พี่เลี้ยงไม่ให้แม่เจอหน้าลูกชายวัย 2 ขวบ รู้อีกทีสมองบวมโคม่า อยู่ด้วยเครื่องช่วยหายใจ
(5 ก.ย.62) ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Jam Jamjuree ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความตัวเองกับลูกชายหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู เป็นภาพตั้งแต่ยังเด็กและภาพในปัจจุบัน ระบุว่า “หลับให้สบายนะคนเก่งของแม่ ไม่ต้องเป็นห่วงแม่นะ เนส ชาติหน้ามีจริง กลับมาเกิดเป็นลูกแม่อีกนะลูก #ใจสลาย”
จากนั้นมีการนำโพสต์มาแชร์ต่อใน เพจกลุ่ม “คนรักบางสะพาน” ซึ่งเป็นเพจชื่อดังของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมข้อความเพิ่มเติมว่า “น้องโดนพี่เลี้ยงทำร้าย พี่เลี้ยงคนบางสะพาน น้องยังเด็กฝากถึงผู้ใหญ่ช่วยดูแลด้วย” ซึ่งโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ต่อไปอีกเป็นจำนวนมาก พร้อมสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนเป็นเหตุให้เด็กชายเสียชีวิต ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อเจ้าของโพสต์ ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.จามจุรี อายุ 24 ปี ชาวอำเภอบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นแม่ของ น้องเนส อายุ 2 ขวบ 6 เดือน
ทั้งนี้ น.ส.จามจุรี กล่าวว่า ตนเองต้องเดินทางมาทำงานที่ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยง มาช่วยเลี้ยงน้องเนส บุตรชายวัย 2 ขวบครึ่ง ก่อนหน้านี้ตนได้กลับไปเยี่ยมลูก แต่พี่เลี้ยงกลับบ่ายเบี่ยงมาตลอด ทำให้ไม่ได้พบหน้าน้องเนส กระทั่งรถพยาบาลของหน่วยกู้ภัยใน อ.บางสะพาน ได้มารับน้องเนสที่บ้าน ด้วยสาเหตุเพราะน้องเนสเกิดมีอาการชัก ได้นำส่งแพทย์ที่โรงพยาบาลบางสะพาน แต่อาการไม่ดีขึ้น จากนั้นได้ส่งต่อมายังโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา ทีมแพทย์และพยาบาลได้ทำการรักษาและได้ใช้เครื่องช่วยหายใจน้องเนสไว้ ผ่านมา 2 วัน กระทั่งช่วงเย็นวันที่ 5 กันยายน 2562 น้องเนสอาการทรุดลง ไม่ตอบสนองใดๆ กับการรักษา
ทั้งนี้ตนสงสัยว่า น้องเนสน่าจะถูกพี่เลี้ยงทำร้ายร่างกาย เพราะก่อนหน้านี้ไม่ยอมให้ตนพบลูก โดยพี่เลี้ยงยอมรับว่า ตีน้องเนสบ้างเวลาที่น้องซน
ทางด้านนางปนัดดา อายุ 34 ปี ป้าของน้องเนส กล่าวด้วยว่า หลังทราบเรื่องตนได้รีบเดินทางจากกรุงเทพ เพื่อมาดูหลานชาย ซึ่งขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่หอผู้ป่วยวิกฤต อาคารอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ โดยใช้เครื่องมือแพทย์ สวมสายออกซิเจนช่วยหายใจ
อาการน้องเนสล่าสุดนั้น พบว่า อาการน้องเนสอยู่ในภาวะวิกฤต สมองบวม ไม่ตอบสนองตั้งแต่วันแรกที่มารักษาตัวที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ขณะนี้คงอยู่ในสภาพอาการไม่รู้สึกตัว อยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ ส่วนแม่น้องเนสยังอยู่ในอาการเสียใจ พูดจาไม่รู้เรื่อง ตอบข้อซักถามได้ไม่ชัดเจน ซึ่งได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หอผู้ป่วยวิกฤต ว่ายังคงดูแลน้องเป็นอย่างดี โดยสวมเครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา ตนอยากให้ตำรวจเร่งรัดติดตามตัวพี่เลี้ยงรายนี้มาสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากครอบครัวสงสัยว่า น้องเนส อาจจะถูกพี่เลี้ยงทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส