สังคมสะเทือนใจ เสือโคร่งของกลาง วัดป่าหลวงตาบัว ป่วยล้มตายกว่า 80 ตัว
เสือโคร่งของกลางจากวัดป่าหลวงตาบัว ป่วยและทยอยล้มตายเรื่อยๆ กว่า 80 ตัวแล้ว ท่ามกลางความแคลงใจของสังคม แม้เจ้าหน้าที่จะยืนยันว่า เสือตายเพราะภาวะโรคหัดของสัตว์
เสือโคร่งของกลางที่ยึดจากวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน จ.กาญจนบุรี จำนวน 147 ตัว ซึ่งถูกนำมาดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง จ.ราชบุรี ล่าสุดมีรายงานว่าต่างพากันทยอยล้มตายกันไม่ต่ำกว่า 80 ตัวแล้ว เนื่องจากภาวะติดเชื้อจากอาการโรคหัดสุนัขในกลุ่มเสือ
ตามรายงานระบุว่า เสือโคร่งของกลางจากวัดป่าหลวงตาบัว เผชิญกับโรคหัดสุนัขและอาการอัมพาตลิ้นกล่องเสียง มาตั้งแต่ช่วงที่เพิ่งรับมาดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ฯ เดือนมิถุนายน 2559 เจ้าหน้าที่ได้ทำการจัดการดูแลสุขภาพเสือโคร่งอย่างต่อเนื่อง แต่ก็พบว่าเสือโคร่งสายพันธุ์ไซบีเรียส่วนใหญ่ทยอยล้มตาย เพราะเสือเหล่านี้เกิดจากการเพาะพันธุ์สายเลือดเดียวกันและภูมิคุ้มกันโรคน้อย
สำหรับกรณีดังกล่าว ทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้รับทราบถึงข้อมูลและกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น ซากของเสือที่ตายลงได้ทำการจัดการกับซาก บางส่วนได้แช่ฟอร์มาลีนและฝังตามหลักทางวิชาการ โดยโรคดังกล่าวเป็นโรคที่มักพบได้กลุ่มเสือและแมว
ทั้งนี้ยังมีการตั้งข้อสังเกตด้วยว่า อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เสือโคร่งเหล่านี้พากันล้มตาย เนื่องจากเกิดภาวะเครียดในกลุ่มเสือโคร่ง เนื่องจากเสือเหล่านี้ถูกเพาะพันธุ์คล้ายกับสัตว์เลี้ยง กลายเป็นสัตว์ป่าที่ไม่มีสัญชาตญาณของความเป็นสัตว์ป่า ต้องดูแลและให้ความใกล้ชิดประหนึ่งสัตว์เลี้ยง เมื่อพวกมันกลายเป็นของกลาง ก็เลี้ยงดูอาจจะไม่เหมือนเดิม ทำให้เสือโคร่งเกิดภาวะเครียดและล้มตายได้
จากข้อมูลพบว่าเสือโคร่งของกลางจากวัดป่าหลวงตาบัว ซึ่งทางกรมอุทยานฯ ได้ตรวจยึดเอาไว้ มีจำนวนทั้งสิ้น 147 ตัว โดยถูกแบ่งออกไปดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง 85 ตัว แต่ตายไปแล้ว 54 ตัว ส่วนเสือโคร่งอีก 62 ตัวถูกส่งไปดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน จ.ราชบุรี ล่าสุดก็พบว่าล้มตายไปแล้ว 32 ตัว ทำให้ปัจจุบันมีเสือโคร่งจากวัดป่าหลวงตาบัว ตายไปถึง 86 ตัวแล้ว