แฉญาติคนไข้โพสต์ขู่ตบหมอ ที่แท้รอตรวจแค่ 12 นาที รพ. ประกาศแล้วว่ามีเคสฉุกเฉิน

แฉญาติคนไข้โพสต์ขู่ตบหมอ ที่แท้รอตรวจแค่ 12 นาที รพ. ประกาศแล้วว่ามีเคสฉุกเฉิน

แฉญาติคนไข้โพสต์ขู่ตบหมอ ที่แท้รอตรวจแค่ 12 นาที รพ. ประกาศแล้วว่ามีเคสฉุกเฉิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีคุณหมอท่านหนึ่งโพสต์เรื่องราวผ่านทางเฟซบุ๊ก Jirasak Tumprayoch หลังถูกญาติคนไข้แอบถ่ายรูป พร้อมโพสต์ด่าหยาบคายและขู่จะตบ เพราะรอนานแล้วหมอเดินไปเดินมาไม่ทำอะไร พร้อมกับชี้แจงสาเหตุว่า ที่คนไข้ต้องรอนานเพราะขณะนั้นแพทย์ติดรักษาคนไข้วิกฤตหลายราย

>> หมอสุดทน ญาติคนไข้โมโหรอ 1 ชม. โพสต์ด่า-ขู่ตบ ทั้งที่กำลังรักษาคนไข้วิกฤตอยู่

ล่าสุดคุณหมอท่านเดิมได้โพสต์ชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม หลังจากได้พูดคุยกับทีมงานเวรวันเกิดเหตุ ระบุว่า...

"จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมกับทีมงานเวรวันนั้นได้คุยกันว่าเกิดอะไรขึ้น เวลา 18.28 น. ญาติพาคนไข้มาที่ห้องบัตรและทำบัตรได้คิวที่ 156 (หมายความว่าตั้งแต่ 8.00 น. มีคนไข้มาตรวจแล้ว 156 คน) วัดสัญญาณชีพ ความดัน อุณหภูมิ อัตราการเต้นหัวใจ อัตราการหายใจ ปกติ เวลา 18.40 น.- 18.50 น. คนไข้ตรวจเสร็จ ระยะเวลารอตรวจ 12 นาที รวมเวลาตรวจอีก 10 นาที (ปกติเคสทั่วไปจะรอได้ 60 นาที ทางโรงพยาบาลมีแจ้งในใบตรวจอยู่แล้ว)

รูปที่คนไข้ถ่ายมา น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ผมติดต่อส่งตัวคนไข้ไตวายเรื้อรังที่สงสัยมีโรคหัวใจร่วมด้วย โดยส่งต่อที่ รพ. จังหวัด ซึ่งช่วงเวลานั้นเจ้าหน้าที่ รพ. ก็ประกาศว่ามีคนไข้ด่วนที่ต้องดูแลอยู่ ถามญาติหรือคนไข้คนอื่นที่รอตรวจช่วงเวลานั้นได้ ผมก็ไม่รู้ว่าญาติโกรธหรือโมโหผมและทีมงานเรื่องอะไร ถึงได้โพสต์เช่นนั้น

เคสผมไม่ใช่เคสแรกที่เกิดปัญหาแบบนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่โดนกระทำจากญาติหรือคนไข้อีกเยอะ แต่เราก็ต้องทนครับ เพราะยังมีคนไข้คนอื่นที่ต้องรักษา มันเป็นเพียงจุดเล็กๆ ในผ้าสีขาว หลังจากที่ผมไปแจ้งความเมื่อวาน วันนี้ตำรวจนัดเจอคนโพสต์ที่โรงพัก 12.00 น. ครับ"

คุณหมอได้ระบุด้วยว่า ขอบคุณเสียงจากโลกโซเชียลที่เข้าใจการทำงานของทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล กำลังใจตรงนี้ทำให้ทุกคนมีแรงที่จะทำงานต่อไป ส่วนตัวตนเองก็มีลูก เข้าใจอารมณ์เวลาลูกป่วยเป็นอย่างดี แต่ก็อยากให้ญาติใจเย็นๆ และเข้าใจระบบการทำงานของโรงพยาบาลบ้าง

โดยที่ออกมาโพสต์ เพราะอยากให้กระทรวงมีระบบป้องกันเหตุการณ์แบบนี้ ที่จะเกิดกับเจ้าหน้าที่ที่ชัดเจน อยากให้คนไทยเคารพสิทธิ์และเห็นใจกันมากกว่านี้ และอยากให้ทุกคนรู้จักการปฐมพยาบาลเบื้องต้น รวมทั้งความรู้ด้านสุขศึกษามากกว่านี้ด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook