"วราวุธ" เดือด! จ่อฟ้องคนให้ร้ายซื้อขายตำแหน่ง 600 ล้านบาท

"วราวุธ" โมโหจ่อฟ้องคนใส่ความ "ทส." ซื้อขายตำแหน่งอธิบดี คนเป็นรัฐมนตรีรับเลย 600 ล้าน อัดไม่จริง ควรคิดให้มากกว่าพูด พร้อมย้ำ "เจอกันที่ศาล"

จากกรณีที่ นายสัตวแพทย์ธีทัชฐ์ เกียรติลดารมย์ ประธานสมาพันธ์รักผืนป่าแห่งประเทศไทย และอดีตผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ผ่านทางนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา พร้อมกับอ้างว่ามีกระทรวงแห่งหนึ่งมีการทุจริตอย่างมาก และพบว่ามีการซื้อขายตำแหน่งอธิบดีกรมใหญ่ โดยผู้เป็นรัฐมนตรีจะได้รับเงิน 600 ล้านบาท จึงอยากให้ พล.อ.ประวิตร เข้ามาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว

นอกจากนี้ นายธีทัชฐ์ ยังอ้างด้วยว่า กระทรวงดังกล่าวยังมีข้าราชการระดับสูงทุจริตงบประมาณอีกด้วย ทั้งโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณ ทอนคืนเงินงบประมาณ เพิ่มเงินเดือนให้กับคนใกล้ชิดอย่างไม่ถูกต้อง รวมไปถึงละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่เร่งรัดสอบสวนวินัยร้ายแรงกับข้าราชการ 5 นาย และปล่อยปะละเลยไม่สอบสวนมาตั้งแต่ปี 2558 เนื่องจากกลุ่มข้าราชการดังกล่าวเป็นผู้ใกล้ชิดกับอธิบดีนายหนึ่ง

พร้อมกันนี้ ในระหว่างที่นายธีทัชฐ์ แถลงข่าวได้เปิดคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นเสียงการต่อรองเรียกรับเงินระหว่างข้าราชการระดับผู้อำนวยการในกระทรวงแห่งนี้

ต่อมา นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวถึงประเด็นการร้องเรียนดังกล่าวหลังมีกระแสว่าถูกพาดพิงด้วยว่า ไม่ทราบว่าผู้ร้องเรียนมีเจตนาอย่างไร แต่ขอให้คำนึงถึงความเป็นจริงว่า ข้าราชการในตำแหน่งนั้นจะมีเงินถึง 600 ล้านบาทจริงหรือ และหากมาเป็นระดับปลัดกระทรวงจะต้องมีเงินมากกว่านี้อีกเท่าใด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนไม่เป็นความจริง

อย่างไรก็ตาม ก็อยากได้คลิปเสียงที่ผู้ร้องเรียนนำมาเปิดเผยเหมือกัน ที่ระบุว่าเป็นผู้อำนวยการด้วย ก็อยากรู้ว่าเป็นผู้อำนวยการหน่วยงานไหน คุยกับใคร

"ผมอยากได้หลักฐานที่เป็นคลิปเสียงที่ว่า จะได้เอาไปฟ้องร้องคนที่มากล่าวอ้างเรื่องนี้ เพราะมันไม่เป็นความจริงเลย ผู้พูดจะต้องใช้วิจารณญาณมากกว่านี้ ไม่ใช่รับฟังอะไรมาแล้วนำมาพูดต่อ" นายวราวุธ กล่าว

รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ กล่าวอีกว่า ย้ำอีกครั้งว่าไม่ทราบเจตนาของผู้ร้องเรียนว่ามีเป้าหมายอะไร หรือมีเรื่องบาดหมางใจกับผู้บริหารในกรมนั้นๆ หรือไม่ แต่เมื่อมาพาดพิงถึงรัฐมนตรี ก็คงต้องไปฟ้องร้อง และไปเจอกันที่ศาล