สะเทือนใจทั้งหมู่บ้าน หนุ่มบ้านไผ่ถูกไฟช็อตตาย ช่วยเพื่อนบ้านหนีน้ำท่วม

หนุ่มชาวบ้านไผ่ ขอนแก่น เป็นอาสาเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนบ้านขนของหนีน้ำท่วม ปรากฏว่าถูกไฟช็อต จมน้ำเสียชีวิตคาที่ สะเทือนใจไปทั้งหมู่บ้าน

(1 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงไปยังพื้นที่บ้านหลังหนึ่งในชุมชนไผ่เก่าพัฒนา โดยได้พบกับ นายอดุลย์ ซึ่งเป็นญาติของ นายสราวุธ อายุ 20 ปี หลังจากถูกไฟฟ้าช็อตจนหมดสติ ขณะกำลังช่วยเพื่อนบ้านขนของหนีน้ำท่วม ก่อนจะถูกนำตัวส่งต่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลโนนศิลา แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา

นายอดุลย์ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ผู้เสียชีวิตกับพี่ชายได้พากันมาช่วยขนของออกจากบ้านเพื่อนที่ถูกน้ำท่วม รอบแรกได้โทรทัศน์จอแบนออกไปก่อน แต่รอบที่สองกลับเข้ามาที่บ้านอีก ขณะที่ นายสราวุธ กำลังจะเดินออกจากบ้าน ซึ่งจุดดังกล่าวมีน้ำท่วมสูงกว่า 1.50 เมตร จากระดับถนน ทำให้ระดับน้ำท่วมมิเตอร์ไฟฟ้าที่อยู่หน้าบ้าน เป็นเหตุทำให้เกิดไฟรั่ว และช็อตใส่ร่าง นายสราวุธ ทรุดล้มลง

ขณะเดียวกัน นายสราวุธ ได้พยายามส่งเสียงร้องเรียกพี่ชายว่าตัวเองถูกไฟช็อต และร้องขอให้มาช่วย พี่ชายจึงรีบขึ้นไปบนหลังคาบ้าน แล้วใช้ไม้ดันร่างของนายสราวุธให้ห่างออกจากเสาไฟฟ้า พร้อมกับเรียกให้เพื่อนบ้านมาช่วยเหลือ แต่กว่าที่ชาวบ้านคนอื่นๆ จะลุยน้ำมาถึง ปรากฏว่า นายสราวุธ ได้จมน้ำหมดสติไปแล้ว

หลังจากนั้น ชาวบ้านจึงช่วยกันงมหาร่าง นายสราวุธ เพียงไม่นานนักก็พบร่าง ก่อนจะนำร่างใส่กระบะผสมปูน และเคลื่อนย้ายออกจากจุดเกิดเหตุที่มีน้ำท่วมขังสูงมายังจุดปลอดภัย และรีบปฐมพยาบาลและนำตัวส่งโรงพยาบาลโนนศิลา แต่เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา

ขณะที่ในวันนี้ นางศิลากร อายุ 43 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต พร้อมกับญาติพี่น้อง ต่างพากันเก็บกวาดบ้านเพื่อจัดงานศพให้กับนายสราวุธ ผู้เป็นแม่กล่าวว่า หลังเกิดเหตุน้ำท่วมใน อ.บ้านไผ่ โดยเฉพาะชุมชนที่ตนอาศัยอยู่ ลูกชายจึงได้ไปช่วยเพื่อนบ้านขนของหนีน้ำท่วมกัน

แต่ขณะช่วยเพื่อนบ้านขนของอยู่นั้น ปรากฏว่าถูกไฟรั่วช็อตใส่ร่าง ทำให้หมดสติและจมน้ำเสียชีวิต โดยไม่รู้ว่าทำไมหน่วยงานภาครัฐจึงไม่มีการตัดกระแสไฟฟ้า เมื่อในพื้นที่กำลังประสบอุทกภัยอยู่

"เมื่อลูกชายถูกไฟช็อตและจมน้ำตาย ได้ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้แจ้งการไฟฟ้าทำการตัดไฟ พอไฟฟ้าถูกตัด แม่จึงรีบเข้าไปบ้านที่เกิดเหตุ เพื่องมหาร่างลูกชายที่จมลงไปในน้ำ ก่อนที่เดินลุยๆ อยู่ เท้าก็ไปสะดุดร่างลูกเข้า เขานอนอยู่ใกล้เสาไฟฟ้า จึงได้รีบนำร่างขึ้นมาส่งโรงพยาบาล แต่ส่งไปโรงพยาบาลบ้านไผ่ก็ไม่ได้ เพราะน้ำท่วมอยู่ จึงต้องนำส่งที่โรงพยาบาลโนนศิลา และส่งต่อไปยังโรงพยาบาลเมืองพล แต่ลูกชายเสียชีวิตแล้ว วันนี้ครอบครัวรอให้ระดับน้ำลดลงจึงจะติดต่อรับศพลูกชายกลับมามาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน"

นางศิลากร ยังกล่าวต่ออีกว่า ตนไม่คิดว่าจะสูญเสียลูกชายไปแบบนี้ เพราะคิดว่าเมื่อมีน้ำท่วมในพื้นที่ใด ไม่ว่าจะมากหรือน้อย การไฟฟ้าก็จะตัดไฟ แต่ครั้งนี้การไฟฟ้าไม่ได้ตัดไฟในทันที แต่มาตัดในช่วงที่เกิดเหตุแล้ว จึงอยากให้เรื่อนี้เป็นอุทาหรณ์ ลูกชายตนไม่ควรจะเสียชีวิตลงเช่นนี้ เพราะกำลังจะมีอนาคตสดใส อยู่ระหว่างการฝึกงานที่สำนักงานที่ดิน ร่างกายแข็งแรง และว่ายน้ำเป็น ไม่น่ามาจบชีวิตลงระหว่างกำลังช่วยผู้อื่นอยู่เช่นนี้