ชาวบ้านดักชูป้ายให้ "ลุงตู่" เห็น ร้องทุกข์โครงการคลองผันน้ำหมื่นล้าน

ชาวบ้านดักชูป้ายให้ "ลุงตู่" เห็น ร้องทุกข์โครงการคลองผันน้ำหมื่นล้าน

ชาวบ้านดักชูป้ายให้ "ลุงตู่" เห็น ร้องทุกข์โครงการคลองผันน้ำหมื่นล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชาวบ้านดักริมถนนชูป้าย หวังให้ขบวนนายกรัฐมนตรีได้เห็น ร้องทุกข์เดือดร้อนโครงการคลองผันน้ำหมื่นล้านนครศรีธรรมราช ชี้ร้องเรียนทุกช่องทางไม่ได้ผล โดยกีดกันไม่ให้ยื่นหนังสือถึงทางการ

(13 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อนจากคลองผันน้ำหมื่นล้านบาท หรือในชื่อ "โครงการคลองผันน้ำเลี่ยงเมืองนครศรีธรรมราช" ในตำบลไชยมนตรี ตำบลบางจาก อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ได้มาดักรอขบวนรถของพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บริเวณแยกหัวถนน ตำบลศาลามีชัย อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อชูป้ายความเดือดร้อนให้ขบวนรถของนายกรัฐมนตรี ขณะกำลังเดินทางไปยังโครงการประตูระบายน้ำในโครงการนี้ที่คลองท่าเรือ-หัวตรุด

โดยเชื่อว่าหากนายกรัฐมนตรีเห็นป้ายและจะเกิดการสอบหาข้อเท็จจริง โดยการชูป้ายครั้งนี้ ชาวบ้านในตำบลไชยมนตรีได้เป็นแกนนำชูป้าย พร้อมทั้งยกมือไหว้ขบวนรถ โดยไม่ได้สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายใดๆ หลังจากที่ขบวนรถผ่านแล้วต่างแยกย้ายกลับบ้าน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาบันทึกภาพทั้งผู้ที่มาชูป้ายและผู้สื่อข่าวที่มาบันทึกภาพข่าว

ขณะที่ชาวบ้านชี้แจงเหตุผลว่า ที่ผ่านมาการร้องเรียนความเดือดร้อน ข้อเสนอให้มีการพิจารณาปรับโครงการเพื่อให้ชาวบ้านอยู่ได้ รวมทั้งไม่ส่งผลกระทบต่อระบบน้ำและสิ่งแวดล้อม พื้นที่ก่อสร้างประตูระบายน้ำที่ กม. 9+200 คลองท่าเรือ-หัวตรุด วงเงินสูงถึงกว่า 9,580 ล้านบาท โดยชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบรวมตัวศึกษาโครงการพบว่าโครงการนี้ไม่ได้มีการศึกษาผลกระทบ หรือ อีไอเอ แต่อย่างใด

นายนิพนธ์ ชาวตำบลไชยมนตรี หนึ่งในผู้มาชูป้ายเปิดเผยว่า ทางเราไม่ได้คัดค้านโครงการ แต่อยากเสนอให้มีการปรับเปลี่ยนด้วยการแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ คือการปรับปรุงคลองสายหลักให้สามารถระบายน้ำได้ การชะลอน้ำเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งรักษาชุมชนจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบให้ประชาชนสามารถอยู่ในพื้นที่ต่อไปได้ หากยังเดินหน้าแน่นอนว่าครอบครัวชุมชนล่มสลายแน่นอน รวมทั้งสภาพแวดล้อมต้นน้ำกลางน้ำที่จะเรียกกลับมาไม่ได้อีกต่อไป

เช่นเดียวกับ นางปราณี เปิดเผยว่า ตนมีสมาชิกในครอบครัว 12 คน มีที่ดิน 2 ไร่มีบ้านผลสวนผลไม้ในพื้นที่จะต้องถูกเวนคืนทั้งหมดสมาชิกทั้ง 12 คนจะอยู่อย่างไร อีกทั้งตอนนี้ก็สูงวัยขึ้นเรื่อยๆ แล้วจะให้ไปทำมาหากินอะไรอีก พร้อมทั้งเรียกร้องขอให้ทางการช่วยเหลือด้วย

ขณะเดียวกันชาวบ้านกลุ่มนี้ยังแจ้งด้วยว่ามีการยื่นหนังสือทุกช่องทางอย่างต่อเนื่องหลายครั้งกลับ แต่ไม่ได้รับความสนใจใดๆ รวมทั้งมีความพยายามในการยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อครั้งพายุปาบึก ช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่กลับถูกกีดกันไม่ให้ไปได้ โดยการชูป้ายครั้งนี้เชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะเห็นและเรียกสอบข้อเท็จจริงของโครงการ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook