แม่ "อาสาโต้ง" กู้ภัยตายหลังช่วยน้ำท่วม ยังทำใจไม่ได้ แต่สุดภูมิใจในตัวลูก

ญาติจัดพิธีศพให้กับ "สท.โต้ง" อาสากู้ภัยที่ป่วยปอดติดเชื้อ หลังกลับมาจากภารกิจช่วยเหลือน้ำท่วมอุบลฯ แม่เปิดใจยังรับไม่ได้ แต่ก็ภูมิใจที่ลูกได้รับสิ่งที่รักก่อนจากไป

(15 ก.ย.) บรรยากาศที่บ้านของ นายดำรงศักดิ์ เจียดประโคน อาสาสมัครกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมประจำจุด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เจ้าของนามเรียกขาน จรรยา 802 และยังเป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลบ้านกรวด หรือ สท.โต้ง ที่เสียชีวิต ด้วยอาการปอดติดเชื้อและติดเชื้อในกระแสเลือด หลังกลับมาจากช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ จ.อุบลราชธานี โดยญาติๆ ได้นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัวและญาติ

โดยเฉพาะ นายชอบ ผู้เป็นพ่อ รวมทั้ง นางศุทธิรัตน์ ผู้เป็นแม่ และ น.ส.รัตนวดี อายุ 30 ปี ภรรยาที่ยังคงทำใจไม่ได้กับการสูญเสียในครั้งนี้ และเป็นการสูญเสียอย่างกะทันหัน แต่ทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่ารู้สึกภูมิใจที่อาสาโต้งจากไปพร้อมกับได้ทำในสิ่งที่รักและได้ช่วยเหลือผู้อื่นด้วย

ขณะญาติพี่น้อง ชาวบ้าน และเพื่อนอาสากู้ภัยที่ทราบข่าวการจากไปของอาสาโต้ง ก็ทยอยเดินทางมาเคารพศพและแสดงความอาลัยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทางครอบครัวก็ได้นำรูปถ่าย รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่อาสาโต้งใช้ในการทำหน้าที่ และสิ่งของที่รักมาตกแต่งในงานศพด้วย

>> อาลัยคนดี "ส.ท.โต้ง" อาสากู้ภัยฯ ช่วยน้ำท่วมที่อุบลฯ จนป่วยหนัก-เสียชีวิต

แม่ของอาสาโต้ง เปิดเผยว่า ลูกชายเป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่นมาตั้งแต่เด็กๆ กระทั่งได้เข้าไปเป็นอาสาสมัครกู้ภัยฯ ก็ทุ่มเททำหน้าที่ช่วยเหลือผู้คนมาโดยตลอด ไม่ว่าจะมืดค่ำดึกดื่นแค่ไหนก็ออกไปช่วยเหลือ ถึงขนาดลงทุนใช้เงินส่วนตัวออกรถตู้ เพื่อใส่เครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับงานกู้ภัยเอง

ผ่านมาไม่เคยเห็นลูกชายบ่นว่าเหนื่อยเลยสักครั้งเดียว ตนก็เคยบอกลูกชายว่าให้ดูแลตัวเองบ้าง เวลาขับรถก็อย่ารีบร้อน แต่ลูกชายก็ตอบกลับมาว่า ถ้าไปถึงช้าอาจจะช่วยชีวิตคนอื่นไม่ทัน โดยเฉพาะกรณีอุบัติเหตุที่ผู้บาดเจ็บเสียเลือดมา และหากลูกชายรู้ว่าได้ช่วยเหลือเขา แล้วเขารอดชีวิตเขาก็จะรู้สึกดีใจมาก

กระทั่งล่าสุดที่รู้ว่าลูกพาทีมกู้ภัยฯ ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ จ.อุบลฯ ก็จะบอกให้ลูกดูแลตัวเองตลอด เพราะเห็นข่าวว่าน้ำท่วมสูงมาก กระทั่งลูกชายมาเสียชีวิตลงเพราะได้ทำในสิ่งที่รักและได้ช่วยเหลือคนอื่น ในฐานะแม่ก็รู้สึกภูมิใจในตัวลูก แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียลูกชายไปเร็วขนาดนี้

ขณะที่ ภรรยาของอาสาโต้ง ระบุว่า สามีเป็นอาสากู้ภัยฯ มากว่า 10 ปี ตั้งแต่ก่อนจะแต่งงานกัน และมีลูกสาววัย 6 ขวบด้วย บางครั้งเขาก็ยังลูกสาวออกไปช่วยงานอาสาด้วย เหตุที่เกิดขึ้นรวดเร็วมาก ตนกับลูกก็ไปช่วยเหลือน้ำท่วมกับสามี ไปวันที่ 9 กันยายน และกลับมาในวันที่ 10 กันยายน

พอกลับมา อาสาโต้ง ก็เริ่มมีอาการปวดหัวตัวร้อน ตอนแรกพาไปหาหมอที่คลินิกแต่อาการก็ไม่ดีขึ้น พบว่าไข้ยังสูง วันต่อมาจึงพาไปโรงพยาบาลบุรีรัมย์ หมอบอกอาการไม่ค่อยดี ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ก่อนจะเสียชีวิตลงในวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา จากภาวะปอดติดเชื้อ และติดเชื้อในกระแสเลือด

ขณะที่ชาวโซเชียลก็ต่างโพสต์แสดงความอาลัยและชื่นชมอาสากู้ภัยโต้ง บางคนยกให้เป็นวีรบุรุษที่ได้เสียสละชีวิตช่วยเหลือผู้คน โดยทางครอบครัวมีกำหนดประกอบพิธีฌาปนกิจศพ ในวันที่ 17 กันยายนที่จะถึงนี้ ที่วัดบ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์