"ชูวิทย์" สอนวิชานับโทษ ไขประเด็น "สนธิ" ติดคุกจริงแค่ 3 ปี เฉพาะคนคุกเท่านั้นที่จะเข้าใจ
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ พิธีกรชื่อดังโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีการปล่อยตัว นายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่เข้าเกณฑ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษ หลังถูกตัดสินจำคุก 20 ปี ในคดีความผิดเกี่ยวกับกฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และอื่นๆ ซึ่งรับโทษมาแล้ว 3 ปี 1 เดือน โดยใจความระบุว่า
"อิสรภาพของสนธิ
ในขณะที่ผมเป็นนักโทษ ได้พบกับพี่สนธิอยู่หลายครั้งหลายครา แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันอยู่เป็นประจำ ถึงวันนี้ พี่สนธิได้รับพระราชทานอภัยโทษ พบกับอิสรภาพที่หอมหวน บางคนไม่เข้าใจว่า แกต้องโทษคุก 20 ปี ติดมาแค่ 3 ปี แล้วทำไมออกมาได้ ? ก็อย่างที่ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ท่านบอกไว้ตรงเผง เพราะระดับท่านไม่มีพลาด ต้องส่งให้ศาลท่านเป็นผู้วินิจฉัยอนุมัติปล่อยตัว
ขอเล่าให้ฟังตามภาษาอดีตคนคุกอย่างชูวิทย์ว่า เมื่อนักโทษเด็ดขาด มีอายุเกินกว่า 70 ปี มีคุณสมบัติครบตามพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ พ.ศ. 2562 ก็ได้รับการปล่อยตัว แต่พี่สนธิแกดันถูกตีความว่ามีคดีติดบัญชีแนบท้าย จึงไม่ได้รับการปล่อยตัวในตอนนั้น ต่อมามีนักโทษในคดีลักษณะเดียวกันไปร้องอุทธรณ์ กรมราชทัณฑ์จึงส่งไปให้ศาลตีความ ท้ายสุดศาลตีความเป็นคุณ ได้รับการปล่อยตัว จึงทำให้พี่สนธิได้รับผลพลอยได้ไปด้วย
ไหนๆ ก็เล่าถึงเรื่องในคุกไปแล้ว ขอเล่าวิชานับโทษให้กับคนภายนอกเข้าใจ ยกตัวอย่าง กรณีนักโทษเด็ดขาดชายคดีหนึ่ง ต้องโทษ 15 ปี ไม่ติดคดีแนบท้าย เช่น คดีฆ่า ข่มขืน ฉ้อโกงประชาชน จำคุกมาแล้ว 3 ปี ไม่เคยต้องโทษมาก่อน เป็นนักโทษชั้นเยี่ยม เมื่อมีพระราชทานอภัยโทษ จะได้ลดโทษลง 1 ใน 2 จาก 15 ปี เหลือ 7 ปี 6 เดือน เมื่อติดไปแล้ว 3 ปี จึงเหลือโทษที่จะต้องจำอีก 4 ปี 6 เดือน ผ่านไปอีก 2 ปี มีอภัยโทษอีกครั้ง เพราะยังเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม ได้ลดอีก 1 ใน 2 จาก 7 ปี 6 เดือน เหลือ 3 ปี 9 เดือน เมื่อติดมาแล้ว 5 ปี เท่ากับได้กลับบ้าน
วิชา “นับโทษ” จึงมีเฉพาะคนคุกเท่านั้นที่จะเข้าใจ เพราะนั่งนับนอนนับทุกวันฝึกนับกันเอาไว้หน่อย เพราะอาจมีหลายคนที่ต้องไปเรียนวิชานับโทษในคุกเร็วๆ นี้"