รวบสาวแสบ! หลอกญาติแท้ๆ-แม่ลูกอ่อน-ใช้รูปอกตู้มลวงหนุ่ม รวมสูญเงินเกินครึ่งล้าน

รวบสาวแสบ! หลอกญาติแท้ๆ-แม่ลูกอ่อน-ใช้รูปอกตู้มลวงหนุ่ม รวมสูญเงินเกินครึ่งล้าน

รวบสาวแสบ! หลอกญาติแท้ๆ-แม่ลูกอ่อน-ใช้รูปอกตู้มลวงหนุ่ม รวมสูญเงินเกินครึ่งล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จับสาวแสบอ้างโครงการนารีอุปถัมภ์ หลอกเงินแม่ลูกอ่อน ญาติแท้ๆ ของตัวเอง และใช้รูปสาวสวยเป็นโปรไฟล์เฟซบุ๊กหลอกหนุ่มให้หลงเชื่อ รวมสูญเงินไป 1 แสนบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (13 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดอุดรธานี มีการแถลงจับกุม น.ส.สุนิสา หรือ เปิ้ล อายุ 25 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ 222/2562 ลงวันที่ 12 กันยายน 2562 ข้อหา “ฉ้อโกง และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่มีสิทธิ์” โดยจับกุมได้ ห้องพักเลขที่ 801 ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครขอนแก่น จ.ขอนแก่น ควบคุมตัวพร้อมของกลาง บัตรเอทีเอ็มของผู้เสียหายมาทำการสอบสวนโรงพัก

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้ง น.ส.วิชุดา อายุ 20 ปี ว่าขณะนำลูกวัยแรกเกิดไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ถูก น.ส.สุนิสา เข้ามาตีสนิทและอ้างโครงการนารีอุปถัมภ์ของโรงพยาบาล ว่าเด็กที่เกิดในเดือนสิงหาคมจะได้รับค่าเลี้ยงดูเดือนละ 1,500 บาท และให้นมจนกว่าลูกจะมีอายุ 3 ปี และจะมีเงินให้รายเดือนอีก จนลูกมีอายุ 12 ปี และจะสร้างบ้านในราคา 3.5 แสนให้ แต่มีจะต้องค่าดำเนินการ ตนจึงหลงเชื่อและได้โอนเงินไปให้หลายครั้ง รวมเป็นเงินทั้งหมด 52,700 บาท หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาหาตนอีก

น.ส.วิชุดา กล่าวเพิ่มเติมว่าเงินที่โอนไปให้ น.ส.สุนิสา เป็นเงินที่ตนไปทำงานที่ประเทศเกาหลี จะเก็บเงินจำนวนนี้ไว้เพื่อเลี้ยงลูก ต่อมา น.ส.สุนิสา ได้หายตัวไปติดต่อไม่ได้ และไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลก็ไม่มีโครงการนารีอุปถัมภ์ จึงรู้ว่าตนถูกหลอก ก็ได้มาแจ้งความที่ สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อดำเนินคดีกับ น.ส.สุนิสา

พร้อมทั้งได้โพสต์เรื่องราดังกล่าวในเพจส่วนตัวและสื่อออนไลน์เตือนภัยและแจ้งจับ น.ส.สุนิสา เพราะว่ามีการหลอกต้มตุ๋นแบบนี้อีก 3 ราย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน อนุมัติศาลออกหมายจับ และติดตามจับกุม น.ส.สุนิสา ได้ขณะรอเหยื่อที่เป็นชายหนุ่มจากนครศรีธรรมราช ซึ่งหลงเชื่อภาพถ่ายจากโปรไฟล์เฟซบุ๊กเพื่อจะมาพักที่โรงแรมใน จ.ขอนแก่น

จากการสอบสวน น.ส.สุนิสา ให้การรับสารภาพว่า ตนได้อ้างโครงการนารีอุปถัมภ์เพื่อหลอกลวงผู้เสียหายจริง โดยตนมีอาชีพขายอาหารอยู่ที่ตลาดใน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร มีลูก 2 คน และเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตนมาคลอดลูกคนที่ 2 จึงได้รู้จักกับ น.ส.วิชุดา ขณะนำลูกมารักษา

จากนั้นตนได้เข้าไปตีสนิท แล้วพูดถึงการช่วยเหลือเด็กแรกเกิดในเดือนสิงหาคม ซึ่งตนได้อ้างชื่อโครงการนารีอุปถัมภ์ช่วยเหลือค่าเลี้ยงดู ค่านม เป็นรายเดือน และสร้างเรื่องให้แม่ที่มีฐานะยากจน หรือ เลี้ยงลูกคนเดียว และข้อมูลอื่นๆ แต่ต้องมีเงินค่าดำเนินการ จะต้องโอนให้ตนเป็นงวดๆ  เมื่อ น.ส.วิชุดา หลงเชื่อและได้โอนเงินให้ตนหลายครั้งรวมเป็นเงิน 5 หมื่นกว่าบาท

แล้วตนก็ปิดโทรศัพท์มือถือ ไม่คิดว่า น.ส.วิชุดา จะโพสต์เรื่องในสื่อออนไลน์และแจ้งความกับตำรวจ  กระทั่งมาถูกจับกุมได้ ขณะอยู่กับชายหนุ่มชาวนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเหยื่อรายใหม่ ที่หลอกผ่านทางหน้าเฟซบุ๊ก ได้เงินมาประมาณ 1 แสนบาท

ส่วนเงินที่ตนหลอก น.ส.วิชุดา ตนได้นำไปใช้จ่ายจนหมดแล้ว ซึ่งหลังทราบว่า น.ส.สุนิสา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับนำตัวมาที่โรงพัก ได้มีผู้เสียหลายราย และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เดินทางมาชี้ตัว และยืนยันจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด

พล.ต.ต.วรณัฎฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยอีกว่า จากการสืบสวนจนสามารถติดตามจับกุม น.ส.สุนิสา พบว่ามีพฤติกรรม หลอกลวง ลักษณะนี้กับญาติผู้ป่วยในพื้นที่โรงพยาบาลเลย โรงพยาบาลอุดรธานี โรงพยาบาลสกลนคร ตามแต่จะมีโอกาสเหมาะสม โดยจะใช้ชื่อปลอมที่ตั้งขึ้นมาเข้าไปตีสนิท พูดคุยกับเหยื่อให้หลงเชื่อโดยอ้างเรื่องโครงการนารีอุปถัมภ์ 

และยังมี ผู้เสียหายอีกรายที่เป็นญาติ น.ส.สุนิสา ใน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ก็โดนหลอกสูญเงินไป 5 แสนบาท โดยอ้างว่ามีที่ดิน 14 ไร่ ราคา 42 ล้านบาทใน จ.ขอนแก่น แต่สามีถูกฟ้องล้มละลาย จึงถูกอายัดที่ดิน อยากจะเดินเรื่องเอาที่ดินออกมาขาย แต่ไม่มีเงิน จึงขอยืมเงินไปดำเนินการ เมื่อขายที่ดินแล้วจะโอนเงินให้ ซึ่งหลังจากให้ยืมเงินไป จากนั้นก็ติดต่อ น.ส.สุนิสา ไม่ได้ จึงแจ้งความไว้ที่ สภ.สว่างแดนดิน จ.สกลนครเช่นกัน

นอกจากนี้ น.ส.สุนิสา ยังมีการใช้ภาพโปรไฟล์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวออกแนวสวยงามและเซ็กซี่ ทำให้ชายหนุ่มเข้ามาทักและขอเป็นเพื่อนมีการพูดคุยกัน จนหลงเชื่อโอนเงินให้กัน โดยเหยื่อรายล่าสุดเป็นชายหนุ่ม อายุ 27 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ซึ่ง น.ส.สุนิสา ได้หลอกว่าป่วยกำลังจะผ่าตัดสมอง จนชายหนุ่มหลงเชื่อได้โอนเงินมาให้ 1 แสนบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด

ก่อนจะบอกว่าถ้าขายที่ดินได้แล้วจะคืนเงินให้ หลังจากชายหนุ่มโอนเงินได้เดินทางมาหา น.ส.สุนิสา และเดินทางไปเที่ยวด้วยกัน ก่อนจะมาถูกตำรวจเข้าจับกุมที่ จ.ขอนแก่น และยังมีพฤติกรรมหลอกลวงและเบี้ยวค่าห้องพักตามโรงแรมและรีสอร์ตในหลายพื้นที่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook