แม่ยก-รุมโอ๋ ไชยา ถูกขู่ฆ่า

แม่ยกแห่ให้กำลังใจ ไชยา มิตรชัย เนืองแน่นตลอดวัน ทั้งโทรศัพท์ปลอบขวัญ จนสายแทบไหม้ ตร.อ่างทองสั่งลุยแกะรอยเจ้าของจดหมายลึกลับจากต้นทางเชียงใหม่ เอ-ไชยา ยอมรับยังหวาดผวาและเครียด พยายามระมัดระวังตัวทุกฝีก้าว โอดไม่อยากให้มองเป็นคนร่ำรวย เงินทองได้มาก็ต้องดูแลน้องๆ ในคณะนับร้อยชีวิต ที่ผ่านมาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์มาตลอด ไม่คิดว่าจะเจอแบบนี้ เดือดร้อนก็น่าจะคุยกันดีๆ

จากกรณีนักร้อง ลูกทุ่ง-ลิเกเงินล้าน "เอ" ไชยา มิตรชัย เข้าแจ้งความ สภ.เมืองอ่างทอง หลังได้รับจดหมายลึกลับเขียนส่งมาที่บ้านพักในจ.อ่างทอง จ่าหน้าชื่อ-นามสกุลจริง คือ "นาย เสมา สมบูรณ์" เพื่อข่มขู่เรียกเงิน 50,000 บาท โดยให้ส่งข้อความเอสเอ็มเอสก่อนวันที่ 30 มิ.ย. ว่า ตกลงหรือไม่ ถ้าตกลงให้โทร.ตอบกลับ จะบอกวิธีการส่งเงิน และหากไม่ตกลงจะไม่รับ รองความปลอดภัย พร้อมเตือนห้ามแจ้งตำรวจเด็ดขาด โดยต้นทางมาจากเชียงใหม่ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. พ.ต.อ.รวีโรจน์ กอง กันภัย ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง เปิดเผยว่า สั่งการให้พ.ต.ต.มงคล จิตร์พรหม สว.สป.สภ.เมืองอ่างทอง ประสานไปยังไปรษณีย์เชียงใหม่ เพื่อให้ตรวจสอบข้อมูลหรือตรวจสอบกล้องวงจร ปิด ว่า วันจันทร์ที่ 22 มิ.ย.มีลูกค้านำซองจด หมายลักษณะดังกล่าวมาใช้บริการประมาณกี่ราย ซึ่งพนักงานน่าจะจำได้คร่าวๆ ว่า เพศชายหรือเพศหญิงรวมทั้งรูปพรรณสัณฐาน ลักษณะการแต่งกาย ที่สำคัญคือดวงตราไปรษณีย์ว่ามีจำหน่ายในพื้นที่หรือไม่ และจุดตำหนิหรือรหัสที่ประทับตรา เพื่อหาเบาะแสในการสืบสวนจับกุม

ทั้ง นี้ เนื่องจากจดหมายฉบับดังกล่าวเป็นจดหมายธรรมดาและไม่ระบุชื่อผู้นำส่ง คาดว่าผู้ข่มขู่จงใจและมีความรอบรู้ดีพอที่จะทราบว่าส่งวันนี้แล้วจะถึงปลาย ทางที่มีระยะห่าง 700-800 ก.ม. วันใด อีกทั้งคำนวณแล้วว่าเมื่อผู้รับเปิดอ่านจะเกิดความตกใจกลัวและได้รับความกด ดันจนยินยอมจ่ายเงินตามคำขู่ เนื่องจากมีเวลาให้ตัดสินใจเพียง 3-4 วัน ประกอบกับเงินจำนวนดังกล่าวไม่มากนักสำหรับไชยา ถือเป็นจิตวิทยาอย่างหนึ่ง

"ดูจากลายมือและข้อความในจดหมายเป็นที่น่าสังเกตว่าลายมือดีมาก เป็นผู้ที่ได้รับการศึกษา มีความรอบรู้และเข้าใจในการใช้ภาษาไทย เรียงความเนื้อเรื่องตามที่ต้องการ ใช้ภาษาสุภาพเรียบง่าย ครอบครัวคุณ ครอบครัวเรา มีวงเล็บปิด-เปิด มีพยัญชนะภาษาอังกฤษ ที่สำคัญ ข้อ ความตัดพ้อระบุว่า ไชยา เป็นนักแสดง เป็นศิลปิน ได้รับรางวัลคืนละเป็นล้าน แต่เป็นเหตุให้ครอบครัวผู้ข่มขู่ได้รับความเดือดร้อน จึงต้องการเงิน 5 หมื่นบาทไปทำทุน จึงพยายามขยายผลในส่วนนี้ แต่จากการสอบสวนไชยาทราบว่า ไม่ค่อยมีแม่ยกหรือแฟนคลับในภาคเหนือ ส่วนใหญ่จะเป็นภาคกลางและภาคใต้เป็นส่วนใหญ่

อย่างไรก็ตามได้ส่ง จดหมายดังกล่าวไปให้พฐ.ตรวจพิสูจน์ พร้อมให้ผู้เชี่ยวชาญภาษาและนักจิตวิทยาตรวจสอบ นอกจากนี้ กำลัง ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือหมายเลขดังกล่าว ที่ขบคิดอยู่ในขณะนี้คือเป้าประสงค์ของคนร้ายจะกุเรื่องขึ้นหรือไม่ และเชื่อว่าไม่น่าจะอยู่ภาคเหนือ" พ.ต.อ.รวีโรจน์ กล่าว

ด้าน "เอ"ไชยา กล่าวว่า ยังรู้สึกหวาดกลัวและเครียด แต่ทุกคนก็ระมัดระวังตัว โดยเฉพาะตนไม่อยากให้มีเหตุการณ์ร้ายๆ เกิดขึ้น ซึ่งความเป็นจริงแล้วไม่อยากแจ้งความ เก้าไม่เอา สิบไม่เอา แต่เมื่อทุกคนในครอบครัวไม่สบายใจก็ต้องทำให้เขาสบายใจ ส่วนการทำบุญทำกุศล ตนและครอบครัวช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์มาตลอด แต่ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เป็นความรู้สึกที่แย่มาก หากมีความเดือดร้อนหรือต้องการให้ช่วยเหลือน่าจะคุยกันดีๆ และไม่อยากให้คิดว่าตนร่ำรวย เนื่องจากต้องรับภาระน้องๆ ในคณะหลายร้อยชีวิต ทุกวันนี้ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง บ้านช่องอยู่กลางทุ่งไม่ใหญ่โตอะไร

นางวงศ์เดือน ใจกว้าง แม่นักร้อง-พระเอกลิเกคนดัง กล่าวว่า ลูกๆ อ่านจดหมายฉบับดังกล่าวมาเล่าให้ญาติและคนในครอบครัวฟัง เมื่อได้ฟังแล้วก็ไม่กล้าอ่านเพราะกลัว จึงแนะนำให้ไชยาไปแจ้งความ แต่ตัวเขาเองไม่เห็นด้วย จนญาติผู้ใหญ่ เช่น ปู่ ยาย ไม่สบายใจ จึงยอมไปแจ้งความ เนื่องจากครอบครัวเราถูกคุกคามโดยไม่ทราบสาเหตุ

" เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้บรรดาแม่ยกและแฟนคลับต่างโทรศัพท์สอบถามและให้กำลังใจเอ-ไชยา จนสายแทบไหม้ บางส่วนเดินทางมาสอบถามเอง ก็ต้องขอบคุณด้วยในความห่วงใย" นางวงศ์เดือน กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากได้รับจดหมายข่มขู่ บ้านพักเลขที่ 85/4 หมู่ 3 ต.สี่ร้อย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ของครอบครัวไชยาก็ถูกปิดเงียบ โดยตลอดทั้งวันมีบรรดาแม่ยกและแฟนคลับทยอยเดินทางมาให้กำลังใจเป็นระยะ โดยครอบครัวไชยาให้การต้อนรับด้วยความเป็นกันเอง ก่อนที่จะขอตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯ

นางบุญลือ แม่ยกจากจ.เพชรบุรี กล่าวว่า เห็นข่าวแล้วรู้สึกเป็นห่วงไชยา จึงเดินทางมาให้กำลังใจ เหมือนก่อนหน้านี้ที่ไชยาประสบอุบัติเหตุเข้าโรงพยาบาล ตนและแม่ๆ ก็เดินทางมาให้กำลังใจ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ถูกข่มขู่ถึงชีวิต จึงอยากให้มองย้อนไปว่าไชยาสร้างความเดือดร้อนให้ใคร เขาทำงานที่เขารัก อุทิศตนช่วยเหลือ สังคม แต่กลับมาถูกคุกคามเช่นนี้ เป็นเรื่องที่รับไม่ได้