ปฏิบัติการแทงหลัง (ธรรมนัส) ทะลุถึงหัวใจ (ประยุทธ์)?

แล้วก็ถึงคิว “เจาะยาง” ”มือเคลียร์” นักเจรจาความขัดแย้งภายในรัฐบาล “ผู้กว้างขวาง” อย่าง “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จู่ๆ “สื่อต่างประเทศ” ก็โผล่มาพาดหัวเล่นข่าวหน้า 1 ขุดอดีตมาเผาปัจจุบัน กับการแฉว่ารัฐบาลเรือเหล็กของไทยตั้ง “รัฐมนตรี” ที่มีมลทินคดียาเสพติด

เป็น “ผู้กองธรรมนัส” ผู้มีสีสันชีวิตที่โลดโผน ที่เคยชื่อ “มนัส” หรือ “ยุทธภูมิ” ก่อนจะกลับมาเป็น มนัส และเปลี่ยนเป็น “พชร” และเคยถูกตั้งชื่อเล่นว่า “ผู้กองตุ๋ย” แต่จริงๆ ชื่อเล่นของเขาที่พ่อแม่ตั้งให้คือ “นัท” ที่โลดแล่นในอาณาจักรเดียวกัน และถือเป็น “น้องรัก” ที่ใกล้ชิดกับนายทหาร “ผู้กว้างขวาง” อย่าง “เสธ.ไอซ์” พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต ก่อนจะเข้าสู่การเมืองจนเติบโตอย่างรวดเร็วเพราะใกล้ชิด “ศูนย์กลางอำนาจ” เมื่อครั้งรัฐบาลไทยรักไทยจนมาถึงเพื่อไทย

เป็น “ธรรมนัส” ที่แม้เมื่อการเมืองพลิกขั้วเปลี่ยนข้าง ผันมาเป็น “รัฐบาล คสช.” ต่อภาคมาเป็น “รัฐบาลประยุทธ์ 2” ชื่อของ “ธรรมนัส” ก็ยังติด “หน้าปัด” ในความหวือหวาน่าสนใจของ “สื่อ” ตลอดเวลา ทั้งฉาก “เบื้องหลังการถ่ายทำ” ที่มักจบลงด้วยภาพการ “จับเข่าคุย” “กอดคอ” และ “จับมือ” โดยตัวเขาเป็นคนกลางที่ถูกส่งมาเคลียร์ ไม่ว่าจะเป็นครั้ง “ขันหมากการเมืองล่ม” หรือ “ศึกเก้าอี้ดนตรี” กับ “กลุ่มสามมิตร” และสารพัดกลุ่มในพลังประชารัฐ หรือกรณีปัญหา “10 พรรคเล็ก” ครั้งล่าสุดกับเก้าอี้ประธานคณะกรรมาธิการ ที่อาจติดติ่งคาใจเรื่อง “ฤาษีเลี้ยงลิงกินกล้วย” กันอยู่บ้างก็ตาม

>> ธรรมนัส ทรัพย์สินอื้อกว่า 600 ล้าน! พระเครื่องเพียบ แต่เมีย 2 ลูก 7

แน่นอนในบทที่ทำให้รัฐบาล “เสียงปริ่มน้ำ” ที่ขย่มตัวเองกระเพื่อมอยู่ตลอดเวลาผ่านมาได้ขนาดนี้ ย่อมตกเป็น “เป้าหมาย” การทำลายจาก “ฝ่ายตรงข้าม” ไม่น้อยไปกว่า “พล.อ.ประวิตร” ที่เป็นเปลือกกระท้อนให้ทุบแทนน้องเล็กอย่าง “พล.อ.ประยุทธ์” จากที่ “ร.อ.ธรรมนัส” ถือเป็น “คีย์แมน” คนสำคัญของ “รัฐบาล คสช.ภาค 2” แบบ “บู๊ในบุ๋น บุ๋นในบู๊” มาแต่ต้น และฉายแวว “เด่น” ในบทบาทเหนือไปกว่าใคร แม้กับบรรดานักการเมืองเขี้ยวลากดินในพรรค พปชร. กลุ่มสามมิตร “4 รัฐมนตรี” หรือกลุ่มก๊วนการเมืองทั้งพรรคเดียวกันและต่างพรรค ด้วยเพราะเขาถือเป็น “อาณัติสัญญาณ” สายตรงบายพาสถึงใจกลางอำนาจ “3ป.” นั่นเอง

ที่หนนี้ ว่ากันว่าถือเป็นการ “แทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจ” ของรัฐบาล “ลุงตู่” อีกครั้ง ผ่านการจัดการไปยัง “คน” ที่เป็นทั้ง “จุดแข็ง” และ “จุดอ่อน” โดยยังคงใช้ “มุกเก่า” กับการใช้บาดแผลในอดีตมาจัดการกับปัจจุบัน หากแต่เปลี่ยนวิธีเป็นการใช้ “สื่อนอก” โจมตีเข้ามาภายในประเทศ เจาะจงจัดการกับ “จุดอ่อน” ในเชิงภาพลักษณ์รัฐบาล ในจังหวะคลุมเครือของ “ผู้อยู่เบื้องหลัง” ที่ถูกมองว่าอาจ “แตะมือ” กับคนนอก เล่นเกมขจัด “จุดแข็ง” ในการเป็น “เส้นเลือดใหญ่เลี้ยงหัวใจ” รัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์” อย่าง “ผู้กองธรรมนัส”

>> จัดหนัก! "เสรีพิศุทธ์" เผยส่งเรื่อง "ธรรมนัส" ให้สื่อออสซี่แฉเอง ลั่น "ต้องเจอคนอย่างผม"

อย่าลืมว่าหนก่อนที่ “ร.อ.ธรรมนัส” แถลงเคลียร์ตัวเองก่อนมาเป็น รมช.เกษตรฯ ในคดีเดียวกันนี้ และอีกสารพัดคดีติดตัวกระทั่งครั้งถูก “ถอดยศทหาร” ที่ลงนามโดย “นายหัวชวน” สมัยเป็นนายกฯ เอง ว่าเป็นแค่เรื่องอดีตที่เคยอยู่ใน “ยุทธจักรนักเลง” ที่ “เคลียร์จบ” ไปหมดแล้ว ก่อนจะมาเล่นการเมือง ซึ่งครั้งนั้นเขาเปรยทีเล่นทีจริงว่ามีขบวนการจากฝ่ายตรงข้ามต้องการทำลาย เพราะเขาถือเป็น “เส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงหัวใจรัฐบาล” กุม “ความลับ” “ดีลต่อรอง” หากล้มเขาได้ รัฐบาลก็สั่นคลอน และบอกว่าสื่อก็รู้ดีว่าเขาเป็น “กำลังหลัก” ในการ “จัดตั้งรัฐบาล” มีบทบาทในการขับเคลื่อนและประสานงาน ซึ่งหากล้มเขาได้ รัฐบาลก็สั่นคลอน เพราะหลายเรื่องที่ได้ประสานงานไว้นั้นถือเป็น “ความลับ” ที่เขารู้เพียงคนเดียว

>> “ธรรมนัส” ลุกตอบในสภา ลั่นไม่เคยติดคุก แค่ถูกกันเป็นพยาน 4 ปี ขู่ฟ้องทุกคนที่พาดพิง

ทั้งหมดทั้งมวล ต้องติดตามว่าหนนี้ “ร.อ.ธรรมนัส” ที่ล่าสุดหลังจากลุกขึ้นตอบกระทู้ถามสดแทนนายกฯ ลุงตู่ ในประเด็นที่ฝ่ายค้านยื่นถามเกี่ยวกับคดียาเสพติดที่สื่อนอกเป็นผู้นำมาเปิดเผยแล้ว ยังขุดเอาหลักฐานวิทยานิพนธ์และทรานสคริปต์ของการเรียนในระดับปริญญาเอกมาโชว์สื่อมวลชน เพื่อยืนยันว่าจบด็อกเตอร์มาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในสหรัฐอเมริกาจริงๆ จะสามารถเคลียร์ตัวเองจากการถูกผลักให้กลับมาเป็น “จุดอ่อน” ในจังหวะนี้ให้ “พลิกกลับ” คืนมาเป็น “จุดแข็ง” ให้ “ลุงตู่” ได้หรือไม่?

>> ธรรมนัส งัด “วิทยานิพนธ์-ทรานสคริปต์” มาโชว์ ยันจบจริง ม.แคลิฟอร์เนีย

>> “ธรรมนัส” ยันจบจากสหรัฐอเมริกาจริง ซัด “เสรีพิศุทธ์” คนแก่ก็พูดไปเรื่อย

เพื่อจะได้กลับมาช่วยเป็น “อาวุธหนัก” ช่วย “พี่ใหญ่” ”พล.อ.ประวิตร” ปกป้องรัฐบาล “ประยุทธ์ 2” ที่กำลังใกล้ถึงวันที่ต้องเคลียร์คัตกับ “ศึกใหญ่คู่ขนาน” ทั้งการต้องถูกซักฟอก “ปมถวายสัตย์ไม่ครบ” และปมศาลนัดตัดสินคดีคุณสมบัติเจ้าหน้าที่รัฐของ “พล.อ.ประยุทธ์” ในวันเดียวกันนั่นคือพฤหัสที่ 18 ก.ย.ที่จะถึงนี้

บอกได้เลยว่าคอการเมืองต้องติดตามกันแบบห้ามพลาดแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว!!!