หนุ่มสิงคโปร์ฟันเมียเลือดสาด ระแวงไปส่งลูกนานผิดปกติ เปิดจีพีเอสเช็กแล้วโป๊ะแตก

หนุ่มสิงคโปร์ฟันเมียเลือดสาด ระแวงไปส่งลูกนานผิดปกติ เปิดจีพีเอสเช็กแล้วโป๊ะแตก

หนุ่มสิงคโปร์ฟันเมียเลือดสาด ระแวงไปส่งลูกนานผิดปกติ เปิดจีพีเอสเช็กแล้วโป๊ะแตก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มสิงคโปร์คว้าเคียวฟันแฟนสาวไทย ระแวงปันใจให้ชายอื่น หลังไปส่งลูกที่โรงเรียนแต่หายไปนานผิดสังเกต

(3 ก.ย.62) นายอัลเบิร์ต อายุ 38 ปี ชาวสิงคโปร์ ยืนให้การด้วยสีหน้าตื่นตกใจหลังทะเลาะกับ นางสาวปาริชาติ อายุ 29 ปี ภรรยาชาวไทยที่ ถึงขั้นลงไม้ลงมือตบตีจนภรรยาสู้ไม่ได้ ตะโกนให้ชาวบ้านช่วยเหลือ นายอัลเบิร์ตจึงคว้าเคียวตัดหญ้าหลังรถกระบะมาฟันนางสาวปาริชาติเข้าที่กลางหลัง และขาขวาได้รับบาดเจ็บ  เหตุเกิดบริเวณถนนใกล้ฮิปคอนโดมิเนียม ในโครงการเชียงใหม่บิสเนสพาร์ค อ.เมือง จ.เชียงใหม่

หลังเกิดเหตุนายอัลเบิร์ตได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้รีบนำตัวนางสาวปาริชาติส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลแม็คคอร์มิก ขณะที่นายอัลเบิร์ต ยืนรอให้การกับตำรวจ สภ.แม่ปิง ที่เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน โดยมีแม่คอยยืนปลอบใจอยู่ใกล้ๆเพื่อให้คลายความโกรธ

นายอัลเบิร์ต เล่าว่า อยู่กินกับนางปาริชาติ ภรรยาชาวไทยที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันมา 5-6 ปีแล้ว มีลูก 2 คน อายุ 4 ขวบ และ 5 ขวบ และ อาศัยอยู่ที่บ้านพักใน ต.สันพระเนตร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่มานานประมาณ 6 - 7  ปี แล้ว โดยช่วงหลังมีปัญหาทะเลาะกับนางสาวปริชาติบ่อยครั้งเรื่องความหึงหวง เพราะนางสาวปาริชาติเป็นคนหน้าตาดี จึงระแวงจะปันใจให้ชายอื่น   และช่วงหลังก็จับได้ว่านางสาวปาริชาติยังพูดคุยกับอดีตแฟนหนุ่มอยู่ด้วย

ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้ก่อนเกิดเหตุ ตนเองไม่สบายจึงให้นางสาวปาริชาติไปส่งลูกที่โรงเรียนแทน แต่ปรากฎว่านางสาวปาริชาติหายไปนานหลายชั่วโมง เมื่อโทรศัพท์ไปหาก็ไม่ยอมรับสาย จึงใช้แอปพลิเคชั่น GPS ตรวจสอบพิกัดที่อยู่จากโทรศัพท์มือถือ แต่เมื่อถามแล้วภรรยาไม่บอกตรงๆ บอกว่าเดี๋ยวค่อยคุย จึงขับรถยนต์มาตามหากระทั่งพบตัวจึงทะเลาะมีปากเสียงกัน

นายอัลเบิร์ต ยอมรับว่า โมโหภรรยาที่ไม่พูดความจริงและโกหกบ่อยครั้ง จึงลงมือตบตีและใช้เคียวตัดหญ้าฟันไปโดยไม่ตั้งใจ ยอมรับผิดและยินดีจะไปให้การกับตำรวจ

หลังสอบปากคำ พนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง ได้ปล่อยตัวนายอัลเบิร์ตไปเพราะไม่มีเจตนาหลบหนี และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องทะเลาะกันระหว่างสามีภรรยา แต่ได้บันทึกการสอบปากคำไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะรอให้นางสาวปาริชาติหายดีจึงจะเรียกคู่กรณีทั้งสองมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook