดียว ลำพังเงินเบี้ยผู้สูงอายุของตนกับพ่อ และเบี้ยคนพิการของน้องปานไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวที่แต่ละเดือนทั้งค่ายา ค่าผ้าอ้อมผู้ใหญ่ รวมไปถึงค่าอาหารเสริม เดือนนึงหลายพันบาท

ดังนั้นเธอจึงต้องการวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือและต่อชีวิตลูกชายเธออีกครั้งหนึ่งส่วนบัญชีเดิมนั้นเธอได้แจ้งอายัดแล้วก่อนที่จะเดินทางไปเปิดบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาแม่แจ่ม  หมายเลขบัญชี นางภัทรัช วรรณคำ เลขที่บัญชี  059-8-48393-0

นอกจากนี้แล้วยังอยากจะขอฝากไปถึงคู่กรณีที่ขับรถชนลูกชาย เมื่อครั้งเป็นคดีความ ฝั่งพ่อของคู่กรณีได้มาร้องขอให้ช่วยยอมความเพื่อที่จะให้คดีเบาลง โดยมีการรับปากว่าจะดูแลน้องปานเหมือนกับลูกชายอีกคน และมาช่วยดูแลเยียวยาทุกอย่าง แต่วันนี้กลับตรงกันข้าม คู่กรณีหายตัวไปไม่สามารถติดต่อได้ โทรศัพท์ไปก็ไม่รับ บ้างก็ปฏิเสธว่าไม่ใช่เจ้าของเบอร์ จึงอยากให้กลับมาช่วยดูแลเยียวยาบ้างอย่างที่เคยรับปา กตอนขอให้ยอมความในคดีด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook