ซาอุฯ ประกาศปิด 2 โรงกลั่นน้ำมันอย่างไม่มีกำหนด หุ้นดิ่งทันที 3%

ซาอุฯ ทำการปิด 2 โรงกลั่นน้ำมันฝั่งตะวันออกของประเทศไปอย่างไม่มีกำหนด ส่งผลดัชนีทาดาวุล ออลแชร์ส เปิดตลาดเมื่อวันอาทิตย์ปรับตัวลดลงทันทีร้อยละ 3 หรือร่วงลงราว 200 จุด ในขณะที่สหรัฐอ้างว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลังการใช้โดรนโจมตี

รายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศระบุว่าจากเหตุการณ์ที่โรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ 2 แห่งของบริษัทอารัมโก ถูกโจมตีจากโดรนจำนวน 10 ลำ เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมากลุ่มฮูตีได้ออกมาแสดงตนว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการทำลายล้างดังกล่าว

ต่อมานายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ทวีตข้อความว่าอิหร่านเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการส่งโดรนมาโจมตีในครั้งนี้ โดยอ้างว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลเตหะรานอยู่เบื้องหลังการโจมตีในซาอุดีอาระเบียมาแล้วกว่า 100 ครั้ง นี่ถือเป็นครั้งแรกที่มีการโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน แต่ไม่พบหลักฐานว่าโดรนฝูงดังกล่าวบินมาจากน่านฟ้าเยเมน พร้อมกับเรียกร้องให้นานาชาติประณามการกระทำครั้งนี้

>> กระทรวงพลังงาน ยืนยันบอมโรงน้ำมันซาอุฯ ยังไม่กระทบไทย

ล่าสุดทางเจ้าชายอับดูลาซิส บิน ซัลมาน รมว.พลังงานของซาอุดีอาระเบีย ได้กล่าวว่า บริษัทอารัมโก ตัดสินใจระงับการผลิตที่โรงกลั่นอับกาอิกและคูรานิส ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของประเทศ อย่างไม่มีกำหนด ซึ่งการระงับการผลิตครั้งนี้คิดเป็น 5.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ถือเป็นครึ่งหนึ่งของปริมาณการกลั่นของซาอุดิอาระเบีย ทำให้มีการคาดการณ์ว่าจะทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากซาอุดิอาระเบียเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก

จากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นของซาอุดีอาระเบียปรับตัวลดลงเมื่อเริ่มเปิดตลาดซื้อขายหุ้นในวันอาทิตย์ โดยดัชนีทาดาวุล ออลแชร์ส เปิดตลาดปรับตัวลดลงทันทีร้อยละ 3 หรือร่วงลงราว 200 จุด ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นมาเล็กน้อย โดยในช่วง 1 ชั่วโมงแรกของการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ดัชนีทาดาวุล ออลแชร์ส ลดลงไปร้อยละ 1.50 หรือ 7,715 จุด หุ้นในภาคพลังงานปรับตัวลดลงร้อยละ 4.7

>> ซาอุฯ หยุดผลิตน้ำมันฮวบครึ่งหนึ่ง หลังโรงกลั่นยักษ์โดนทิ้งระเบิด คาดอิหร่านมีเอี่ยว