ครูนักเรียนขวัญผวา ไฟไหม้หอประชุมเก่าโรงเรียนกลางเมืองหนองคาย

ครูนักเรียนขวัญผวา ไฟไหม้หอประชุมเก่าโรงเรียนกลางเมืองหนองคาย

ครูนักเรียนขวัญผวา ไฟไหม้หอประชุมเก่าโรงเรียนกลางเมืองหนองคาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เกิดเหตุไฟไหม้หอประชุมเก่าของโรงเรียนกลางเมืองหนองคาย เด็กนักเรียนวิ่งหนีจ้าละหวั่น ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุได้ทันควัน คาดไฟฟ้าลัดวงจร ผอ.ประกาศให้นักเรียนกลับบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ผ่านมา เกิดเหตุไฟไหม้หอประชุมโรงเรียนเทศบาล 1 สว่างวิทยา เขตเทศบาลเมืองหนองคาย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลเมืองหนองคาย 2 คัน หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างคงคาธรรมสถานหนองคาย และหน่วยกู้ภัยชบา 191 ได้ระดมฉีดน้ำควบคุมไฟ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงดับไฟได้ทั้งหมด

ขณะที่ นายจิรศักดิ์ ศรีคชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย, นายวินชัย ไวยพัฒน์ รองนายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย,นายสิทธิพงษ์ วงศ์นุกูล ผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบเหตุการณ์ ท่ามกลางนักเรียนและครูที่ต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายสิทธิพงษ์ วงศ์นุกูล ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 1 สว่างวิทยา เปิดเผยว่า จุดที่เกิดเหตุนั้นเป็นอาคารหอประชุมหลังเก่า ซึ่งปัจจุบันไม่ได้ใช้งาน แต่ยังคงมีกระแสไฟฟ้าอยู่ โดยใช้เป็นที่เก็บพัสดุภัณฑ์ของโรงเรียน ประเภท เก้าอี้พลาสติก ม้านั่ง และอื่นๆ

ในช่วงก่อนเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ภายในหอประชุม ระหว่างที่นักการภารโรงทำงานอยู่ในบริเวณใกล้เคียงหอประชุมหลังเก่า ก็พบว่ามีประกายไฟเกิดขึ้นบริเวณสายไฟช่วงกลางหอประชุม จากนั้นไม่นานก็เกิดไฟลุกพรึบอย่างรวดเร็ว ความรุนแรงของไฟทำให้ฝ้าเพดานทรุดพังลงมาด้านล่าง

เมื่อเห็นดังนั้นจึงแจ้งให้ตนทราบ ตนจึงได้ประสานรถดับเพลิงและรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ โดยวันนี้อนุญาตให้ผู้ปกครองมารับนักเรียนกลับบ้านได้ ซึ่งทางโรงเรียนจะทำการประเมินสถานการณ์ กันพื้นที่จุดเกิดเหตุไม่ให้นักเรียนเข้าใกล้ และจะไม่ให้กระทบกับการเรียนการสอน

โดยในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) จะยังเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติ แต่จะกำชับไม่ให้นักเรียนเข้าใกล้จุดเกิดเหตุ พร้อมสั่งการให้ครูและบุคลากรของโรงเรียนดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เพราะหอประชุมมีสภาพเก่า สายไฟก็เก่าไม่ได้เปลี่ยน และยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook