ต้องงัดกลยุทธ์ ตัด "ธรรมนัส" เพื่อรักษา "ประยุทธ์" หรือไม่? อีกไม่นานคงได้รู้

หลังจากเรือเหล็กถูกปลดพันธนาการในปม “ถวายสัตย์ฯ” ไปแล้ว ทำลุงตู่ยิ้มผุดพรายได้ไม่นาน กลับต้องมาตรึง ขึง เครียด หงุดหงิดกันอีกในเรื่องร้อนสุดขีด เมื่อกล่องดวงใจรัฐบาลอย่าง “ผู้กองธรรมนัส” ถูกฝ่ายค้านทุบครั้งแล้วครั้งเล่า “ดอกแรก” เรื่องเกี่ยวกับยาเสพติด “ควันยังไม่ทันจาง” ฝ่ายค้านขยับจวกต่อในกรณีวุฒิการศึกษาปลอม ซ้ำมาอีกดอก และยังไม่มีใครรู้ว่าจะมีดอกที่ 3 ดอกที่ 4 ตามออกมาอีกหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เมื่อไปจับสัญญาณความอึดอัด ความหงุดหงิด ความโมโห ของลุงตู่ เวลาถูกต้อนเรื่องผู้กองธรรมนัส ทำให้ย้อนไปถึงช่วงก่อนหน้านี้ที่ลุงตู่โดนกระทุ้งเรื่องปมถวายสัตย์ฯ เช้า สาย บ่าย เย็น จนลุงตู่เสียอาการ “ฟิวส์ขาด” ไปหลายครั้งแล้ว ซึ่งเข้าใจได้ถึงความไม่พอใจ แต่ช่วงนั้นลุงตู่ทำอะไรมากไม่ได้ เพราะเรื่องปมถวายสัตย์ฯ เป็นเรื่องของตัวเองโดยตรง ไม่เกี่ยวกับบุคคลอื่น

แต่เรื่อง “ธรรมนัส” นั้น แม้จะไม่ใช่เรื่องของตัวเอง แต่ขณะนี้กำลังถูกรุกไล่อย่างหนัก ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งเป็นผู้คัดเลือกบุคคลผู้ทรงเกียรติเข้ามาทำงาน แล้วดันได้บุคคลที่มีตำหนิเข้ามา ตัวหัวหน้าต้องแสดงความรับผิดชอบหรือไม่ และยิ่งรวมไปถึงท่าทีของลุงตู่ที่ยังไม่ขยับเขยื้อนในเรื่องนี้เลย แถมดันไปบอกว่า ฟัง “ธรรมนัส” แจงคดียาเสพติดแล้วมีเหตุผล เหมือนกับบอกว่าเหตุผลฟังขึ้น

นั่นย่อมทำให้เกิดคำถามตามมาว่า ป้องพรรคเล่นพวกกันอยู่หรือไม่ ขณะเดียวกันอดีตกรรมการการเลือกตั้ง “นายสมชัย ศรีสุทธิยากร” โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ความจริงไม่เคยมี 2 ชุด หัวหน้ารัฐบาลที่มีภาวะผู้นำเท่านั้นเป็นผู้มีหน้าที่ทำความจริงให้ปรากฏ และทำไมไม่อาศัยกลไกของกระทรวงการต่างประเทศ เข้าไปตรวจสอบว่าสิ่งที่ “ธรรมนัส” พูด กับความเป็นจริงที่ออสเตรเลียนั้น เหมือนหรือต่างกัน อย่างไร

หรืออย่างในเรื่องวุฒิการศึกษานั้น ทำไมรัฐบาลไม่ขยับเช่นกัน เหมือนจะใช้กลยุทธ์ "ความสงบสยบความเคลื่อนไหว" แต่เชื่อได้ว่าทางฝ่ายค้านจะต้องงัดหมัดเด็ด เพิ่มความกดดันให้ลุงตู่เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้นทุกวัน ข่าวสารจริงหรือไม่จริงไม่มีใครรู้ ก็จะกลายเป็นชุดข้อมูลที่ถูกผลิตซ้ำแล้วซ้ำเล่า กระจายตามสื่อโซเชี่ยล ขยี้ ขย้ำ ให้ลุงตู่ต้องตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใดหรือไม่

อันที่จริงแล้ว ถ้าย้อนไปฟังคำพูดของ “ธรรมนัส” เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2562 หลังจากได้รับตำแหน่งใหม่ๆ ว่า “เขารู้ว่าผมเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่จะเอาเลือดไปหล่อเลี้ยงในหัวใจของรัฐบาล จึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อล้มผม” ซึ่งแปลไทยเป็นไทยได้ว่าเขาเป็นกล่องดวงใจรัฐบาล ซึ่งต่อมาไม่มีใครออกมาค้านคำพูดของเขาเลย เหมือนกับทุกคนในพรรคพลังประชารัฐยอมรับว่า นี่คือเรื่องจริง!

ที่จริงแล้วอาจเป็นเพราะว่า ส.ส.เกือบ 30 ชีวิตในซุ้มของ “ธรรมนัส” บวกกับความใจถึงพึงได้ คอนเน็กชั่นแน่น แบ็กดี พวกเยอะ เขาจึงเป็นล๊อบบี้ลิสต์จอมเก๋าที่เคลียร์ใจได้ทุกเรื่อง ทำให้มีอำนาจต่อรองสูงยิ่ง และนั่นยิ่งทำให้ลุงตู่อึกอักอย่างยิ่ง เหมือนน้ำท่วมปากทำอะไรไม่ได้มากนัก เพราะที่ผ่านมาก็ใช้บริการของ “ธรรมนัส” มาหลายเรื่อง และยังมีอีกหลายเรื่องที่อาจต้องใช้บริการต่อไปในอนาคต

แต่ที่สุดแล้วเมื่อถึงวันหนึ่งที่นาวาเหล็กต้องเผชิญมรสุมระดับพายุทอร์นาโดโหมกระหน่ำ จนกัปตันเรืออาจต้องยอมสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิตของลูกเรือทั้งหมด นั่นอาจนำมาสู่การนับถอยหลัง กลยุทธ์ตัด “ธรรมนัส” เพื่อรักษา “ประยุทธ์” จะถูกมาใช้หรือไม่

อีกไม่นานคงได้รู้กัน!!!