ผลสอบระบุ เครื่องบินแอร์ฟรานซ์ไม่ได้แตกกลางอากาศ

เจ้าหน้าที่สอบสวนของฝรั่งเศสเปิดเผยว่า เครื่องบินแอร์บัส เอ 330 ของสายการบินแอร์ฟรานซ์ ที่ประสบอุบัติเหตุตกในมหาสมุทรแอตแลนติกไม่ได้แตกกลางอากาศ แต่แตกในขณะที่ตกกระทบน้ำทะเล นอกจากนี้ ยังพบหลักฐานว่าความบกพร่องที่เกิดกับอุปกรณ์ตรวจวัดความเร็วของเครื่องบิน มรณะลำนี้ เป็นเพียงปัจจัยหนึ่ง แต่ไม่ใช่สาเหตุของเครื่องบินตก

เจ้าหน้าที่ขยายเวลาการค้นหา กล่องบันทึกข้อมูลการบิน (กล่องดำ) ของเครื่องบินลำนี้ต่อไปอีก 10 วัน แต่จากข้อมูลในขณะนี้ทำให้สำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุของฝรั่งเศสยอมรับว่า เป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจสาเหตุการตกที่แท้จริง เพราะไม่ทราบว่าในระยะความสูง 35,000 ฟุต จนถึงน้ำทะเลนั้น เกิดอะไรขึ้นกับเครื่องบิน ซึ่งสิ่งที่จะไขปริศนานี้ได้คือกล่องดำ

อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบซากเครื่องบินทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่า เครื่องบินพุ่งลงทะเลในทิศทางการบินตามแนวดิ่งอย่างรวดเร็ว เครื่องบินไม่ได้แตกกลางอากาศก่อนตกสู่พื้นน้ำ แต่เป็นการแตกหลังจากที่ตกกระทบน้ำ เพราะถ้าเป็นการแตกกลางอากาศ จะต้องพบชิ้นส่วนเครื่องบินกระจัดกระจายทุกทิศทาง แต่ลักษณะของชิ้นส่วนที่พบอยู่ในทิศทางเดียวบ่งชี้ว่าเครื่องบินพุ่งกระทบน้ำโดยใช้ส่วนท้องลง นอกจากนี้ ลักษณะของเสื้อชูชีพที่พบก็ไม่ได้พองตัว บ่งชี้ว่าผู้โดยสารแทบไม่ได้รับการแจ้งเตือนให้เตรียมพร้อมว่าเครื่องบินกำลังจะพุ่งลงน้ำ

ขณะนี้มีการคาดเดาว่า สาเหตุของอุบัติเหตุอาจเกิดจากอุปกรณ์ตรวจวัดความเร็วรุ่นเก่า ทำให้นักบินได้รับข้อมูลความเร็วที่ผิดพลาด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของสำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุของฝรั่งเศสระบุว่า สิ่งนี้น่าจะเป็นเพียงปัจจัยหนึ่ง แต่ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตก และจากการสอบสวนก็ไม่พบร่องรอยการเกิดเพลิงไหม้หรือการระเบิดเกิดขึ้นในเครื่องบิน