ชีวิตยิ่งกว่าละคร เด็ก ป.4 ตื่นมาในอ้อมกอดศพพ่อ ช้ำไร้ญาติ-ไม่มีใครรับศพ

เด็กหญิงวัย 10 ขวบ สูญเสียพ่อไปในอ้อมกอด ตัวเองถูกส่งไปบ้านพักเด็กฯ ซ้ำบังเอิญไปเจอน้องๆ อีก 3 คนถูกทิ้งเหมือนกัน น่าเวทนารับศพออกมาไม่ได้ เพราะไร้ญาติ

เรื่องราวยิ่งกว่าละคร เด็กหญิง ป.4 เผชิญหน้ากับชะตาชีวิตที่แสนรันทด พ่อหนีโรงพยาบาลมานอนกอดและสิ้นลมตาย ล่าสุดยังไม่สามารถนำศพออกมาจากโรงพยาบาลได้ เพราะไม่มีญาติติดต่อ ขณะที่ตัวเองต้องเข้าไปอยู่บ้านพักเด็กฯ เพื่อนที่โรงเรียนรู้เรื่องถึงกับร้องไห้สะอื้น

ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดช่องลม) เมืองราชบุรี ได้เปิดเผยว่า น้องโมโน ด.ญ.ทัตสิกา อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.4 ของโรงเรียน ต้องเผชิญหน้ากับชะตากรรมชีวิตที่เลือกไม่ได้ ปัจจุบันพักอยู่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ราชบุรี เนื่องจากเพิ่งสูญเสียพ่อแท้ๆ จากอาการป่วย และไม่มีญาติที่ไหนอีก

ทางโรงเรียนเพิ่งทราบเรื่องดังกล่าวเมื่อไม่นาน หลังจากที่มีผู้ปกครองและเพื่อนๆ ของน้องโมโน ได้แจ้งว่า นายกฤษดา หรือ เฮียหมู อายุ 61 ปี พ่อของน้องโมโน ได้เสียชีวิตลงและร่างอยู่ที่โรงพยาบาลราชบุรี แต่ไม่สามารถติดต่อขอรับศพออกมาได้ เนื่องจากไม่มีญาติที่บรรลุนิติญาติมาติดต่อ ขณะที่น้องก็ถูกส่งไปยังบ้านพักเด็กฯ ทำให้ขณะนี้ยังมาเรียนไม่ได้ ทำให้เพื่อนๆ ต่างรู้สึกสงสารเป็นอย่างมาก

เรื่องราวของน้องโมโนยังถูกกล่าวถึงตอนเข้าแถวหน้าเสาธง ทำให้ผู้ปกครองและพ่อค้าแม่ค้าที่ทราบเรื่อง ได้รวบรวมเงินบริจาคจำนวนหนึ่ง มาสมทบกับคณะครูของโรงเรียน เพื่อเก็บเอาไว้ช่วยเหลือการจัดงานศพให้กับพ่อของน้องโมโน และเมื่อเดินทางไปเยี่ยมที่บ้านพักเด็กฯ ก็ทราบว่า แม่ของน้องยังพาน้องสาวอีก 3 คน มาฝากไว้ที่บ้านพักเด็กฯ ด้วยเช่นกัน น้องโมโนจำน้องๆ ได้เมื่อมาเจอกันที่บ้านพักเด็กฯ

ขณะที่ครูประจำชั้นของน้องโมโนระบุว่า ไม่เคยทราบเรื่องราวดังกล่าวมาก่อน เพราะน้องไม่ได้มีพฤติการณ์บ่งชี้ว่ามีปัญหาครอบครัว ก็ยังเห็นพ่อของน้องมารับส่งที่โรงเรียนอยู่เป็นประจำ แต่ทราบว่าก่อนที่พ่อของน้องโมโนจะเสียชีวิตลงนั้น ได้ล้มป่วยและพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ด้วยความรักและเป็นห่วงลูกจึงแอบหนีออกมาจากโรงพยาบาล และกลับมานอนกอดลูก ก่อนจะสิ้นใจในอ้อมกอดของลูกอย่างน่าเวทนา

แต่ปัญหาที่ยังน่าเป็นห่วงในขณะนี้คือ ยังไม่สามารถนำร่างของนายกฤษดาออกมาจากโรงพยาบาลและจัดพิธีงานศพได้ เพราะไม่มีใครรับเป็นญาติ ทางโรงเรียนไม่สามารถติดต่อแม่ของน้องโมโนได้ เพราะไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน เนื่องจากเป็นคนไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง

ทั้งนี้ ทางโรงเรียนได้รวบรวมเงินบริจาคช่วยเหลืองานศพเอาไว้ได้ และยังไม่อยากเปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือน้อง เนื่องจากเกรงว่าพอมีเงินบริจาคเข้ามาปริมาณเยอะขึ้น จะทำให้มีคนออกมาแสดงตัวเป็นญาติและก่อความวุ่นวายในสายเลือดขึ้นได้

ทางด้านบ้านพักเด็กฯ ได้ทำการดูแลน้องโมโนเป็นอย่างดี โดยสภาพจิตใจของน้องเริ่มดีขึ้นแล้ว หลังจากต้องพบเจอเหตุพ่อเสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตา เบื้องต้นได้นำหนังสือมาให้น้องได้อ่านและเตรียมสอบ และในวันสอบจะส่งไปสอบที่โรงเรียนต่อไป อีกทั้งยังปรึกษากันว่า หากจัดพิธีงานศพให้พ่อของเด็ก จะพาน้องไปร่วมงานด้วย แต่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะสามารถนำศพพ่อของเด็กออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่