แม่เด็กวัย 15 ไม่ทนเงียบ แฉยับ "ผู้หมวดหื่น" จับลูกสาวข่มขืนวิปริตครึ่งปี

แม่เด็กนักเรียนวัย 15 ปี ร้องขอความเป็นธรรม ลูกสาวถูกนายทหารยศ ร.ท.ข่มขืนวิปริต ใช้สายเคเบิลรัดข้อมือเอาผ้าอุดปาก ถ่ายคลิป ขู่แบล็กเมล์นานกว่าครึ่งปี แจ้งความคดีไม่คืบ อวดศักดา "กูเส้นใหญ่"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางแดง (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่สหกรณ์ในค่ายทหารแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นภรรยาของเจ้าหน้าที่ทหารยศ จ.ส.อ.นายหนึ่ง ในสังกัดค่ายทหารแห่งหนึ่งใน อ.นาทวี จ.สงขลา และเป็นแม่บุญธรรมของ ด.ญ.ฟ้าใส (นามสมมติ) อายุ 15 ปี เรียนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งของตัวอำเภอ ได้เดินทางมาร้องเรียนต่อ นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา ที่ อ.นาทวี

จากนั้นลูกสาวจึงปล่อยโฮร้องไห้เล่าให้ฟังทั้งหมดว่า นายทหารยศ ร.ท.มารับไปทานข้าว และจะพาไปมีเพศสัมพันธ์ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.จะนะ รวมทั้งเล่าให้ฟังอีกว่า เคยลวงไปข่มขืนที่บ้านพักในค่ายหลายครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งถูกข่มขืนอย่างทารุณ วิปริต ใช้สายเคเบิลรัดข้อมือเอาผ้าอุดปาก ถ่ายคลิป ถ่ายภาพเปลือย

หากวันไหนต้องการมีเพศสัมพันธ์จะส่งแชทหา พร้อมข่มขู่จะประจานเอารูปไปลงในโซเชียล ทำให้เด็กต้องจำยอม เป็นการกระทำอย่างป่าเถื่อน ทั้งๆ ที่ยังเป็นเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะ ตนเองจึงนำลูกสาวไปแจ้งความที่ สภ.นาทวี และพาไปตรวจร่างกายที่ รพ.นาทวี

>> เด็กอายุ 15 ถูกเจ้าหน้าที่รัฐข่มขืนยับ ชาวบ้านโอดเรื่องเงียบเหมือนปิดข่าว

หลังจากที่ไปแจ้งความ นายทหารหื่นพกปืนมาข่มขู่ที่บ้านพัก ข่มขู่ว่าไปแจ้งความทำไม ทำไมไม่พูดเหมือนที่บอกให้พูด พร้อมตะคอกอีกว่า "กูเส้นใหญ่ พวกมึงทำอะไรกูไม่ได้หรอก" เมื่อลูกสาวเห็นนายทหารหื่นอยู่หน้าบ้านก็ร้องไห้เสียงดัง มีความหวาดกลัวตัวสั่น ตนจึงได้โทร.แจ้งสามี เจ้าหน้าที่ทหารยศ จ.ส.อ. ให้มาที่บ้าน ก่อนมีปากเสียงกับนายทหารหื่นคนดังกล่าว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา เวลา 22.00 น. สามีของตนนั่งดื่มเบียร์ที่บ้านพักของเพื่อนภายในค่าย นายทหารหื่นก็ได้เดินถือปืนยิงสามี กระสุนเฉี่ยวลำตัวไป 2 นัด พร้อมถือปืนปรี่จะเข้ามายิงซ้ำ สามีจึงใช้ปืนที่เหน็บอยู่ยิงขู่ลงพื้น 2 นัด เพื่อป้องกันไม่ให้นายทหารคนดังกล่าวเข้ามาใกล้ ก่อนรีบวิ่งหนีเข้าบ้านพัก ตรวจสอบพบรอยกระสุนปืนถากเข้าที่ชายโครงขวาและที่แขน ตนจึงรีบโทรแจ้งสารวัตรทหารให้มาระงับเหตุ และพาสามีไปแจ้งความที่ สภ.นาทวี

นางแดงเล่าด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอีกว่า หลังจากเกิดเหตุรุนแรง ตนเองและสามีก็ถูกผู้บังคับบัญชาของสามีให้ออกจากบ้านพักในค่ายทหาร รวมทั้งนายทหารคนดังกล่าวที่มีเรื่องด้วย

“สามีโดนตั้งกรรมการสอบสวน สั่งขัง 7 วัน ฐานยิงปืนในค่ายทหาร และให้พักราชการจนกว่าคดีจะเสร็จสิ้น จนกลายเป็นโรคซึมเศร้า ที่ผ่านมาเคยใช้เชือกแขวนคอตัวเอง เพราะคิดว่าเขาคือต้นเหตุ จนต้องไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาทุกสัปดาห์ ส่วนนายทหารหื่นคู่กรณีกลับใช้ชีวิตตามปกติ ยังมาออกกำลังกายที่ค่ายทหารทุกวัน”

นอกจากนี้ นางแดง ยังเล่าอีกว่า ชีวิตครอบครัวต้องมาล่มสลาย ลูกได้รับความอับอาย ต้องออกจากโรงเรียนไปเรียนต่อที่ต่างจังหวัดกับยาย ที่ผ่านมามีนายทหารหลายท่านบอกให้ยอมความรับค่าเสียหายของนายทหารหื่น ซึ่งยอมจ่ายค่าเสียหายเป็นเงินสด 500,000 บาท และที่ดินอีก 1 แปลงราคา 800,000 บาท พร้อมกับย้ำด้วยว่าสู้ไปก็เจ็บตัว และพร้อมจะประสานให้โยกตำแหน่งไปที่อื่น จะได้ไม่ต้องเจอกัน ซึ่งตนเองและสามีจะไม่ขอรับข้อเสนอใดๆ เนื่องจากไม่ต้องการเงิน อยากให้กฎหมายลงโทษคนผิดที่มีจิตวิปริต

“นายทหารคนนี้มีภรรยาและลูกแล้ว แต่กลับมีพฤติกรรมแบบนี้กับเด็กอีกหลายคน ทั้งในค่ายและนอกค่าย อยากให้สังคมได้รับรู้” นางแดง กล่าว

นายทหารยศ พ.ท. นายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาค่ายทหารดังกล่าวได้ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่า ได้รับทราบเรื่องนี้มาโดยตลอด ยืนยันว่าตนพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมกับผู้ใต้บังคับบัญชาทั้ง 2 ฝ่าย โดยนายทหารยศ ร.ท. ได้โทรศัพท์มาหาที่บ้าน บอกว่าฝ่าย จ.ส.อ.มายิงข่มขู่ที่บ้านพัก กลายเป็นว่ามีเรื่องเพิ่มคดี 1 คดี ทาง ร.ท.มีการแจ้งความกลับเอาผิด จ.ส.อ.เช่นกัน

“ตนได้แนะนำให้ผู้เสียหายที่กลัวว่าไม่ได้รับความปลอดภัยให้ไปแจ้งความกับตำรวจไว้ก่อน ส่วน ร.ท.คู่กรณีที่ยังทำงานอยู่ในค่ายนั้น เนื่องจากได้เสนอให้ออกจากราชการไว้ก่อน แต่คำสั่งยังไม่ตกลงมา เจ้าตัวจึงยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ในค่าย จนกว่าจะมีคำสั่ง เรื่องทั้งหมดขอให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป” นายทหารยศ พ.ท. กล่าวเพิ่มเติม

ทางด้าน พ.ต.ต.นราทิพย์ เรืองศรี สว. (สอบสวน) สภ.นาทวี เปิดเผยว่า เบื้องต้นแยกเป็น 2 คดี 2 พนักงานสอบสวนรับผิดชอบเฉพาะคดีความผิดทางเพศ ของนายทหารยศ ร.ท. ตอนนี้อยู่ในระหว่างรอผลพิสูจน์ทางการแพทย์จากโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ พร้อมตั้งข้อหาไว้ 2 ข้อหาคือ พรากผู้เยาว์ และข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี นำตัวฝากขังที่ศาลทหาร จากนั้นได้ประกันออกมา อย่างไรก็ตามขอไม่เปิดเผยรายละเอียดใดๆ เนื่องจากเกรงว่าจะเสียรูปคดี